Packaging Trends ที่แบรนด์ต้องมามุง เพื่อเอาใจลูกค้า Gen ใหม่ ๆ

Packaging Trends ที่แบรนด์ต้องมามุง เพื่อเอาใจลูกค้า Gen ใหม่ ๆ

Packaging Trends ที่แบรนด์ต้องมามุง เพื่อเอาใจลูกค้า Gen ใหม่ ๆ เน้นไปที่ sustainability, personalization และ technology advancements

บทความนี้เหมาะกับแบรนด์และเจ้าของธุรกิจที่กำลังศึกษา และส่องเทรนด์แพ็กเกจจิ้ง (Packaging) ซึ่งเราปฎิเสธไม่ได้เลยว่าน้องเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะดึงดูดให้หยุดดู เรียกความสนใจ ทำให้ประทับใจ และเกิดการซื้อสินค้าได้ บางแบรนด์อาจเลือกที่จะเชื่อโรงงาน เลือกแพ็คเกจที่ประหยัดต้นทุนเป็นหลัก นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผิดค่ะ เพียงแต่นุ่นอยากให้ทุกคนอัปเดตไปพร้อมกันด้วยว่าตอนนี้เทรนด์ไปทางไหน แบบที่เซลล์เสนอมาอาจจะราคาได้แต่เทรนด์ไม่มา ยอดขายก็ไม่เกิดน้า

เพราะอย่างที่นุ่นเกริ่นไปว่า Packaging เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยสร้างความประทับใจและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในสินค้าหรือบริการของแบรนด์ของคุณได้ การออกแบบและเลือกใช้แพ็กเกจจิ้งที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของคุณและสร้างความโดดเด่นในตลาดที่แข่งขันอย่างเต็มที่

เพราะฉะนั้นเรามาส่องเทรนด์แพ็กเกจจิ้งที่แบรนด์ควรพิจารณา และนำไปปรับใช้เพื่อชนะใจลูกค้าในปี 2023 เป็นต้นไปกันค่ะ:

Sustainable Packaging Solutions

Packaging Trends

ลูกค้าในยุคปัจจุบันมีความตระหนักมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และพวกเขามักมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบแพ็กเกจจิ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น การใช้วัสดุที่เป็นรีไซเคิล รากฐานพืชหรือวัสดุที่มาจากทรัพยากรธรรมชาติที่มีการบำรุงรักษาอย่างยั่งยืน เช่น กระดาษที่มาจากป่าไม้ที่ปลูกใหม่หรือพลาสติกที่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ การใช้วัสดุเชิงนิเวศในแพ็กเกจจิ้งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความสุขให้กับลูกค้าที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้านค่ะ

อีกทั้ง Gen Z และ Millennials ชอบผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ไม่ยั่งยืน (non-sustainable) ทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมคือการใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ เช่น:

ตัวอย่าง Sustainable Packaging

  • Reusable & Recyclable Product Packaging เปลี่ยนจากภาชนะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวเป็นภาชนะที่ใช้ซ้ำได้แทนค่ะ
  • Innovations In Biodegradable Materials
  • Starch-Based Plastics: มาจาก renewable sources เช่น ข้าวโพดและมันฝรั่ง ซึ่งย่อยสลายทางชีวภาพได้ง่ายโดยไม่ทำอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล
  • ไม้ไผ่: ทรัพยากรหมุนเวียนที่เติบโตอย่างรวดเร็วซึ่งสามารถนำมาใช้สำหรับบรรจุภัณฑ์และเครื่องใช้
  • ห่อใบตอง แบบไทย ๆ เช่น ขนมไทย
  • Paper-based Packaging: กระดาษธรรมดาห่อแทนห่อพลาสติกแบบเดิม ซึ่งก็มีกระดาษทั่วไป และสำหรับธุรกิจอาหารน่าจะจับเทรนด์กระดาษคราฟท์กันมาซักพักแล้ว
@phungpongg

ตอบกลับ @wooneie ตั้งแต่เปลี่ยน แพ็คเกจก็มีออเดอร์เยอะขี้น#พุงป่องข้าวกะเพรา #ขายเดลิเวอรี่ไม่มีหน้าร้าน #เดลิเวอรี่

♬ [Animals and dishes] Cute BGM – Sound Owl

อ้างอิงข้อมูลจาก pickaboxpack.com กล่องกระดาษคราฟท์นั้นมีทั้งที่สามารถย่อยสลายได้ 100% และที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ 100% “กระดาษ Kraftpak เหมาะนำไปใส่อาหารทั่วไปได้ไม่มีปัญหา แต่หากจะนำไปใส่อาหารที่มีลักษณะเป็นของเหลว อย่างซุป หรือน้ำจิ้ม อาจต้องผ่านการเคลือบฟิล์มพลาสติก PE เกรด Food Grade เพื่อกันน้ำซึมเสียก่อน เนื่องจากฟิล์มที่ใช้เคลือบมีพลาสติกเป็นส่วนประกอบหลักที่ช่วยป้องกันการรั่วซึมของน้ำและของเหลวต่าง ๆ ดังนั้น กระดาษคราฟท์ที่ผ่านการเคลือบฟิล์ม PE จึงอาจย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ได้ช้ากว่ากระดาษที่ไม่เคลือบฟิล์มเลย”

หากนักการตลาดอยากศึกษาเพิ่มเติมอย่างละเอียด สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับ Green Marketing ต่อได้ที่นี่ > https://www.everydaymarketing.co/?s=green+marketing

Personalization คิดแล้ว คิดอยู่ คิดต่อ

Personalization is not just a trend, it’s a consumer expectation

Personalization เป็นเทรนด์ที่น่าสนใจ และใช้เวลาคิดวิเคราะห์กว่าจะได้ดีไซน์ค่ะ แต่ในการทำแบรนด์และการตลาดมันก็คุ้มสุด ๆ ถ้าคุณอยากได้ยอดขายจากลูกค้ากลุ่ม Millennials และ Gen Z.

เน้นการออกแบบแพ็กเกจจิ้งที่เป็นพิเศษและสร้างความสัมพันธ์ที่ส่วนตัวกับลูกค้า โดยการปรับแต่งแพ็กเกจจิ้งให้เหมาะสมกับความต้องการและแบบพิเศษของลูกค้าแต่ละคน แนวคิดนี้มีความสำคัญเพราะลูกค้าในยุคปัจจุบันมักคาดหวังประสบการณ์ที่กำหนดเองและตรงตามความสนใจส่วนตัว

ในยุคนี้แนะนำให้ใช้เทคโนโลยีช่วยเฟ้นหาว่าอะไรที่ลูกค้าคาดหวังจะรวดเร็วและแม่นยำไม่น้อยค่ะ

Personalization Through Technology Integration

ใช้เทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์เพื่อปรับแต่งแพ็กเกจจิ้งให้เหมาะสมกับลูกค้า ลักษณะการใช้งานอาจมีการสร้างรูปแบบหรือลายพิเศษผ่านการพิมพ์ดิจิตอลหรือการสร้างรูปภาพที่ทำให้แพ็กเกจจิ้งดูเป็นพิเศษและเฉพาะตัว

Interactive technologies อย่าง AR ช่วยให้ลูกค้าเลือกสี การออกแบบ ฟอนต์ หรือเพิ่มข้อความลงในผลิตภัณฑ์บนสมาร์ทโฟนของตนได้ หรือให้ลูกค้ามีส่วนร่วมใน Personalizing unboxing process

การใช้เทรนด์แพ็กเกจจิ้ง Personalization ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีความสำคัญ สำหรับคนทำแบรนด์ย่อมทราบดีว่ามันคุ้มค่าที่จะลงทุนและสร้างความผูกพันในลูกค้าได้ดี อาจจะเริ่มจากลูกค้าชั้นดีก่อนก็ได้ค่ะ คนที่เป็น Top List

Minimalism and Simplification น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้

@kept.official

ฉันผู้ซื้อของเพราะแพคเกจจิ้งทุกสิ่งอย่าง 🤪 #รีวิวของน่ารักๆ #รีวิวกระเป๋าสวยๆ #มูจิ #muji

♬ U R MINE PRETZELLE speed up – bluewithong 🦄

เราได้ยินคำว่ามินิมอลกันมานานแล้วใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งบ้านมินิมอล แต่งตัวมินิมอล เทรนด์แพ็กเกจจิ้ง Minimalism and Simplification จะเน้นไปที่ความเรียบง่ายและความกระชับในการออกแบบแพ็กเกจจิ้ง เพื่อสร้างความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่ใช้งานง่ายต่อลูกค้า

แนวคิดนี้ได้รับความนิยมในยุคปัจจุบันเนื่องจากลูกค้ามักค้นหาความเรียบง่ายและความสะดวกสบายในการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ดังนั้นการออกแบบแพ็กเกจจิ้งแบบนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าและความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์ของคุณได้ค่ะ

ตัวอย่างเทรนด์แพ็กเกจจิ้ง Minimalism and Simplification ได้แก่:

  1. ออกแบบแพ็กเกจจิ้งให้มีโครงสร้างที่เรียบง่ายและตัวอักษรที่ชัดเจน ลดความซับซ้อนและการใช้งานที่ยุ่งยาก ใเพื่อเพิ่มความเข้าใจและสะดวกในการอ่านข้อมูลบนแพ็กเกจจิ้ง
  2. เลือกใช้วัสดุที่มีความคงทนและทนทาน เช่น กระดาษหรือการ์ดบอร์ดที่มีความหนาและแข็งแรง เพื่อปกป้องสินค้าในระหว่างการขนส่ง นอกจากนี้ยังสามารถใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น วัสดุไบโอดิกราดเบียดกันซึ่งสามารถย่อยสลายได้
  3. การจัดวางสินค้าภายในแพ็กเกจจิ้งให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเห็นและเข้าใจได้ง่าย รวมถึงการให้ขนาดที่เหมาะสมและตรงตามความต้องการของผลิตภัณฑ์ เพื่อลดการสูญเสียหรือการใช้งานที่ไม่เหมาะสม
  4. ใช้การออกแบบฉลากที่เรียบง่ายและกราฟิกที่เข้าใจง่าย เน้นคำอธิบายหรือข้อมูลสำคัญเท่านั้น เพื่อลดความสับสน

การใช้เทรนด์แพ็กเกจจิ้ง Minimalism and Simplification ช่วยให้ลูกค้ามีประสบการณ์การใช้งานที่ง่าย รวดเร็ว และมีความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ของคุณมากยิ่งขึ้น ดูคลีน ไม่รก แพงบ้าง ไม่แพงบ้างว่ากันตามประเภทสินค้า

[DO] แนะนำการใช้แพ็กเกจให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับธุรกิจ

เทปกล่องพัสดุสายมู

ใช้ในการสื่อสารกับลูกค้า

แนะนำให้ใช้แพ็กเกจจิ้ง หรือองค์ประกอบของแพ็คเกจอย่างเทป เป็นช่องทางการสื่อสาร แพ็กเกจจิ้งสามารถใช้เป็นช่องทางการสื่อสารเพื่อสื่อถึงคุณสมบัติหรือคุณค่าของผลิตภัณฑ์ได้ ด้วยการออกแบบให้สื่อความหมายและพิมพ์ข้อความที่เกี่ยวข้อง เช่น คุณสมบัติพิเศษ วัตถุประสงค์หรือข้อความที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าใจถึงแนวคิดหรือพลังบวกของผลิตภัณฑ์ใดใด~

สร้างประสบกาณ์

การออกแบบแพ็กเกจจิ้งให้เกิดประสบการณ์สำคัญ และน่าจดจำสำหรับลูกค้าจะช่วยสร้างความสัมพันธ์และความผูกพันของลูกค้ากับแบรนด์ของคุณได้ ตัวอย่างเช่น การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง (virtual reality) หรือเทคโนโลยีเสียงและภาพเพื่อให้ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์ในการใช้งานผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อ

นอกจากนี้ยังสามารถใช้การออกแบบที่สร้างความสนุกสนานและน่าตื่นเต้น เช่น การใช้สีสันสดใส รูปแบบที่น่าสนใจหรือการใส่ฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มความสว่างให้กับแพ็กเกจจิ้ง การตั้งแต่งแพ็กเกจจิ้งให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคก็เป็นที่นิยมในปัจจุบันมากที่สุด

[DON’T] แนวคิดที่ไม่แนะนำให้ใช้ทำแพ็กเกจ

Gendered packaging เพราะมันดูล้าสมัย และมีนัยยะ harmful

อ้างอิงจาก Euromonitor ที่พบว่า 56% ของผู้บริโภค Gen Z เชื่อว่าเพศไม่มีเส้นแบ่งอีกต่อไป แบรนด์ที่อยากได้แต่ประแส โดยไม่ได้ตระหนักจริง ๆ มักจะเล่นกลยุทธ์นี้เพื่อให้ตัวเองไม่ตกเทรนด์เฉย ๆ แต่ความจริงแล้วแพ็คเกจที่ชี้นำแบบแบ่งเพศมีความเสี่ยงที่จะทำให้ลูกค้าไม่ปลื้มค่ะ

Brands ที่ใช้แรงงานเด็ก

จากข้อมูลขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ มีแรงงานเด็ก 152 ล้านคนทั่วโลก
แบรนด์ต่าง ๆ ที่ใช้แรงงานเด็กจะถูกเล็งเป้าและคว่ำบาตรเพราะมองข้ามเรื่องสิทธิมนุษยชน เป็นข้อควรระวังสำหรับแบรนด์ใหญ่ ๆ นะคะ

Mini Checklist Packaging ที่ดีต่อลูกค้าและธุรกิจ

  1. Visual บรรจุสินค้าแล้วเป็นยังไง ดูดี น่าซื้อ น่าทานไหม? จะเพิ่มความอยากซื้อได้หรือเปล่า
  2. ความต้องการของลูกค้า และควรจะเน้นไปที่ความสะดวกสบาย (convenience) และความน่าสนใจ เช่นการใช้ตัวอักษรที่ชัดเจนและเห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ การใช้วัสดุที่มีคุณภาพดีและทนทานก็เป็นสิ่งที่สำคัญ
  3. Logistic / Delivery ด้วยการขนส่งนั้นร้านแทบจะควบคุมไม่ได้เลยค่ะ ยิ่งในบ้านเราสภาพถนน หนทางไม่อำนวยเลย ถึงไรเดอร์จะไม่ขับซิ่งก็มีสิทธิตกหลุมดวงจันทร์ถนนประเทศไทยได้เหมือนกัน ดังนั้นแบรนด์ยังควรคำนึงถึงการจัดส่งสินค้าให้สะดวกสบาย รักษาหน้าตาและคุณภาพสินค้า / อาหารแก่ลูกค้าด้วยนะคะ

Summary

สรุปแล้ว Key packaging trends 2023 คือ? sustainability, personalization, technology advancements และ convenience เป็นหลัก

ทำไมถึงเป็น Sustainability (ยั่งยืน)? เนื่องจากผู้บริโภครุ่นต่อไปใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และคาดหวังว่าแบรนด์ต่าง ๆ จะใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดของเสีย เพราะโลกที่เขาอยู่ตอนนี้มีแต่ขยะที่คนรุ่นก่อนทำผิดพลาดโดยตั้งใจ และไม่ตั้งใจ และปัจจุบันลูกค้ามี Awareness ปัญหาจากพลาสติกมากขึ้นด้วยค่ะ

Personalization & Interactive packaging เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม เพื่อดึงดูดเด็กๆ และสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ

Minimalist packaging เรียบแต่โก้ ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายและสีสันเบา ๆ ไม่เกิน 1-3 สี เพื่อสร้างรูปลักษณ์ที่สะอาดตาและทันสมัยขึ้น

หวังว่าทุกคนจะได้อัปเทรนด์แบบจุก ๆ ในบทความนี้และนำไปปรับใช้เพื่อพัฒนาธุรกิจให้ยอดขายปังขึ้นในปีนี้นะคะ แล้วพบกันในบทความหน้าค่ะ 🙂

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

Source

Noon Inch

นุ่น Business Data Research Analyst Specialist | Martech 🙋🏻‍♀️💻ใช้ชีวิตอยู่กับ Social Listening Tools เกือบทุกวันมาร่วม 6 ปี 🙋🏻‍♀️📈ทำงานด้าน Social Data Research ให้กับหน่วยงานรัฐและแบรนด์เอกชน 6 ปี 🙋🏻‍♀️✈️ชอบทำงานและชอบใช้เงิน แล้วก็เป็น K-POP🇰🇷 & Salmon Lover 🍣

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *