พฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา การใช้แค่ MarTech อย่างเดียวไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอีกต่อไป จิตวิทยาการตลาด (Marketing Psychology) จึงเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่จะช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น บทความนี้จะมาสรุปสิ่งที่ได้จากงาน MarTech Expo 2024 by SC Asset
Tag: Marketing Psychology
Peak-end Rule ที่จะมาเล่าให้ทุกคนฟังกันในวันนี้ เป็นแนวคิดที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทั้งธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดเล็ก โดยเฉพาะสำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีประหยัดต้นทุนในการสร้าง Customer Experience คุณไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างให้สุดปังอลังการตั้งแต่วินาทีแรกจนวินาทีสุดท้ายค่ะ เพียงแต่ต้องรู้จักดีไซน์ประสบการณ์ ณ ‘จุดพีค’ ให้น่าจดจำตลอดกาล และรู้จัก ‘จบ’ อย่างสวยงามก็พอ
Classical Conditioning จิตวิทยาการตลาด จูงใจลูกค้าสร้างเงื่อนไขการเรียนรู้ เคยสังสัยกันไหมคะว่า ทำไมเราเห็นสื่อโฆษณาหรือคอนเทนต์จากแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง เราจะนึกภาพออกได้ทันทีว่าแบรนด์นี้มี vibe แบบไหน และในทางกลับกันหากเราไปเห็นสิ่งของ สถานที่ หรือได้ยินเพลง เราก็จะนึกถึงแบรนด์นั้นทันที ปรากฏการณ์นี้มีที่มาที่ไปค่ะ และเป็นหนึ่งในทฤษฎีการตลาดที่คนทำการการตลาดควรศึกษาเอาไว้
Country of Origin Effects การตลาด ‘ทางลัด’ เสริมภาพลักษณ์ให้แบรนด์ เคยสงสัยกันไหมคะว่า ทำไมสินค้าบางแบรนด์ต้องเจาะจงว่าสินค้านี้มาจากประเทศนี้ ผลิตจากประเทศนั้น ใช้ส่วนผสมของประเทศนู้น หรือเวลาที่เราได้ยินคำว่า Made in China
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องได้ด้วยจิตวิทยานี่แหละค่ะ วันนี้ปลื้มพาทุกคนมารู้จัก Marketing Psychology หรือ จิตวิทยาการตลาด เพื่อสร้างอิทธิพลที่มีผลต่อผู้บริโภค โดยการโน้มน้าวใจอย่างมีกลยุทธ์ แม้ไม่ใช่นักจิตวิทยาตัวจริงก็ทำได้ค่ะ Marketing Psychology คือ มันคือการนำจิตวิทยามาใช้กับกลยุทธ์ทางการตลาด ซึ่งนักการตลาดจะใช้ในการดึงดูดผู้บริโภคเข้ามาและสร้างความสัมพันธ์ให้มีโอกาสได้กลายมาเป็นลูกค้า
กลับมาอีกแล้วกับ Psychology Marketing หลักจิตวิทยาที่สามารถทำมาปรับใช้ในการทำการตลาด ให้การสื่อสารของเรามีมิติและมีความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมายและวิธีการสื่อสารที่เหมาะกับแบรนด์ของเรามากยิ่งขึ้น โดยในวันนี้เรื่องที่เบสจะมาเล่าให้ทุกคนได้อ่านคือ In Group Favouritism หรือ อคติเชิงบวกแบบอิงกลุ่มครับ In Group Favouritism เป็นหลักจิตวิทยาที่ถูกนำมาปรับให้เข้ากับเรื่องของการสื่อสารที่ว่า
เคยได้ยินไหมครับว่าอะไรที่่ได้มายากนั้นจะดูมีความหมายมากขึ้นเสมอ Case Study วันนี้ผมเอาตัวอย่างโฆษณา ที่เอาหลักจิตวิทยาในเรื่องของความมาใช้ในการดึงความสนใจของคน ตามมาดูกันครับว่าจะหายากสักแค่ไหน แล้วความหายากนั้นสามารถดึงใจคนได้จริงไหม… แต่เตือนไว้ก่อนนะครับว่าอย่าพบาดสักบรรทัด เพราะระวัง! จะหาไม่เจอ ใช้หลักจิตวิทยาเพื่อสร้างโอกาสในแง่การตลาด Ad ชุดนี้จะไม่ทำคุณเสียเวลาชีวิตมากมายนัก เพราะเขาให้เวลาคุณแค่ 15