ปฏิวัติการทำความสะอาดของหุ่นยนต์ด้วยการขายนวัตกรรม และ ประสบการณ์

ปฏิวัติการทำความสะอาดของหุ่นยนต์ด้วยการขายนวัตกรรม และ ประสบการณ์

เทรนด์การตลาดในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ให้ข้อมูล หรือบอกจุดเด่นของสินค้าและบริการให้ลูกค้าได้รับรู้เท่านั้น แต่ควรสร้างคุณค่า (Value added) และประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับลูกค้าด้วย เนื่องจากลูกค้าในยุคปัจจุบันนั้นไม่ได้ตัดสินใจซื้อที่สินค้า หรือบริการเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีในเรื่องของประสบการณ์การใช้งานที่เข้ามาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจด้วย แม้จะเป็นสินค้าในลักษณะที่คล้ายกัน แต่ถ้าให้ประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีกว่า แม้จะต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้น พวกเขาเหล่านั้นก็พร้อมที่จะยอมจ่าย

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้นอย่างหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่นิยมกันมาสักพักแล้ว เพราะใช้งานง่าย สะดวกสบาย เหมาะกับไลฟสไตล์คนในปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายแบรนด์ที่ผลิตหุ่นยนต์ประเภทนี้ขึ้นมา 

แต่แบรนด์ที่น่าสนใจอย่าง Roborock ของบริษัท เป่ยจิง โรโบร็อค เทคโนโลยี ในประเทศจีน ผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและการผลิตหุ่นยนต์ทำความสะอาดและเครื่องดูดฝุ่นระดับโลกนั่นได้ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ที่ทันสมัย ทำให้ตัวสินค้าใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทนทาน ใช้งานได้นาน แถมยังมีฟังก์ชันเพื่ออำนวยความสะดวกสบายและตอบโจทย์ทุกการใช้งานของคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน

โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Roborock S7 ที่ถูกผลิตขึ้นภายใต้คอนเซปต์ Make It Cleaner Everyday ทำทุกวัน ให้สะอาดกว่า จนคว้ารางวัลชนะเลิศสินค้าไลฟ์สไตล์ จากงาน Product Innovation Award 2021 ที่จัดขึ้นโดยนิตยสาร BUSINESS+ ร่วมกับวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ไปครอบครองได้

เปลี่ยนประสบการณ์การทำงานบ้านแบบเดิมด้วยนวัตกรรมใหม่ที่ดีที่สุด

สำหรับหุ่นยนต์ทำความสะอาด Roborock S7 นั้นถูกพัฒนาขึ้นจากปัญหาการทำงานบ้านของคนยุคใหม่ ที่รู้สึกไม่สะดวกสบายกับการใช้เครื่องดูดฝุ่นที่ใช้งานแค่ฟังก์ชันเดียว แต่ไม่สามารถถูพื้นบ้านได้ หรือบางตัวถึงจะมีฟีเจอร์ทั้งดูดฝุ่นและถูพื้นด้วย แต่ยังไม่สามารถถูพื้นได้สะอาดเพียงพอ Roborock S7 จึงถูกพัฒนาและผลิตขึ้นเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด โดยการรวบรวมหลายเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยระดับโลกเข้าไว้ด้วยกัน

โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการถูที่ล้ำสมัย

Roborock S7 ตอบโจทย์การถูพื้นด้วยเทคโนโลยี Sonic Mopping การสั่นสะเทือนที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในวงการเครื่องดูดฝุ่น ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดและโดดเด่นที่สุดในตอนนี้ ทำให้เจ้าเครื่องนี้นั้นสามารถถูพื้นได้กว่า 3,000 ครั้งต่อนาทีเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Auto-Lifting การยกหรือกดของฟังก์ชันถูที่เพิ่มแรงกดไปที่พื้นได้มากถึง 600 กรัมด้วย ทำให้สามารถทำความสะอาดพวกคราบเหนียบ หรือรอยสกปรกที่ออกยากได้ง่ายขึ้น ทำให้เราไม่ต้องเปลืองแรงมาขัดถูซ้ำสอง รับรองว่าสะอาดกริบ ไม่เหลือคราบไว้กวนใจแน่นอน

เพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดดีขึ้นถึง 4 เท่า

ไม่เพียงแต่คิดค้นนวัตกรรมใหม่เท่านั้น Roborock ยังใส่ใจกับการพัฒนาฟังก์ชันเดิมที่ทำงานได้ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก สำหรับ Roborock S7 นี้ว่ากันว่ามีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดได้ดีขึ้นถึง 4 เท่าตัว เมื่อเทียบกันรุ่นอื่นๆ ก่อนหน้านี้

สำหรับห้องไหนที่มีพรม ก็ไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะงง หรือดีเลย์ เพราะเจ้าเครื่องนี้เขามีเทคโนโลยีล้ำๆ อย่าง Ultrasonic Sensor ที่เพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับพื้นพรมได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีดีเลย์ แถมยังมีเทคโนโลยี Auto-Lifting Mop ที่สามารถถูพื้นขึ้นลงได้ และถ้าตรวจจับเจอว่ามีพรมขวางทางอยู่ แผ่นรองผ้าถูก็จะยกขึ้นจากพื้น 5 มิลลิเมตร ในโหมดการทำงานแบบ Rise 

นอกจากนี้เรายังสามารถตั้งค่าในโหมด Avoid เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้หุ่นยนต์ไปถูพื้นตรงที่เราไม่ต้องการได้ด้วย

อันที่จริงนอกจากเทคโนโลยีที่บอกไปแล้ว Roborock S7 ก็ยังมีเทคโนโลยีเจ๋งๆ อีกหลายอย่างที่จะมาช่วยเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงานบ้านให้ง่ายกว่าที่เคยเป็น ทั้งเทคโนโลยี HyperForce ที่ช่วยในเรื่องดูดฝุ่นที่แรงขึ้น, เทคโนโลยี PreciSense™ ที่เป็นเรดาร์ขับเคลื่อนเองแบบเดียวกับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ, เทคโนโลยี AI Recharging ที่ช่วยคำนวนการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับหุ่นยนต์ แถมยังสามารถกลับเข้าแท่นชาร์จได้เองอัตโนมัติ, ตัวแปรงปัด ก็มีการเปลี่ยนเป็นยางแบบใหม่ ทำให้ไม่เครื่องทำงานได้ต่อเนื่อง ไม่สะดุดเวลาที่พันกับเส้นผม และฟังก์ชัน Child Lock ที่ป้องกันเด็กๆ หรือสัตว์เลี้ยงมากดหรือสัมผัสโดนอีกด้วย

สามารถรับรู้ตำแหน่งและตั้งค่าการทำงานแต่ละพื้นที่ได้

ตอบรับไลฟ์ไตล์คนรุ่นใหม่ให้สัมผัสความสะดวกสบายได้เต็มที่ ไม่ต้องตามดู ไม่ต้องนั่งเฝ้าให้เสียเวลา เพราะ Roborock S7 สามารถดูได้ว่าเส้นทางการทำงานแบบถูพื้นและดูดฝุ่น ส่วนไหนที่มีการถู หรือส่วนไหนที่ไม่มีการถู และตำแหน่งพื้นที่ของพื้นพรม รวมถึงสามารถใช้แอปพลิเคชันในการปรับแรงดูด แรงสั่นสะเทือน และลำดับการทำความสะอาดของแต่ละพื้นที่  อีกทั้งมีการแจ้งเตือนต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน เช่น แจ้งเตือนเมื่อเริ่มทำความสะอาด, แจ้งเตือนเมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้ว, แจ้งเตือนเมื่อมีอะไรติดขัดล้อ กันชน แปรงปัดหลัก แปรงปัดข้าง เป็นต้น

นอกจากนี้เจ้าเครื่องนี้ยังมีระบบความปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสียหายของพื้นบ้านและหุ่นยนต์ เช่น ถ้ามีอะไรติดขัดที่แปรงปัดหลัก, ล้อหลักทั้งสอง, แปรงปัดข้าง หุ่นยนต์จะหยุดทำงานทันที แล้วแจ้งเตือนในแอปพลิเคชันให้รับทราบทันที

สะดวกกว่าด้วยการทำงานร่วมกับแท่นเก็บฝุ่นอัตโนมัติ

ไม่ใช่แค่ดูดฝุ่นเท่านั้นแต่ Roborock S7  นั้นมาเหนือกว่าเพราะสามารถรองรับการใช้งานร่วมกับแท่นเก็บฝุ่นอัตโนมัติ Auto Empty Dock ที่มีประสิทธิภาพพลังแรงดูดที่คงที่ ด้วยระบบไซโคลน 15 อัน ทำให้พลังการดูดเก็บฝุ่นไม่ลดลง แม้จะมีฝุ่นสะสมในถังเก็บฝุ่นมากขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ตัวเครื่องยังถูกออกแบบให้ทิ้งฝุ่นได้ง่ายขึ้น ด้วยการดึงถุงเก็บฝุ่นไปทิ้งแล้วเปลี่ยนถุงใหม่ได้อย่างง่ายดาย แถมยังถอดล้างหรือเปลี่ยนฟิลเตอร์กรองฝุ่นต่างๆ ได้ทั้งหมดด้วย เมื่อใช้ทั้ง 2 เครื่องนี้ร่วมกันบอกเลยว่าคุณจะเปลี่ยนความรู้สึกยุ่งยาก น่าเบื่อหน่ายในการทำงานบ้านแต่ละครั้งไปเลย 

เมื่อสินค้าในปัจจุบันมีหน้าตา หรือฟังก์ชันภาพรวมคล้ายๆ กัน นอกจากจะเพิ่มคุณค่า(Value added)และสร้างความโดดเด่นให้กับตัวสินค้าแล้ว การสร้างประสบการณ์ต่อแบรนด์ หรือ Brand Experience กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของการตลาดและแบรนด์ในยุคถัดไป เป็นมุมมองของผู้บริโภคที่มีประสบการณ์ต่อแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ที่อาจเกิดจากการเห็นโฆษณา การพูดคุยกับพนักงานขาย ตลอดจนการใช้สินค้าหรือบริการของแบรนด์ เหมือนกับที่ Roborock พยายามสร้างผ่านการสื่อสารของแบรนด์ที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าแบรนด์สร้างมาเพื่ออะไร มีประโยชน์อะไรต่อผู้บริโภคและเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจในตัวตนของแบรนด์มากขึ้นอีกด้วย

นักการตลาดเองก็อย่าลืมหันมาใส่ใจกับ Value added และ Brand Experience กันให้มากขึ้นด้วยนะคะ เพราะในอนาคตบอกเลยว่าถ้าแบรนด์ไหนไม่มี 2 สิ่งนี้ เห็นทีจะอยู่ลำบากแน่นอนค่ะ

Read more: อ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดในแง่มุมอื่นๆ จากการตลาดวันละตอนได้ ที่นี่

ในบทความหน้าแบมจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะคะ

Bambinun*

Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน ที่หลงรักการเล่าเรื่องผ่านตัวหนังสือ พอๆ กับการกินของอร่อย และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเป็นทาสแมว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *