NIA ชวนเปิดโลก AI ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อความเท่าเทียม

NIA ชวนเปิดโลก AI ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อความเท่าเทียม

รอบตัวเรา เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่มีบทบาทต่อทุกแง่มุมของชีวิต หลายคนมอง AI ในแง่ลบ เกรงว่าจะเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ สร้างความเหลื่อมล้ำ และนำไปสู่ปัญหาทางจริยธรรม แต่แท้จริงแล้ว AI ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมความเท่าเทียม สร้างโอกาสให้กับทุกคน จากการตลาด NIA ที่ชวนเปิดโลก AI กันวันนี้ค่ะ

“AI” จะมาแย่งงานคนจริงหรือ ?

คำตอบนี่เราว่าขึ้นอยู่กับ หลายปัจจัย เพราะ AI มีศักยภาพที่จะแทนที่งานบางประเภทเท่านั้นเช่น งานที่ซ้ำซาก จำเจ ใช้ทักษะทางร่างกาย หรือกฎเกณฑ์ตายตัว เช่น งานในโรงงาน งานประกอบชิ้นส่วน งานพนักงานแคชเชียร์ ฯลฯ เป็น งานที่ใช้ข้อมูลจำนวนมาก AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูล หาความสัมพันธ์ คาดการณ์ ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำได้

แต่ AI ก็ยังมีข้อจำกัด ที่ยังไม่สามารถทำงานที่ ต้องการความคิดสร้างสรรค์ ความคิดวิเคราะห์ การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ การสื่อสาร การเข้าใจอารมณ์ และ ทักษะทางสังคม ได้ดีเท่ามนุษย์ เพราะ AI ไม่ได้มีความรู้สึก ความเห็นอกเห็นใจ และ ความเมตตา ดังนั้น จะมีงานบางประเภทที่ AI จะมาแทนที่มนุษย์ได้บ้างส่วนเท่านั้น

แต่มนุษย์เราควรจะต้อง ปรับตัว พัฒนาทักษะ เรียนรู้ทักษะใหม่เพื่อทำงานร่วมกับ AI ได้ เช่น ในโรงพยาบาล AI อาจช่วยวิเคราะห์ภาพเอกซเรย์ ค้นหาข้อมูล วินิจฉัยโรค แต่แพทย์ยังคงจำเป็นสำหรับการรักษา การวินิจฉัยที่ซับซ้อน การสื่อสารกับผู้ป่วย การตัดสินใจทางจริยธรรม เฉพาะนั้นคุณต้องปรับตัวให้ทำงานกับ AI ได้นะคะ

การตลาด NIA

การตลาด NIA เปิด AI พาคนไทยไปถึงทุกโอกาส

ถ้าพูดถึงเทรนด์เทคโนโลยี “ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI” ที่ปัจจุบันมีพัฒนาการและความล้ำแบบก้าวกระโดด หลายธุรกิจนำ AI มาประยุกต์ใช้ได้แบบไม่น่าเชื่อ ซึ่งบางอย่างอาจจะเกินความสามารถมนุษย์ ทำให้ “AI” ถูกตั้งคำถามว่าจะมาสร้างให้เกิดความเหลื่อมล้ำ หรืออาจมาช่วงชิงสิ่งที่มนุษย์เคยทำได้หรือไม่ โดยข้อสงสัยเหล่านี้ส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจต่อผู้ใช้และทรรศนะที่ว่า “AI คือเครื่องมือที่จะมาสร้างความเหลื่อมล้ำให้กับสังคม”

ทั้งนี้ เพื่อเปิดอีกหนึ่งมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับ AI  NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จะพาไปสัมผัสกับ 4 ตัวอย่างของการใช้ AI ที่ได้รับการสนับสนุนจาก NIA เพื่อนำมาช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งเรียกได้ว่าเข้ามาเปิดโอกาสและเปลี่ยนแปลงสังคมให้เกิดความเท่าเทียม ครอบคลุมทั้งการจ้างงาน การสร้างสังคมให้น่าอยู่ การลดภาระทางสุขภาพ รวมถึงโอกาสทางการศึกษา ที่ทั้งหมดล้วนเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่จะทำให้สังคมน่าอยู่ยิ่งขึ้น

“AI” สร้างโอกาสให้ผู้พิการ ได้ยิน!!

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังพลิกโฉมประสบการณ์การเรียนรู้ เปรียบเสมือนการมีครูสอนพิเศษส่วนตัวบนมือถือ ช่วยให้ผู้เรียนเข้าถึงการศึกษาที่หลากหลาย สะดวก รวดเร็ว และเท่าเทียมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้หรือกลุ่มเปราะบาง ผู้พิการทางการได้ยิน

ตัวอย่างหนึ่งที่น่าทึ่งคือ แพลตฟอร์ม “แฟมิลี่เดฟ” แพลตฟอร์มการเรียนรู้ภาษามือด้วย AI ที่สร้างโอกาสทางสังคมให้กับผู้พิการทางการได้ยิน ผ่านระบบ ASL (American Sign Language) มาช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านการเรียนรู้ภาษามือกันได้

จุดเด่นของแฟมิลี่เดฟ

เรียนรู้ภาษามือมาตรฐานสากล ผู้พิการทางการได้ยินสามารถเข้าถึงภาษามือ ASL ภาษาที่ใช้ผู้ใช้จำนวนมากทั่วโลก ช่วยให้สื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างเข้าใจ และยังเป็นต้นแบบภาษามือไทยอีกด้วย สะดวก เข้าถึงง่าย เรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านอุปกรณ์พกพา แถมผู้พิการทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

และมี ฟีเจอร์ครบครัน สามารถ ฝึกฝนการสะกดนิ้วมือที่ถูกต้องด้วยเทคโนโลยี AI ฝึกฝนการอ่านภาษามือจากสื่อออนไลน์ เข้าใจข่าวสารผ่านล่ามทีวี และยังเรียนรู้สื่อการสอนวิชาชีพ พัฒนาทักษะอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้

เทคโนโลยี AI นี้ จะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการยกระดับการศึกษา ช่วยให้ผู้เรียนทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม และปลดล็อกศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ ผู้พิการทางการได้ยิน ก็สามารถสื่อสารได้อย่างมั่นใจ เข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการทำงานมากขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เท่าเทียมกับคนทั่วไป

“AI” บริการสุขภาพที่เท่าเทียม

AI กำลังปฏิวัติวงการการแพทย์ ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และทั่วถึงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านการตรวจวินิจฉัยโรคในระยะเริ่มต้น ดังนี้

  • การแพทย์ทางไกล (Telemedicine): ผู้ป่วยสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญผ่านวิดีโอคอล หรือแชทข้อความ โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล เหมาะสำหรับผู้ป่วยในชนบท ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีข้อจำกัดในการเดินทาง
  • แชทบอท: แชทบอทที่ใช้ AI สามารถตอบคำถามเบื้องต้นเกี่ยวกับสุขภาพ ให้คำแนะนำ และช่วยคัดกรองผู้ป่วยก่อนส่งต่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ช่วยลดภาระงานของแพทย์และพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างรวดเร็ว

“AI” เข้าถึงบริการสุขภาพจิต BOTNOI

BOTNOI แชทบอทอัจฉริยะที่พัฒนาโดยกรมสุขภาพจิต ร่วมกับบริษัท ไอบอทน้อย จำกัด ให้คำปรึกษาผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตผ่านข้อความอัตโนมัติ (Voice Bot) ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถประเมินระดับความรุนแรงของโรค ดูแลตนเอง และอยู่ร่วมกับสังคมได้ดียิ่งขึ้น

การตลาด NIA

ประโยชน์ของการใช้ AI ในการเข้าถึงบริการสุขภาพ

จะช่วย ผู้ด้อยโอกาสและผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพได้ง่ายขึ้น AI ช่วยลดต้นทุนการรักษาพยาบาล เช่น ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาล และ ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้เร็วขึ้น และช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตสามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการตีตราจากสังคม

การตลาด NIA

“AI” แมตช์คนพิการสู่งาน Live Chat Agent”

AI กำลังขับเคลื่อนธุรกิจ สร้างโอกาสให้คนพิการ จะเปลี่ยนโฉมหน้าธุรกิจอย่างมหาศาล นำพาการวิเคราะห์ข้อมูล ตลาดแรงงาน และจับคู่ผู้สมัครงานกับงานที่เหมาะสมอย่างมีประสิทธิภาพ AI ยังช่วยส่งเสริมความเท่าเทียมในโอกาสการทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้พิการ

Vulcan Live Chat Agent  โครงการที่ใช้ AI ช่วยอ่านข้อความและออกเสียงข้อสงสัยจากลูกค้าในช่องแชท ช่วยให้ผู้พิการทางการมองเห็นสามารถทำงานด้านลูกค้าสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างโอกาสทางอาชีพใหม่สำหรับคนพิการด้านการมองเห็น และคนพิการทางด้านร่างกาย 

Live Chat Agent ช่วยผู้พิการยังไง ?

  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า พฤติกรรมการซื้อ เทรนด์ตลาด ช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจได้แม่นยำ พัฒนากลยุทธ์ที่ตรงจุด
  • วิเคราะห์ตลาดแรงงาน คาดการณ์ความต้องการทักษะในอนาคต ช่วยให้ธุรกิจเตรียมพร้อมพัฒนาทรัพยากรบุคคล
  • จับคู่ผู้สมัครงานกับงานที่เหมาะสม คัดกรองผู้สมัคร หาผู้ที่มีทักษะตรงกับความต้องการของงาน ช่วยให้ธุรกิจประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
  • ส่งเสริมความเท่าเทียม สร้างโอกาสให้คนพิการสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดข้อจำกัดทางร่างกาย
การตลาด NIA

AI ผู้ช่วยเตือนภัย แก้ไขเหตุฉุกเฉิน ไม่ต้องรอ

การใช้ข้อมูลสถิติและการประมวลผลที่รวดเร็วของ AI นั้น ยังช่วยเฝ้าระวังหรือคาดการณ์เหตุการณ์อันตราย รวมถึงเสนอแนวทางป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติได้ ทำให้บรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชุมชนได้ ทันต่อสถานการณ์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมวิธีแก้ปัญหาระดับเมืองด้วยแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

จากความอัจฉริยะดังกล่าวนำมาซึ่งการพัฒนา โครงการ 24 HI-CARE CENTER: ระบบสายตรวจอัจฉริยะ ที่นำเทคโนโลยีมาช่วยยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตำรวจ ได้นำเทคโนโลยีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด AI รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการแจ้งเตือน และ ระบบ SOS ขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน มาทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์

ทำให้สามารถป้องกันปัญหาก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้สายตรวจทำงานได้อย่างถูกจุด ลดภาระงานการขับรถออกตรวจที่สิ้นเปลืองทรัพยากรน้ำมันและกำลังคน มีการปรับเปลี่ยนเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมไปถึงที่เกิดเหตุได้ทันทีเมื่อระบบแจ้งเตือน และเข้าดำเนินการกับคนร้ายได้ก่อนเหตุการณ์จะลุกลามบานปลาย ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงช่วยให้สังคมมีความปลอดภัยและน่าอยู่มากขึ้น

สรุป NIA เพื่อความเท่าเทียม

(NIA) ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ส่งเสริมโอกาส และสร้างความเท่าเทียม ผ่านเทคโนโลยี AI ที่มุ่งเน้นไปที่การจ้างงาน การศึกษา สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างโครงการที่ NIA สนับสนุน เช่น แพลตฟอร์มการเรียนรู้ภาษามือด้วย AI แอปพลิเคชั่นตรวจสุขภาพเบื้องต้น และระบบติดตามสุขภาพผู้ป่วยทางไกล โครงการเหล่านี้ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มโอกาสให้กับคนทุกกลุ่ม ส่งเสริมความเท่าเทียม และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

ทุกคนคงเห็นแล้วว่า AI คือเครื่องมือหนึ่งที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานได้ แต่การใช้งานต้องคำนึงถึงจริยธรรม ความรับผิดชอบ ความโปร่งใส และยังจำเป็นต้องมีการกำหนดกรอบ เพื่อควบคุมการใช้งาน AI  มิเช่นนั้น AI อาจจะทำให้ความเหลื่อมล้ำในมิติต่าง ๆ ถ่างออกไปมากยิ่งขึ้น

อ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ

Issariya Ittiphumtana

"เฟ'ริน " Junior Marketing Content Creator การตลาดวันละตอน สายออกแบบกราฟฟิก ที่กำลังฝึกเขียนบทความการตลาด ซึ่งมีความชื่นชอบดื่มชาเขียวเป็นชีวิตจิตใจ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *