Mandala AI Ecosystem เปิดตัว อย่างเป็นทางการ โดย โอเชี่ยน สกาย เน็ตเวิร์ค พร้อมดันทุกธุรกิจให้เข้าถึงบิ๊กดาต้า

Mandala AI Ecosystem เปิดตัว อย่างเป็นทางการ โดย โอเชี่ยน สกาย เน็ตเวิร์ค พร้อมดันทุกธุรกิจให้เข้าถึงบิ๊กดาต้า

เป็นเวลากว่า 4 ปีค่ะ ที่บริษัท โอเชี่ยน สกาย เน็ตเวิร์ค จำกัด ได้อุบไว้ เพื่อรอวันที่บริษัทแข็งแกร่ง นั่นก็คือในวันนี้นั่นเองค่ะ โดยเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการทั้งบริษัทฯ และ Mandala AI Ecosystem ตัวช่วยในการขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดด้วยเอไอ ที่เน้นความยั่นยืน

หลายคนอาจจะเห็นว่าMandala AI ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผู้ที่ติดตามการตลาดวันละตอน เพราะเราคือกลุ่มที่ได้ใช้เครื่องมือดังกล่าวมาสักระยะแล้วค่ะ เพียงแต่วันนี้เขาได้เปิดตัวแบบ Grand Opening ให้ทุกคนได้รู้จักมากขึ้นถึงที่มาที่ไป เป้าหมาย และแผนการในอนาคต

การเติบโตของ Social Media ในปัจจุบัน

เราปฏิเสธไม่ได้ว่าในทุกๆ วันของเรา ตั้งแต่ตื่นนอน ก็เช็คข่าวบน Facebook หรือ Twitter จนก่อนจะหลับก็ยังเสพสื่อ บน TikTok หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ซึ่งตัวเรานั้นเป็นทั้งผู้ชม และเราก็เป็นผู้ผลิตข้อมูลเหล่านั้นด้วยเช่นกัน ทำให้บน Social เต็มไปด้วยข้อมูลมหาศาล

จากข้อมูล GlobalWebIndex 2023 บอกว่า ประชากรโลกกว่า 4.8 พันล้านคน หรือราวๆ 60% ใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งตัวเลขนี้ถือว่าสูง และจะเติบโตขึ้นมากขึ้นทุกๆ ปี โดยกลุ่ม New Users ที่เกิดขึ้นใน 1 ปี อยู่ที่ 150 ล้าน/users และเฉลี่ยการใช้เวลาอยู่บนโซเชียลของผู้คน จะอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 24 นาทีโดยประมาณ

ดร.เอกลักษณ์ ยิ้มวิไล ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอเชี่ยน สกาย เน็ตเวิร์ค จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน Social Media เข้ามามีบทบาทกับคนในสังคมเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่เข้าถึงอินเทอร์เน็ต และ สมาร์ทโฟนได้ง่ายขึ้น  รวมทั้งไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนแปลงไป Social Media นั้น เปรียบเสมือนเป็นสื่อกลางออนไลน์ ที่เชื่อมต่อให้ทุกคนสามารถสื่อสารกันได้อย่างสะดวก ง่ายดาย และรวดเร็ว

ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มสังคมเล็กๆ ไปจนถึงการที่ธุรกิจใช้เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสาร และทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งเสียงของผู้บริโภคหรือข้อมูลบนโลกออนไลน์นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทำให้บริษัทต่างๆ ที่จะนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นต้องมีเครื่องมือมาช่วยวิเคราะห์ แยกแยะ และบริหารจัดการข้อมูลเหล่านั้น

อย่างไรก็ตาม ยุคของบิ๊กดาต้าเลยจุดสูงสุดมาแล้ว และกำลังเข้าสู่ยุคของ AI ซึ่งปัจจุบันได้รับความสนใจ และมีบทบาทอย่างมาก จากความสามารถในการประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

โดยมีการคาดการณ์ว่าการใช้งานเอไอในตลาดทั่วโลกจะเติบโตถึงปีละ 37.3% (ระหว่างปี 2022-2030) และมีโอกาสเข้ามาทำงานแทนคนกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก และจะมีตำแหน่งงานเกิดใหม่อีกราว 97 ล้านตำแหน่ง ที่มีศักยภาพทำงานร่วมกับเอไอ

ทำความรู้จักบริษัทฯ

สำหรับบริษัท โอเชี่ยน สกาย เน็ตเวิร์ค จำกัด นั้นมันที่เริ่มจากเงินขายรถจักรยานยนต์คันแรกของตัวเอง (ดร.เอกลักษณ์) แล้วเอาเงินมาสร้าง Server มีพนักงานเพียง 10 คน ในปี 2018 ใช้เวลาพัฒนาและทดสอบระบบมา 4 ปี จนมั่นใจว่าศักยภาพของบริษัท ความแข็งแกร่งทีม

ทำให้ปีนี้พร้อมที่จะ Grand Opening โชว์ศักยภาพเทคสตาร์ทอัพสัญชาติไทยในฐานะผู้พัฒนา Mandala AI Engine and Solutions เครื่องมือในการช่วยสำรวจ วิเคราะห์ เจาะลึกบิ๊กดาต้าของลูกค้าบนโลกออนไลน์ และวางแผนที่จะครอบคลุมในระดับ Global Scale ในปี 2026 โดยบริษัทที่มีเจ้าของเป็นคนไทย

Mandala AI Ecosystem คืออะไร

Mandala AI Ecosystem เป็นโซลูชันการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยเครื่องมือนี้จะช่วยในการรวบรวม กลั่นกรอง ตลอดจนวิเคราะห์ ประมวลผล และสร้างสรรค์ข้อมูลจาก Big Data บนโลกออนไลน์ค่ะ โดยมีเป้าหมายในการช่วยให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จาก Social Media Data ได้สะดวก รวดเร็ว

ซึ่งข้อมูลที่อยู่ในระบบ Mandala AI Ecosystem เป็นข้อมูลที่ได้รับการรับรองจาก Meta (Facebook, Instagram, WhatsApp), Google and YouTube, Twitter, Pantip และ Reddit โดยระบบของบริษัทฯ มีข้อมูลมากกว่า 20 พันล้านเซ็ต และสามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลได้มากกว่า 100 ล้าน Mentions ต่อวันเลยนะคะ

Mandala AI Ecosystem มีระบบ Engines ที่เป็นหัวใจหลักสำคัญอยู่ 4 ระบบ ได้แก่ 

1. Seed Engine คือระบบรวบรวม และจัดเก็บ และบริหารจัดการข้อมูล Big data ที่มีอยู่บน Social Media อาทิ Facebook, Instagram, Twitter, YouTube และอื่นๆ

2. Paradigm Engine คือระบบ​ Machine Learning คือการเรียนรู้ชุดข้อมูล Data Processing, Modeling, Classification, และ Predictive Modeling

3. Mandala AI Engine คือระบบวิเคราะห์ กลั่นกรอง และประมวลผลข้อมูล Big Data 

4. MandalaGPT คือระบบ AI Deep Learning หรือการเรียนรู้ข้อมูล Big Data เชิงลึกเพื่อให้ AI สามารถพัฒนาตัวเอง คัดเลือกข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง หรือสร้างสรรค์ข้อมูลได้เองจากชุดข้อมูลที่กำหนด 

และอีกไม่นาน Mandala AI จะมีการอัปเดตความฉลาดแบบที่เรียกได้ว่าผู้ใช้คุ้มค่าที่จะลองใช้งาน เช่น ดูภาพแล้วประเมินอายุ เพศ หรืออารมณ์ความรู้สึก บนสีหน้า รวมถึงสามารถอ่าน Text ในภาพในได้ และสามารถแก้ไขภาพได้เช่นกันค่ะ

กลุ่มเป้าหมายคือใคร

“จากผลิตภัณฑ์พื้นฐานทั้งหมดที่มีของเราสามารถให้บริการได้ครอบคลุมทั้งผู้ใช้งานทั่วไปที่สามารถ Subscription เพื่อใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งาน นักสร้างคอนเทนต์ กลุ่ม SMEs ดิจิทัล เอเจนซี่ รวมไปถึงองค์กรภาครัฐ และกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งพร้อมที่จะขยายบริการออกไปทำตลาดทั่วโลกได้ด้วย” ดร.เอกลักษณ์ กล่าว

ต้องบอกว่าทางบริษัทฯ ต้องการให้ทุกคนเข้าถึงMandala AI โดยสามารถทดลองใช้งานฟรีก่อน โดยที่ยังไม่ต้องจ่ายเงิน หากใช้แล้วติดใจค่อยมาซื้อแบบรายเดือน ซึ่งราคาเริ่มต้น เป็นราคาที่เข้าถึงได้ตั้งแต่กลุ่มที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็ก อย่างที่การตลาดวันละตอนได้แนะนำทุกๆ ครั้งค่ะ

มีแพ็กเกจที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกกลุ่มผู้ใช้งาน อาทิ

  • Starter Package ราคา $15 ต่อเดือน
  • Individual Package ราคา $39 ต่อเดือน
  • Professional Package ราคา $69 ต่อเดือน
  • Team Package ราคา $159 ต่อเดือน
  • Premium Package ราคา $499 ต่อเดือน
  • Business Package ราคา $699 ต่อเดือน
  • Enterprise Package ราคาเริ่มต้นที่ $999 ต่อเดือน

เป้าหมายและแผนอนาคตที่จะครอบคลุมระดับโลก

สำหรับแผนดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2566 ตั้งเป้ารายได้เติบโตอยู่ที่ 200% จากปีก่อน มีแผนขยายตลาดในกลุ่มของ SaaS Products ได้แก่ Mandala Cosmos แพลตฟอร์มที่ใช้ในการติดตามเทรนด์ในโซเชียลมีเดีย และ Mandala Analytics แพลตฟอร์มที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดียเชิงลึก ในตลาดประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ

โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ และกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาสเปน  และจะเน้นทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้นทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อให้นักลงทุนมีความสนใจมากขึ้น 

ทั้งนี้ ยังมีแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Mandala Cosmos และMandala Analytics ให้เป็น All-in-One Platform ซึ่งจะมีฟีเจอร์ที่ช่วยในการบริหารจัดการโซเชียลมีเดีย เช่น In-platform Reply, การติดแท็กจัดหมวดหมู่อัตโนมัติ และการแจ้งเตือน Auto tagging and notification เพื่อช่วยบริหารจัดการข้อมูลที่ต้องมอนิเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมการแจ้งเตือนหากมีเหตุการณ์วิกฤต ผ่านอีเมล หรือไลน์ ได้

และเร็วๆ นี้เตรียมพบกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Mandala AI Custom Enterprise Solutions หรือการออกแบบแพลตฟอร์มเฉพาะสำหรับลูกค้าระดับองค์กร หน่วยงานภาครัฐ หรือธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งมีมูลค่าโครงการเริ่มต้นที่ 6 ล้านบาท ต่อปี

รวมถึงเตรียมแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ Galaxy Insights ที่เจาะลึกข้อมูลเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มธุรกิจความงามและเครื่องสำอาง (Beauty and Cosmetics) กลุ่มธุรกิจอาหาร เป็นต้น ที่จะมีบริการในประเทศไทย สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และฮ่องกง ค่ะ

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นในการสร้างสรรค์ระบบและเครื่องมือต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าไว้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ Mandala AI ที่มีทั้งระบบ Social Listening & Monitoring, Data Analytics, CRM, CPD Platform และอื่นๆ ซึ่งเป็น Software as a Services หรือการพัฒนา Paradigm Engine ในฐานะ Platform as a Service ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเทรนโมเดลเอไอได้เอง เป็นต้น

ด้วยราคาเริ่มต้นที่แสนจะถูกนี้ นั่นเป็นเพราะว่าบริษัทฯ อยากให้ทุกธุรกิจ ไม่ว่าใครก็ใช้ได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นบริษัทใหญ่เท่านั้น ที่จะสามารถเข้าถึงบิ๊กดาต้าค่ะ ส่วนใครที่สนใจเครื่องมือ Mandala Analytics ลอง Subscribe Free Trial 15 วันก่อนได้ค่ะ พอลองใช้ฟรีก็เล่นทุกฟีเจอร์ให้เต็มที่ไปเลยค่ะ

แนะนำให้อ่านต่อ :

สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ

Yoswimol

🎡PLEUM | Data Research Executive ในเครือการตลาดวันละตอน | สนใจเรื่องการตลาด ชอบดูการแข่งขันทางการตลาด และเป็นทาสตลาด... ทุกบทความตั้งใจเขียนมาก ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ มันเป็นกำลังใจที่ทำให้อยากเขียนต่อไปเลย☺️

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *