กลยุทธ์ Central Retail 2024 เมื่อเกิด Disruption ธุรกิจก็ต้องปรับเปลี่ยน 

กลยุทธ์ Central Retail 2024 เมื่อเกิด Disruption ธุรกิจก็ต้องปรับเปลี่ยน 

Disruption ทุกท่านเคยได้ยินคำนี้กันมั้ยคะ ถ้าแปลตรงตัวคือ การหยุดชะงัก แต่ทางธุรกิจการถูก Disruption คือ การที่ธุรกิจถูกบางสิ่งเข้ามากระทบ ทำให้ธุรกิจเกิดการเปลี่ยนแปลง พัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่านั่นเองคะ ก็เหมือนกับ กลยุทธ์ Central Retail  2024  ที่ประกาศวิสัยทัศน์ 5 ปี “CRC OMNI-Intelligence” เพื่อผลักดันธุรกิจสู่ The Next Era ค่ะ 

บทความนี้ผู้เขียนเลยอยากแชร์ว่า เมื่อถูก Disruption แล้วธุรกิจควรปรับตัวยังไงผ่าน กลยุทธ์ Central Retail  2024 ที่ทาง บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ได้ปรับเปลี่ยนหลังเผชิญกับกระแส Disruption ทั้งจากเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค การเข้ามาของ Generative AI และรวมไปถึง เรื่อง Climate Change ด้วยค่ะ

อย่างที่บอกไป คำว่า Disrupt แปลตรงตัวคือ การหยุดชะงัก ใช่ไหมคะ แต่โดยปกติแล้วคำนี้มักจะถูกใช้ในบริบทของการ ปฏิรูป หรือทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้เกิดการพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นค่ะ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วคำนี้ มักจะถูกโยงไปใช้ในเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีค่ะ

แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลง ก็จะมีอีกคำนึงที่เราได้ยินกันบ่อย และมีความหมายคล้าย หรือ ใกล้เคียงกัน นั่นคือ Transformation ค่ะ คุ้น ๆ กันบ้างมั้ยคะ แต่จริง ๆ แล้วตัว Transformation กับ Disruption นั้นมีความแตกต่างกันค่ะ 

โดยตัว Transformation เองจะเป็นการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงจากสิ่งเดิม ๆ ของเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยอาจจะทำเพื่อการต่อยอดจากสิ่งเดิม หรือเพื่อการพัฒนาสิ่งใหม่ก็ได้ค่ะ แต่ Disruption เน้นการพัฒนาสิ่งใหม่ และมองหาโอกาสใหม่ ๆ มากกว่าค่ะ

ตัวอย่างการเกิด Disruption และ การถูก Disrupt

ผู้เขียนขอยกตัวอย่าง การถูก Disrupt ที่เคยเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่นพวก Cloud Computing ที่มีเพื่อตอบบริษัทที่ไม่ต้องการมี Data Center เป็นของตัวเองค่ะ ให้สามารถเข้าถึงบริการบน Cloud ได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วถือว่าบริการที่ออกมาเพื่อลูกค้ากลุ่มที่มีความต้องการใหม่ ๆ ที่ไม่ต้องการ Data Center ถูกต้องมั้ยคะ ไม่ใช่กลุ่มเดิมที่มี Data Center อยู่แล้ว 

แต่ในความเป็นจริงผลที่เกิดขึ้นไม่เป็นแบบนั้นค่ะ กลายเป็นว่า ทั้งกลุ่มใหม่ และกลุ่มเดิม ก็มาใช้บริการ Cloud Computing  ทำให้เกิดการ “หยุดชะงัก” ของบริการที่เกี่ยวข้องกับ Data Center เช่น บริษัท Hardware, Database และ บริษัท Software แบบติดตั้ง เป็นต้นค่ะ

กลยุทธ์ Central Retail  2024  เมื่อเกิด Disruption ธุรกิจก็ต้องปรับเปลี่ยน 

หรือจะเป็นเรื่องของหูฟังแบบไร้สาย ที่ออกมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ไม่ชอบสายระโยงระยาง อาจเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง คนออกกำลังกาย หรือ เพื่อความสะดวก ทันสมัยมากขึ้นใช่ไหมคะ แต่พอมีการนำมาใช้จริง คนที่เคยใช้แบบสายอยู่แล้ว ก็รู้สึกว่าแบบไร้สาย สะดวก กว่าแบบมีสาย หูฟัง ก็ถูก Disrupt แบบนี้ค่ะ 

แต่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญค่ะ ไหนจะเรื่องของการทดลอง ลองผิด ลองถูก ซึ่งก็มีความเสี่ยง ไม่ใช่ว่าสิ่งใหม่ ๆ จะเป็นที่ยอมรับทั้งหมด อย่างตอนนี้ก็มีทั้งเรื่องของ Ai หรือ เทคโนโลยี VR ที่กำลังเข้ามา Disruption สิ่งเดิม ๆ 

เมื่อมีการ Disruption ถ้าเราไม่อยากเป็นธุรกิจที่ถูก Disrupt

เราก็ต้องปรับตัว พัฒนา ธุรกิจ ให้เท่าทัน พร้อมรับมือกับสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเข้ามา

เหมือนกับ กลยุทธ์ Central Retail  2024 ที่ผู้เขียนกำลังจะแชร์ให้ผู้เขียนทุกท่านค่ะ

ทางด้าน นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเซ็นทรัล รีเทล กล่าวไว้ว่า การที่ เซ็นทรัล รีเทล สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญกับกระแส Disruption ทั้งจากเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค การเข้ามาของ Generative AI และ Climate Change 

เป็นเพราะอีโคซิสเต็มของเซ็นทรัล รีเทล ที่สมบูรณ์แบบ มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ รวมไปถึง มีเสถียรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง จากการบริหารต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

ทำให้เซ็นทรัล รีเทล ประสบผลสำเร็จและสามารถครองความเป็นผู้นำในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยในปี 2567 นี้เอง ทาง เซ็นทรัล รีเทล ได้วาง กลยุทธ์ Central Retail  2024 บนคอนเซ็ปต์ของ

Leading Excellence and Advancing Sustainability 

คือ การบริหารธุรกิจทุกกลุ่มของเซ็นทรัล รีเทล ตอกย้ำการเป็นเบอร์ 1 ด้วยผลประกอบการและผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม (Excellence Performance) ในทุกมิติ

 รวมไปถึงมีการวางกลยุทธ์เรื่องการสร้างความยั่งยืน ให้เข้มข้นไปอีกขั้น (Advance Sustainability) ด้วยค่ะ

สู่ The Next Era กับวิสัยทัศน์ OMNI-Intelligence ด้วย AI 

กลยุทธ์ Central Retail  2024 ได้มีการนำ AI เข้าไปในทุกกระบวนการของการทำธุรกิจ อาทิ การสร้าง Next-Gen Omnichannel ที่ผนวกแพลตฟอร์ม Offline และ Online เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค 

อีกทั้งยังขยาย Ecosystem จาก B2C สู่ B2B อย่างเต็มรูปแบบ และมีการ Integrate AI ให้เข้ากับ HI (Human Intelligence) เพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เหมือนมี Expertise at your fingertip

 รวมถึงการสร้าง Impact ที่มุ่งเน้นทั้งด้าน Profit และ Planet ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนอีกด้วย โดย CRC OMNI-Intelligence ประกอบไปด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ (5R) ดังต่อไปนี้ค่ะ

1.       Revolutionise Core Strength

การยกระดับความแข็งแกร่งของธุรกิจหลักใน Multi-Format, Multi-Category และ Multi-Market โดย focus ไปที่ธุรกิจที่มีการเติบโตสูง รวมถึงการยกระดับเรื่อง Synergy และการทำ M&A เพื่อเพิ่ม Value ในระยะยาวให้กับธุรกิจค่ะ

2.      Reinforce Financial Resilience

การทำให้สถานภาพทางการเงินมีความแข็งแกร่ง และมีการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น และมีความยืดหยุ่นทางด้านการเงิน บนหลักการบริหาร 3C (Cash, Cost, Capex) ค่ะ

3.      Reinvent Beyond Retail

การต่อยอดธุรกิจนอกเหนือจากธุรกิจค้าปลีก เช่น การเข้าไปเป็นส่วนสำคัญใน Community ต่างๆ เพื่อสร้าง Network และ Value ในระยะยาวให้กับธุรกิจ รวมถึงการขยายอีโคซิสเต็มจาก B2C สู่ B2B อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งเดินหน้า Scale up อย่างต่อเนื่องด้วยค่ะ

4.      Reimagine Human Capital

การพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ด้วยการรวม Intelligence ของ AI และ HI เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อขยายขีดความสามารถในการทำงาน การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และการเพิ่มประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มออมนิแชแนลแบบทวีคูณค่ะ

5.      Rally Green Impact

การยกระดับการทำ Green Transition ด้วยการผนึกกำลังทั้งภาครัฐ เอกชน ลูกค้า และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ มาร่วมมือกันแก้ปัญหา Climate Change เพื่อไม่ให้ไปสู่ Climate Crisis โดยการลดการใช้พลังงาน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโลกสีเขียว เพื่อส่งต่อให้กับคนรุ่นหลังอีกด้วยค่ะ

จากกลยุทธ์ สู่วิสัยทัศน์ สร้างแผนดำเนินงาน

กลยุทธ์ Central Retail  2024  เมื่อเกิด Disruption ธุรกิจก็ต้องปรับเปลี่ยน 

จาก กลยุทธ์ Central Retail 2024 ที่วางวิสัยทัศน์ CRC OMNI-Intelligence ไว้ ได้ถูกนำมาเป็นแผนงานปี 2567 โดยมีเป้าหมายผลด้านประกอบการ ต้องมีรายได้เติบโต 9-11% EBITDA เติบโต 15-17% และใช้งบลงทุน 22,000-24,000 ล้านบาทค่ะ 

โดยแผนการดำเนินงานตาม กลยุทธ์ Central Retail 2024 และ วิสัยทัศน์ที่วางไว้ ในปีนี้ คือ 

1.        กลุ่มแฟชั่น : จะมีการพัฒนาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แฟล็กชิปสโตร์ สาขาชิดลม ให้เป็น World Class Luxury Destination รวมทั้งจะขยายสาขาเพิ่ม 2 แห่ง พร้อมรีโนเวทและอัพเกรดห้างอีก 4 แห่ง และมีแผนเพิ่มแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และนำแบรนด์ในไทยขยายไปยังเวียดนามด้วยค่ะ

2.      กลุ่มฟู้ด : เริ่มขยาย GO Wholesale อีก 7 สาขา เพื่อให้เป็นจุดหมายใหม่สำหรับทุกๆ คน เป็น The New Choice For All สำหรับลูกค้า ผู้ประกอบการ และพาร์ทเนอร์ทุกคน นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสาขา Tops รวม 10 สาขาในไทย

 และ สำหรับประเทศเวียดนาม มีแผนเปิด ไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! 3 สาขา และ go! (มินิ โก!) อีก 9 สาขา ซึ่งถือว่าเป็น Winning Format ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเลยค่ะ

3.      กลุ่มฮาร์ดไลน์ : ขยายสาขาไทวัสดุ 9 สาขา พร้อมรีโนเวทอีก 4 สาขา และได้มีการทรานส์ฟอร์มเหงียนคิมในเวียดนามให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

4.      กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ : ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ มีการพัฒนาและปรับปรุงสาขาอย่างต่อเนื่อง ส่วนศูนย์การค้า GO! ในเวียดนาม มีแผนขยายอีก 3 สาขา โดยตั้งเป้าปิดปี 2567 ด้วยจำนวน 42 สาขา ครอบคลุม 42 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศค่ะ

นอกเหนือจากการสร้างความเป็นเลิศทางธุรกิจแล้ว เรื่องความยั่งยืนก็เป็นอีกหนึ่งแกนหลักที่เซ็นทรัล รีเทล ให้ความสำคัญค่ะ โดยในปีนี้จะต่อยอดเรื่องความยั่งยืนไปอีกขั้น 

ผ่านการดำเนินงานบนปรัชญา CRC Care ที่พร้อมผลักดันธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้า และดูแลทุกภาคส่วนให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกันแบบ 360 องศา 

อาทิ การยกระดับเมืองรอง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้กับเศรษฐกิจไทย, การยกระดับชุมชนและสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงการที่เราทำอย่างต่อเนื่อง, การยกระดับความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ และซัพพลายเออร์ เพื่อมาร่วมมือกันสร้างความยั่งยืนทั้งอีโคซิสเต็ม เป็นต้น

 ซึ่งทั้งหมดนี้ คือ หัวใจสำคัญที่ตอกย้ำ Brand Purpose ของเซ็นทรัล รีเทล ที่จะเป็น Central To Life ศูนย์กลางชีวิตของทุกคนค่ะ

สรุปแล้ว กลยุทธ์ Central Retail 2024  เมื่อถูก Disruption ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยน เพื่อทำให้ธุรกิจเดินหน้าได้ และต้องไม่ลืมสร้าง ความยั่งยืน เพื่อให้ธุรกิจอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

เป็นไงบ้างคะ บทความที่ผู้เขียนนำมาฝาก หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านนะคะ 

ถ้าชอบ หรือ สนใจอยากอ่านบทความด้านการตลาดแบบนี้อีก ผู้เขียนฝากติดตามด้วยนะคะ หรือ ถ้าใครอยากให้ผู้เขียนนำมุมมองการตลาดแบบไหนมาเล่าให้ฟัง สามารถคอมเมนต์บอกกันได้เลยนะคะ 

สำหรับนักอ่านที่ชอบ และ อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารด้านการตลาดต่าง ๆ สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนได้เลยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะヽ(•‿•)ノ

source

อยากอ่านบทความการตลาดเพิ่มเติม ลองเลือกอ่านบทความด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ

Mywmint

มิวมิ้น เรียก มิ้น ก็ได้ค่ะ ● ⋏ ● เป็น Junior Marketing Content Creator ของการตลาดวันละตอนค่ะ รับบท Marketer ฝึกหัด ٩(◕‿◕)۶ ตั้งใจสรรสร้างทุกบทความ หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์ และ ชอบนะคะ ขอฝากเนื้อฝากตัวไว้ด้วยฮะ ʕっ•ᴥ•ʔっ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *