การใช้บัญชี Instagram Creator vs. Business Account ต่างกันยังไง?
ในฐานะผู้ใช้งานและนักการตลาด เราคงจะทราบดีว่าปัจจุบัน Instagram ที่มีการแบ่งประเภทแอคเคาท์เป็น 3 ประเภทหลัก นั่นก็คือ 1. บัญชีทั่วไปที่เราใช้อัปสตอรี่กันอยู่ 2. Instagram Creator บัญชีที่เหล่าอินฟลูหรือครีเอเตอร์ใช้งาน และ 3. Business Account ที่เป็นบัญชีของร้านค้า ผู้ที่ใช้ไอจีเพื่อทำธุรกิจค้าขายต่าง ๆ
การแยกประเภทเหล่านี้มีไว้ก็เพื่อแยกความแตกต่าง ให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง นอกจากนี้แต่ละประเภทก็จะมีบางฟีเจอร์ที่คอยอำนวยความสะดวกการใช้งานต่างกันค่ะ อย่างเราใช้บัญชีธรรมดา ไม่ได้ต้องการใช้ยิงโฆษณาอะไรก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนประเภทบัญชีก็ได้
ซึ่งบทความนี้เน้นไปที่การอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างบัญชี Creator และ Business บน Instagram ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและเครื่องมือที่แตกต่างกันเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักการตลาด ครีเอเตอร์ หรือผู้ประกอบการ การเข้าใจความต่างของทั้งสองประเภทจะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จาก Instagram ได้ดียิ่งขึ้นค่ะ อย่างน้อยที่สุดคือความเข้าใจที่ถูกต้อง
อัปเดตข้อมูลวันที่ 20/01/2024
Instagram Creator Account
ผู้ใช้งานที่เหมาะกับ Instagram Creator คือใคร
- Artists
- Designers
- Photographers and Videographers
- Writers and Bloggers
- Models and Influencers
แอคเคาท์ Instagram Creator ถูกออกแบบมาสำหรับบุคคลที่เป็นครีเอเตอร์โดยเฉพาะค่ะ เช่น Influencer และบุคคลที่มีชื่อเสียง เพราะทางแพลตฟอร์มจะอำนวยความสะดวกให้ให้พวกเขาสามารถติดต่อและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตามได้อย่างดีกว่า Personal Acoount อีกทั้งแอคเคาท์ประเภทนี้จะมีฟีเจอร์เช่นการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ติดตามอย่างละเอียด, การจัดการข้อความที่มีความยืดหยุ่น, และการปรับแต่งโปรไฟล์ตามความต้องการ มันถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างและแชร์คอนเทนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้าง Personal Branding ในโลกออนไลน์นั่นเองค่ะ
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
- Monetization tools: บัญชีผู้สร้างที่มีสิทธิ์สร้างรายได้ผ่านการสมัคร subscriptions คล้าย ๆ กับ subscriptions บน Facebook และ Youtube เลยค่ะ ที่เปิดให้มีคนสมัครและชำระค่าสมาชิกรายเดือน
- Ad placement permissions. Creator accounts สามารถกำหนดประเภทของโฆษณาที่ปรากฏต่อ user ที่เลื่อนดู Profile ของตัวเองได้
ข้อดี
- Access to Insights and Analytics
- DM-filtering: สามารถกรองข้อความได้ แชทไหนอ่านแล้ว ยังไม่ได้อ่าน ติดธง หรือแชทคนที่เป็นสมาชิก
Concern
- Low organic reach: หลายคนคงทราบแล้วว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Instagram ได้ลดการเข้าถึงโพสต์จากบัญชีครีเอเตอร์ลงอย่างมาก เพื่อเพิ่มรายได้จากการโฆษณาแบบชำระเงินและคอนเทนต์ที่มีสปอน
Instagram Business Account
ผู้ใช้งานที่เหมาะกับ Instagram Business Account คือใคร
- ร้านค้า
- ธุรกิจขนาดใหญ่
- บริษัทที่ต้องการความน่าเชื่อถือ
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
เพราะหนึ่งในฟีเจอร์ที่สําคัญของบัญชี Instagram Business คือความสามารถในการเพิ่มปุ่ม Call-to-Action ในโปรไฟล์ของคุณ ซึ่งช่วยให้คนที่เข้ามาในชมโปรไฟล์คลิกต่อไปที่เว็บไซต์ได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ หรือจะเป็นลิงก์การจองนัดหมาย ไปจนถึงการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าได้อย่างง่ายดายด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว สะดวกมากเลยค่ะ
อีกประการหนึ่งของบัญชี Instagram Business คือเราสามารถดูข้อมูลเชิงลึกโดยละเอียดได้ค่ะ กล่าวคือเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลและประสิทธิภาพโพสต์, การใช้งาน Instagram Shopping สำหรับขายสินค้า, และการสร้างและจัดการโฆษณาได้โดยตรง บัญชีประเภทนี้เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่ม Awareness และเพิ่มยอดขายผ่าน Instagram อย่างมาก
ข้อดี
- Shoppable posts: เป็นโพสต์ที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจแท็กผลิตภัณฑ์ได้โดยตรงในโพสต์ฟีด, Instagram Stories, วิดีโอ IGTV, คลิปม้วนสาย, คำแนะนำ และการถ่ายทอดสด แม่ค้าพ่อค้าถูกใจแน่นอน แพลตฟอร์มจะได้แนะนำสินค้าให้แก่ user ที่อาจสนใจสินค้าของเราได้ต่อไปค่ะ
- Advertising: Business Accounts จะเป็นบัญชีที่ run ads เพื่อเข้าถึงลูกค้าและเพิ่ม reach ได้มหาศาล
Concern
- The price per ad is a little high: ราคาโฆษณาที่สูง ธุรกิจขนาดเล็กอาจจะไม่ได้ใช้แพ็คเกจได้เต็มที่ แนะนำว่าให้ใช้ IG Storie เป็นหลักค่ะ เน้นวันเวลาที่ถูกต้องตามการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า จะได้ไม่เปลือค่าแอดที่ต้องยิ่งมั่ว ๆ
สรุปฟีเจอร์ Personal / Creator / Business
เป็นอย่างไรคะกับการแนะนำให้รู้จักบัญชีแต่ละประเภทเบื้องต้น และสรุปฟีเจอร์เด่น เทียบให้เห็นว่า Instagram Creator และ Business Account เป็นการตัดสินใจที่ไม่ยากขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งาน เป้าหมายของบัญชีค่ะ และยังสร้าง impact อย่างมีนัยสําคัญต่อประสบการณ์โซเชียลมีเดียของแบรนด์คุณด้วยนะคะ
อยากเน้นย้ำว่า อย่าลืมเข้าไปใช้เครื่องมือฟรีอย่างการวิเคราะห์ Audience เพราะจะทำให้คุณประหยัดค่ายิงแอด มีทิศทางคอนเทนต์ที่แม่นยำขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะใช้ Instagram Creator หรือ Business Account ลองดูตามลิสต์นี้แล้วเลือกดูอีกครั้งนะคะ 1. เป้าหมายและวัตถุประสงค์: จะใช้ Instagram Account นี้ทำอะไร 2. ต้องการใช้ฟีเตอร์และเครื่องมือใดบ้าง 3. ข้อมูลเชิงลึก พฤติกรรมลูกค้า การให้เอนเกจ การติดตามคอนเทนต์
หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้นักการตลาดและเข้าของธุรกิจ รวมทั้งบุคคลทั่วไปใช้ Instagram ได้เหมาะกับตัวเองมากขึ้นนะคะ