วิเคราะห์ SWOT Analysis มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไทย

วิเคราะห์ SWOT Analysis มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไทย
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี

วิเคราะห์ SWOT Analysis Electric Bike มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีแบรนด์ไหนที่ขายดีกันบ้าง หลายคนคงเห็นข่าวเรื่องกระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่มาแรงแต่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้มีแค่ตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาในไทยแต่ยังมีในส่วนของ “รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าหรือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” ที่ถือว่ามาแรงในประเทศไทย

อีกครั้งถ้าคุณสังเกตุดี ๆ บนท้องถนนคุณอาจจะได้เห็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากันไปบ้างแล้วโดยที่ไม่รู้ตัวหรือบางคนที่มีการใช้บริการ Grab ก็อาจจะเคยได้นั่ง Grab Bike หรือ Grab Win ที่เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาบ้างแล้ว

ยี่ห้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนอันดับ 1

หากเราอ้างอิงจากยอดรถเตอร์ไซค์จดทะเบียนใหม่ตามสถิติของกรมขนส่ง เราก็จะพบว่าจำนวนยี่ห้อรถมอเตอร์ไซค์ที่มียอดจดทะเบียนสูงสุด 10 ลำดับในปี 2565 มีดังต่อไปนี้

  1. DECO 2,848 คัน
  2. H SEM 1,623 คัน
  3. NIU 990 คัน
  4. HAONAIQI 764 คัน
  5. STROM 597 คัน
  6. LUYUAN 520 คัน
  7. THOMAS 398
  8. AJ 362 คัน
  9. KAVALLO 220 คัน
  10. RENNY 140 คัน

Top 3 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อขายดี เป็นใคร มาจากไหน

DECO มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

DECO “เดโก” เป็นยี่ห้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตจากประเทศไต้หวันมาผลิตและประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ในประเทศไทยที่สามารถทำจดทะเบียนใหม่ได้สูงที่สุดในปี 2565 ผู้เขียนจึงลองไปศึกษาดูว่า อะไรที่ทำให้มอไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อนี้ขายดี ทั้ง ๆ ที่เป็นแบรนด์ที่เพิ่งเปิดใหม่ อีกทั้งการจะสร้างความเชื่อใจให้ผู้ใช้งานกล้าที่จะใช้มอไซค์ไฟฟ้านั้นก็มีความยากเพียงพอกับการให้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าในช่วงแรก ๆ

แหล่งที่มา : Deco Green Energy Official Website

จากการสังเกตภาพรวมของแบรนด์ DECO รวมไปถึงรีวิวต่าง ๆ ใน Facebook group จากผู้ใช้งานจริง จะพบว่าคนส่วนใหญ่ที่กล้าจะเลือกใช้แบรนด์น้องใหม่นี้เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่มีรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ราคาไม่สูงมีตั้งแต่ระดับ 47,000 ไปจนถึง 80,000 เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นที่ขายมอไซค์ไฟฟ้าในคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกันหรือถูกกว่าแบรนด์อื่นนั่นเอง นอกจากนั้นทางแบรนด์ยังมีสาขาสำหรับการบริการหลังการขายที่ค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นในระยะเวลาเดียวกัน ทำให้ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ กล้าจะที่จะลองซื้อมาใช้เพราะไม่ต้องกังวลว่าหากมอไซค์ไฟฟ้าของตัวเองมีปัญหาจะต้องรอเป็นระยะเวลานานกว่าจะได้รับการซ่อมหรือการบริการจากทางแบรนด์

H SEM จาก H SEM Motor

H SEM “เอช เซม” แบรนด์ที่นำเข้าอะไหล่มาจากประเทศจีนและมาประกอบในประเทศไทย ที่แรกเริ่มทางแบรนด์ H SEM Motor จะเป็นการจำหน่ายรถกอล์ฟไฟฟ้า รถชมวิวไฟฟ้า รถไฟฟ้าอเนกประสงค์ และรถไฟฟ้าต่าง ๆ ที่ไม่ใช่รถยนต์ ซึ่งต่อมาได้มีการผลิตรถมอไซค์ไฟฟ้าออกมาขายในประเทศไทย หากเทียบในเรื่องของราคาระหว่าง H SEM กับ DECO ทางแบรนด์ H SEM จะมีราคาเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูงกว่า เมื่อเทียบกับรุ่นมอไซค์ไฟฟ้าที่ใกล้เคียงกัน

แหล่งที่มา: H SEM Motor

แต่ทางแบรนด์ H SEM ได้มีการใช้กลยุทธ์เข้าหากลุ่มลูกค้าที่เป็น Rider ไรเดอร์ หรือผู้ขับขี่สาธารณะที่มีการใช้งานประจำวันมากกว่าคนปกติทั่วไป โดยได้ออกแบบโมเดลธุรกิจเป็นแบบมอไซค์ไฟฟ้าให้เช่าที่เริ่มต้นตั้งแต่ 7 วัน ไปจนถึง 180 วัน โดยราคา 7 วัน ของมอไซค์ไฟฟ้ารุ่น Mobila G 2022 เริ่มต้นที่ 1,400 บาท และราคาเช่า 30 วันอยู่ที่ 5,250 บาท (อ้างอิงราคาจาก Line Official) หากมองเทียบกับราคาการซื้อมอเตอร์ไซค์ปกติที่เป็นเครื่องสันดาปใช้น้ำมัน ราคาเช่ามอไซค์ไฟฟ้าอาจจะเทียบเคียงกับราคาที่ผ่อนไฟแนนซ์ของมอไซค์น้ำมันเลยก็ว่าได้ ดังนั้นการที่ทางแบรนด์ออกแบบโมเดลธุรกิจให้เช่าออกมา อาจจะต้องการลองตลาดให้ผู้ใช้งานหนักหรือผู้ใช้งาน Rider สำหรับธุรกิจ มาลองใช้สินค้าของทางแบรนด์เพื่อลองตลาดก่อน

ถ้าหากลองเทียบราคาเช่าต่อวันและรายได้ที่เหล่า Rider ได้รับ อาจจะมีความคุ้มค่ามากกว่า อีกทั้งทาง Rider หรือทางธุรกิจเองไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงเรื่องความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้มอไซค์ไฟฟ้า ดังนั้นราคาให้เช่าในมุมมองธุรกิจก็จะมีความคุ้มค่ามากกว่าการรีบซื้อไว้เป็นเจ้าของเอง

นอกจากโมเดลธุรกิจการให้เช่าแล้วทาง H SEM ก็ได้มีทำโมเดลการขายมอไซค์ไฟฟ้ามือสองที่ราคาถูกลงมา ทำให้คนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมถึงคนที่เคยลองใช้งานผ่านการเช่าแล้วสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เนื่องจากราคามือสองค่อนข้างเข้าถึงง่าย ถือว่าทางแบรนด์สามารถบริหารจัดการ Supply Chain ของสินค้าได้เป็นอย่างดีและเกิด Waste ที่เป็นต้นทุนให้กับตัวบริษัทได้น้อย

NIU จาก ชาริช โฮลดิ้ง

NIU “นิว” เป็นอีกแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เปิดตัวมาในราคาที่สูงซึ่งสเปคที่แรงมีราคาถึงเกือบ 2 แสนบาทเลยทีเดียว แต่เป็นแบรนด์นิวเป็นแบรนด์ดังสตาร์ทอัพจากประเทศจีน ที่เกิดจากการ Crowdfunding หรือการระดมทุนจากคนจำนวนมาก โดยทางแบรนด์ได้รับความนิยมและมียอดขายอันดับ 1 ของ Scooter ไฟฟ้าในประเทศเยอรมันนี อีกทั้งวัสดุรวมถึงมอเตอร์ที่ใช้มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากแบรนด์ดังอย่าง Bosch ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า และแบตเตอรี่จาก Panasonic อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อเช็คข้อมูลของระบบได้แบบ Real time

แหล่งที่มา: NIU Thailand

เนื่องจาก NIU เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีราคาสูงถึงแม้ว่าตัวสเปคความแรงและความเร็วอาจจะมีให้เลือกอย่างหลากหลาย แม้ว่าทางแบรนด์เองไม่ได้มีโมเดลธุรกิจให้เช่าเพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วไปที่อาจจะอยากลองก่อนซื้อได้ลองใช้งาน แต่ทางแบรนด์ได้มีการพาร์ทเนอร์กับบริษัทพลังงานอย่างบางจาก และเปิดตัว “วินโนหนี้” หรือแพลตฟอร์มให้บริการมอเตอร์ไฟฟ้าให้เช่าแบบ 24 ชั่วโมง รวมถึงมีจุดเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ตามปั๊มบางจากที่มีหลากหลายสาขาทั่วประเทศไทย สำหรับคอนเซปของแพลตฟอร์ม “วินโนหนี้” นั้นมีจุดประสงค์ในช่วยลดค่าใช้จ่ายของพี่วินมอเตอร์ไซค์นั่นเอง เนื่องจากอาชีพพี่วินต้องมีการเติมน้ำมันต่อวันจำนวนมาก ทำให้ด้วยราคาน้ำมันปัจจุบันนั้นอาจจะส่งผลให้เกิดต้นทุนในการประกอบอาชีพที่สูง การใช้มอไซค์ไฟฟ้าก็จะเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับพี่วินได้ระดับนึง เนื่องจากพี่วินไม่ต้องแบกรับค่าน้ำมันที่สูงขึ้น ค่าประกัน รวมถึงค่าซ่อมในกรณีที่ตัวรถมีปัญหา อีกทั้งเป็นการได้ทดลองปรับตัวให้ชินกับการเข้ามาของมอไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทยอีกด้วย

ดังนั้นผู้เขียนยังมองว่าตัวเลขจดทะเบียนที่สูงของทางแบรนด์ H SEM และ NIU Thailand น่าจะมาจากโมเดลธุรกิจการให้เช่ามากกว่ายอดจดทะเบียนที่มาจากผู้ใช้งานแบบ B2C ที่เป็นคนนำไปใช้ในชีวิตประจำวันจริง ๆ เมื่อเทียบกับ DECO ที่ราคาค่อนข้างถูกกว่าและมีสาขาให้บริการหลังการขายที่เยอะกว่า และหากผู้อ่านได้มีโอกาสลองเสิร์ชหารีวิว DECO ก็จะเห็นได้ว่าผู้ที่มารีวิวส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใช้งานทั่วไปมากกว่าเป็น Rider มารีวิว

ยี่ห้อดังสัญชาติญี่ปุ่นมีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไหม

หากผู้อ่านลองสังเกตจำนวนสถิติด้านบนก็จะเห็นได้ว่ายังไม่มีแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นที่เราคุ้นเคยอย่าง HONDA หรือ YAMAHA ติดใน 10 อันดับ ซึ่งความจริงแล้วภายในปี 2565 มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อจดทะเบียนถึง 137 คัน ซึ่งหากติดตามจากข่าวสารอัพเดทของทางแบรนด์ ทาง Honda กำลังอยู่ในช่วงทดลองนำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้กับทางหน่วยงานภาครัฐได้ลองใช้งาน ซึ่งทางแบรนด์ Honda ได้มีการนำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเข้ามาทดลองใช้งานในประเทศไทยอยู่เป็นจำนวน 2 รุ่น คือ

  1. Honda BENLY e:

แหล่งที่มา: Thai Honda

  1. Honda PCX electric

แหล่งที่มา: Thai Honda

SWOT Analysis ของ Top 1 ยี่ห้อ Deco

Strength

จุดแข็งของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์นี้ ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือราคาที่ถูกและมีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าหลายรุ่นให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้ให้เข้ากับการใช้งานของตนเอง นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังมีจุดแข็งในด้านการให้บริการหลังการขายที่สามารถสร้างความเชื่อใจให้กับผู้ซื้อได้ ซึ่งสองจุดนี้ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบทางการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก

Weakness

ส่วนจุดอ่อนของแบรนด์นี้ คาดว่าจะเป็นตัวสเปคของมอไซค์ไฟฟ้าที่อาจจะยังมีความแรงหรือความเร็วไม่มากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ทำให้ผู้ใช้งานจริงอาจจะยังไม่เลือกใช้เพราะ อาจจะมีในส่วนของความปลอดภัยที่ต้องระวังในการแซงบนท้องถนน

Opportunity

โอกาสที่สำคัญของแบรนด์นี้ที่จะทำให้เป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจคือการที่ทางรัฐบาลมีการสนับสนุนให้ผู้คนที่ซื้อรถมอไซค์ไฟฟ้าได้รับส่วนลด ทำให้คนสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกลงกว่าเดิมและด้วยความเดิมที่แบรนด์นี้มีราคาถูกอยู่แล้วทำให้ราคานั้นถูกลงไปอีก

Threats

คิดว่าปัจจัยภายนอกที่จะส่งผลให้เกิดการเสียเปรียบทางธุรกิจ อาจจะมาจากการที่มีคู่แข่งเพิ่มจำนวนขึ้นในประเทศเนื่องจากตอนนี้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายังถือว่ามีผู้เล่นน้อยราย อีกครั้งแบรนด์ดังสัญชาติญี่ปุ่นที่ครองตลาดมาเป็นเวลานานหรือมี Market share ส่วนแบ่งทางการตลาดค่อนข้างสูงยังไม่ได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ทำให้ในอนาคตหากแบรนด์ใหญ่เหล่านี้เปิดตัวออกมาอาจจะเกิดการแย่งตลาดกันและด้วยความ แบรนด์ Deco ก็ยังเป็นแบรนด์ใหม่ในสายตาของคนไทยอาจจะไม่สามารถแย่งตลาดกับแบรนด์ดังสัญชาติญี่ปุ่นได้

สรุปวิเคราะห์ SWOT Analysis Electric Bike มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไทย

ในปัจจุบันมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่มียอดจดทะเบียนสูง ยังไม่มีแบรนด์ดังเดิมจากทางสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งแบรนด์หรือยี่ห้อที่เป็นที่นิยมในกลุ่ม B2C หรือลูกค้าที่ใช้งานปกติทั่วไปในชีวิตประจำวันก็จะเป็นแบรนด์ DECO ที่มีราคาไม่ค่อยสูงมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น อีกทั้งมีสาขาที่ให้บริการหลังการขายที่ครอบคลุม ซึ่งเป็นจุดที่ผู้เขียนคิดว่าผู้ใช้งานมีความเชื่อมั่นในแบรนด์มากจนกล้าที่จะลองใช้ ในขณะที่ Top 2 และ 3 จะเป็นของแบรนด์หรือยี่ห้อ H SEM และ NIU Thailand ที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะเป็นพี่ ๆ Rider หรือกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็นภาคธุรกิจ สาเหตุหลักอาจจะมาจากที่ทั้งสองแบรนด์นี้มีมอไซค์ไฟฟ้าที่ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น อีกทั้งมีสาขาที่ให้บริการหลังการขายที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับ DECO ทำให้ผู้ใช้งานปัจจุบันหรือทั่วไปอาจจะยังขาดความเชื่อมั่นหรือขี้เกียจที่จะไปหาศูนย์บริการ เพราะมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายังถือว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทยอยู่ อีกทั้งคนไทยอาจจะต้องมีความเข้าใจและเชื่อมั่นเรื่องของการชาร์จแบตเตอรี่หรือการเปลี่ยนแบตเตอรี่มากกว่านี้ พวกเขาถึงจะกล้าจ่ายในราคาที่สูงขึ้นเพื่อแลกกับการประหยัดพลังงานหรือค่าน้ำมันในระยะยาว

References:

อ้างอิง 1, อ้างอิง 2, อ้างอิง 3, อ้างอิง 4, อ้างอิง 5, อ้างอิง 6

หากผู้อ่านต้องการอ่านบทความเพิ่มเติมโดยผู้เขียนสามารถกดที่ตรงนี้ได้เลย

Brainbruch

Analyst คนนึงที่ชื่นชอบการหาความรู้ใหม่ ๆ และอยากจะมาแชร์ให้ทุกคนได้ลองอ่านกันครับ!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *