Seeding ทำการตลาดหน้าม้า ในยุคที่ลูกค้ารู้ทันแบรนด์

Seeding ทำการตลาดหน้าม้า ในยุคที่ลูกค้ารู้ทันแบรนด์

รู้จัก การตลาด Seeding ผ่าน Influencer ทำการตลาดหน้าม้า ในยุคที่ลูกค้ารู้ทันแบรนด์

Seeding คืออะไร

การตลาด Seeding ผ่าน Influencer หรือจะเรียกว่า Seed Marketing ก็ได้ คือกลยุทธ์การตลาดที่เน้นการกระจายสินค้าหรือบริการ ให้ไปถึงกลุ่มผู้บริโภค หรือตลาดเป้าหมายที่เหมาะสมใน ‘ช่วงเริ่มต้น’ ของธุรกิจค่ะ โดยนิยมใช้ Influencer หรือ KOLS เป็นหลัก

ขยายความคือ เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการส่งต่อสินค้าหรือบริการนั้นให้แก่บุคคลที่มีความน่าสนใจหรือเป็นกลุ่มเป้าหมายของสินค้านั้น ๆ ให้ผู้รับสินค้านั้นทดลองใช้จริงเลย และแชร์ประสบการณ์ต่อในช่องทางต่าง ๆ เช่น Social Media Web Blog และ Traditional Media อื่น ๆ  เรียกได้ว่าเป็นการโปรโมตเพื่อสร้าง Awareness สำหรับขยายโอกาสทางการขายและสร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้อย่างดีเลยค่ะ 

นักการตลาดรู้จักกันดีในรูปแบบการใช้ Influencer Marketing หรือ Influencer Gifting ที่แบรนด์ส่งสินค้าไปยัง KOLS แต่ในกลยุทธ์นี้จะเรียกกันในช่วงแรก ๆ ของการเปิดตัวแบรนด์เลยนั่นเองค่ะ  และไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทไหน Beauty, Food, Fitness, Fashion หรือ Tech และอื่น ๆ ไม่จำกัดวงการก็สามารถใช้กลยุทธ์นี้ได้ทั้งสิ้นเลยค่ะ

ปัจจุบันหลายแบรนด์ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในการใช้เทคนิคนี้ เช่น LUSH, Chegg, GoPro, Graze, Clinique และที่ไม่ได้กล่าวถึงในไทยอีกมากมาย

ประโยชน์ของการทำ Seeding

1. Brand awareness

อย่างแรกเป็นสิ่งที่จะได้แน่นอนคือการรับรู้นั่นเองค่ะ เพราะ Influencer จะช่วยให้สินค้าเข้าถึงหน้าไทม์ไลน์โซเชีนลมีเดียของกลุ่มเป้าหมาย

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Brand awareness ได้ที่นี่ค่ะ

2. Long-term, authentic brand ambassadors

ประโยชน์ระยะยาวที่แบรนด์จะได้คือ การที่แบรนด์สามารถทำคอนเทนต์อื่น ๆ ในอนาคตร่วมกับ Influencer คนเดิมได้อย่างมีความเชื่อมโยงขึ้นค่ะ เพราะเราได้ Seeding ไปแล้วครั้งนึง นอกจากแบรนด์จะได้สร้าง relationship แล้วยังมีโอกาสเพิ่ม effective partnerships เอาไว้อีกด้วยนะคะ ถ้าแบรนด์มีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เราอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณเท่าเดิม เพราะ Influencer ท่านนั้นติดใจในสินค้าของเราไปแล้ว

3. Cost-effective influencer marketing

นุ่นเชื่อว่านักการตลาดทราบกันดีว่าการ exchange products หรือมอบสินค้า เพื่อแลกกับคอนเทนต์เป็นอะไรที่คุ้มค่า หากอินฟลูท่านนั้นสามารถสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ จนเกิดการซื้อตามเป็นโบนัส เราจะสามารถบริหารงบประมาณไปทางอื่นได้เพิ่มเติมค่ะ

4. Earned brand loyalty

การส่งสินค้าให้ฟรีก็เป็นอีกทริคที่ช่วยทำให้ผู้รับรู้สึกอิน และเกิด Brand loyalty ได้ง่ายขึ้นค่ะ  เมื่อ Influencer คุ้นเคยกับการใช้แบรนด์ของคุณ ก็ทำให้การแนะนำ พูดถึง หรือบอกต่อสินค้าของเรามีความธรรมชาติมาก หากประทับใจสินค้าของเราสุด ๆ ก็อาจจะเกิดการแนะนำผ่าน Social Media ซ้ำ ๆ

เดี๋ยวนี้นุ่นเจอบ่อยเลยค่ะที่ KOLs เล่นฟีเจอร์ Q&A บน Stories IG เพื่อเปิดให้คนที่ติดตามถามอะไรก็ได้ที่อยากรู้ บิวตี้บล็อกเกอร์มักจะโดนคำถามว่า ช่วงนี้ใช้อะไรผิวดีจัง พี่ใช้มาส์กหน้าไหมคะแนะนำหน่อย แล้วอินฟลูก็แนะนำสินค้าที่ใช้บ่าย ๆ หรือสินค้าที่ประทับใจหลังร่วมงานด้วยนั่นเองค่ะ อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นปุ๊ปปั๊บรับโชค ต้องอาศัยปัจจัยอื่น ๆ โดยเฉพาะคุณภาพของสินค้าด้วยนะคะ

ข้อแนะนำสำหรับการทำ Seeding

  • เลือก Influencer ที่เหมาะกับแบรนด์จริง ๆ ดูข้อมูลเชิงลึกของผู้ติดตามและไล่ย้อนหน้าไทม์ไลน์ดูค่ะว่าคอนเทนต์แบบไหนที่ได้รับความสนใจ เราจะได้รู้สไตล์และแนวของคน ๆ นั้นว่าเหมาะกับสินค้าเราจริงไหม เช่น เลี้ยงแมวมานานหรือยัง ปกติให้น้องแมวทานอาหารแบบไหน
  • Repost กลับมาที่แอคเคาท์ของแบรนด์ เป็นเทคนิคที่สามารถสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้มากขึ้น ทำได้ง่าย ๆ แค่กด Repost บนฟีเจอร์ Stories IG / Facebook ซึ่งนุ่นเคยพูดถึงในบทความ Case Study การตลาด Boost Juice Bars ค่ะ
  • ไม่ตีกรอบคอนเทนต์จนเกินไป การที่เราเลือก Influencer คนใดคนนึงแล้ว ควรปล่อยให้เค้าได้สร้างสรรค์รูปแบบคอนเทนต์ได้เต็มที่ เพราะเจ้าของแอคเคาท์ย่อมรู้ดีที่สุดค่ะว่าผู้ติดตามชอบอะไร และจะเลื่อนผ่านอะไร หากนักการตลาดยอมรับและเปิดใจข้อดีได้ คุณจะได้คอนเทนต์ใหม่ ๆ อย่างแน่นอนค่ะ ลิสต์ Do / Dont ที่จะส่งผลลบต่อสินค้าจริง ๆ ก็พอนะคะ

บอกไปเลยตรง ๆ ว่าแบรนด์ส่งมาให้

ในยุคที่ลูกค้าเคยชินกับการโฆษณาผ่าน Influencer แค่ดูชื่อแอคเคาท์ หรืออ่านประโยคแรกก็ทราบแล้วค่ะว่าเป็นคอนเทนต์ที่แบรนด์ส่งของมาให้ ไม่ได้รีวิวจากประสบการณ์ใช้งานส่วนตัว 100% เพราะคนไทยมีความเกรงใจอยู่มาก นักการตลาดลองนึกภาพตามถ้าเราไปทานร้านอาหาร ที่ร้านสนับสนุนค่าอาหารให้ หากต้องรีวิวหรือแนะนำต่อส่วนมากแล้วเราจะนึกเกรงใจร้านนิดหน่อยถูกไหมล่ะคะ~

วิธีที่อยากให้แบรนด์ใช้ หรือบรีฟ KOLS เพิ่มเติมคือ ไม่ต้องตีกรอบแคปชั่นมาก และให้ใช้คำว่า ‘แบรนด์ส่งมาให้ลอง’ ไปเลยตรง ๆ ถือเป็นการแสดงความจริงใจกับลูกค้า ดีกับแบรนด์และตัวผู้แนะนำสินค้าต่อซะอีกนะคะ

หากต้องการหักดิบไปเลย ลองศึกษา De-Influencing ที่เป็นหนึ่งในอีกมิติของ Influencer Marketing และเป็นกระแสอย่างมากในโลกตะวันตก บนแพลตฟอร์มยอดฮิตอย่าง TikTok สร้างความรู้สึกให้ลูกค้าอยากซื้อมาลองเองบ้างว่าสินค้านี้ไม่ควรซื้อจริงหรอ


Seeding ทำการตลาดหน้าม้า ในยุคที่ลูกค้ารู้ทันแบรนด์

เป็นอย่างไรคะ อ่านจบแล้วคงเห็นตรงกันว่าเป็นกลยุทธ์การตลาดที่หลายคนรู้จักกันดี เพราะเราเห็นกันบ่อยมากในทุก ๆ วัน วันนี้นุ่นก็รวบรวมประโยชน์ที่แบรนด์จะได้รับ และข้อแนะนำหากอยากทำ Seeding ให้มีโอกาสสำเร็จมากกว่าแค่คอนเทนต์เฉย ๆ แต่ให้เน้นไปที่ความเหมาะสมกับภาพลักษณ์ ความ Real ที่แบรนด์ควรให้อิสระกับ Influencer ได้สร้างสรรค์คอนเทนต์ รวมทั้งอย่าลืม Repost เพื่อสร้างความสัมพันธ์ร่วมอันดีเก็บไว้ค่ะ

หากนำไปปรับใช้แล้วหรือมีประสบการณ์อยากแชร์อย่าลืมมาพูดคุยกันในคอมเมนต์นะคะ นุ่นรออ่านเลย ╹◡╹

Source Source

Noon Inch

นุ่น Business Data Research Analyst Specialist | Martech 🙋🏻‍♀️💻ใช้ชีวิตอยู่กับ Social Listening Tools เกือบทุกวันมาร่วม 6 ปี 🙋🏻‍♀️📈ทำงานด้าน Social Data Research ให้กับหน่วยงานรัฐและแบรนด์เอกชน 6 ปี 🙋🏻‍♀️✈️ชอบทำงานและชอบใช้เงิน แล้วก็เป็น K-POP🇰🇷 & Salmon Lover 🍣

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *