Marketing Insight Gen Z 2024 การตลาด ‘เจนซี’ ทำยังไงให้ปัง

Marketing Insight Gen Z 2024 การตลาด ‘เจนซี’ ทำยังไงให้ปัง

ต่อเนื่องจากบทความ Insight Gen Z 2024 เจาะลึกเจนซีในทุกแง่มุม พร้อมสรุปเข้าใจง่าย ในบทความนี้เราจะพามาเจาะลึกในอีกแง่มุมด้าน การตลาด กับ เจนซี พวกเขาชอบอะไน ไม่ชอบอะไร มองหาสิ่งไหน ให้ความสำคัญกับสิ่งใด ในบทความนี้ได้รวบรวมมาให้แบบจัดหนักจัดเต็ม พร้อมเผยกลยุทธ์แบบไม่กั๊ก

ใครคือ เจนซี (Gen Z) ?

เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน เรามาทำความเข้าใจ เจนซี กันก่อนว่า เจนซี (Gen Z) ในที่นี่พวกเขาคือใคร

เจนซี (Gen Z) คือกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี 1997-2012 (11-26 ปี) ไม่ได้เป็นกลุ่มวัยรุ่นอย่างที่เราเข้าใจกันเพียงอย่างเดียวในทุกวันนี้ โดยสามารถแบ่ง Gen Z ออกได้เป็น 4 ช่วง ดังนี้

1. Teenager (11-18 ปี) — กลุ่มเด็กวัยรุ่น มัธยม
2. Explorer (18-22 ปี) — เริ่มโต เข้าเรียนมหาลัย ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ
3. First Jobber (22-24 ปี) — เข้าวัยทำงาน เข้าสู่ชีวิตจริง เริ่มต้นได้ใช้ชีวิตกับความกดดันอย่างแท้จริง
4. Senior (24-26 ปี) — มีความรับผิดชอบสูงขึ้น มีประสบการณ์ในการทำงานและชีวิตมากขึ้น

ทั้งนี้ที่มาของการจัดช่วงของ เจนซี ในบทความนี้อ้างอิงจาก Marketing 5.0 สามารถใช้เกณฑ์อื่น ๆ ในการจัดช่วงได้เช่นกัน

#1 Marketing Insight: Political Branding เลือกแบรนด์ที่มีทัศนคติและจุดยืนที่ตรงกัน

สืบเนื่องมาจากชาวเจนซี เป็น Armchair Activist เรียกร้องและใส่ใจในประเด็นสำคัญผ่านโซเซียลมีเดีย พวกเขาพร้อมที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวทางสังคมเจนซี ในทุกวันนี้ พวกเขาเลือกที่จะใช้จ่าย สนับสนุนหรือเป็นลูกค้าแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งจากทัศนคติ จุดยืนทางการเมืองหรือเรื่องอื่น ๆ ที่ตรงกัน

หากแบรนด์สนับสนุนในสิ่งที่ไม่ได้ไปในทางเดียวกัน พวกเขาก็ไม่เลือกใช้ และก่อให้เกิด #แบน(แบรนด์) อย่างที่เราเห็นกันในช่วงสถานการณ์หลาย ๆ อย่างที่ผ่านมาในบ้านเรา ทั้งนี้ ทัศนคติ จุดยืนที่พวกเขาให้ความสนใจ ไม่ใช่มาจากแบรนด์แค่อย่างเดียว

แต่มาจากทั้งแบรนด์ ผู้บริหาร พนักงานในองค์กร ภาพรวมทั้งหมดของแบรนด์นั้น ๆ

ดังนั้น หากจะทำ การตลาด กับ เจนซี ควรที่จะให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ในองค์รวม พวกเขาชอบความจริงใจและจุดยืนของแบรนด์ที่มั่นคง หากเราเห็นด้วยกับพวกเขาก็ให้ออกมาแสดงจุดยืนให้ชัดเจน หากเราไม่ชัดเจน พวกเขาก็ไม่ชัดเจนกับเราเช่นเดียวกัน

#2 Marketing Insight: เข้าถึง Gen Z ที่ดี CSR ไม่พอ ต้อง ESG

เนื่องจาก เจนซี สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ดังนั้นมุมมอง วิสัยทัศน์ที่พวกเขามีต่อโลก แบรนด์ต่าง ๆ นั้นกว้างมาก เรียกง่าย ๆ ว่าเห็นมาเยอะ ดูออกว่าแบรนด์ไหนจริง แบรนด์ไหนปลอม ทำให้พวกเขามองหาแบรนด์ที่จริงใจ ซื้อสัตย์ มีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ

ดังนั้น การทำ CSR สร้างภาพลักษณ์ที่ดีอาจไม่เพียงพอต่อการทำ การตลาด กับ เจนซี ในทุกวันนี้ โดยเราสามารถขยับเพิ่มมาเป็นการทำ ESG โดย E= Ethic และ S=Sincere (จากนิยามของคุณหนุ่ย การตลาดวันละตอน)

กล่าวคือ แบรนด์จะต้องมีจริยธรรมและความจริงใจต่อลูกค้า

ยกตัวอย่างเช่น ชินคันเซ็น ซูชิ ที่ออกแถลงการณ์ปรับลดราคาหอยเชลล์ บอกถึงสาเหตุว่าทำไมถึงปรับราคาลง เพราะมีต้นทุนทางวัตดุดิบที่ถูกลง ซึ่งการกระทำนี้ได้ใจชาว เจนซี ไปเต็ม ๆ เพราะถือว่าแบรนด์ไม่ได้ฉวยโอกาสที่จะขึ้นราคากับลูกค้าได้ตลอด จริงใจที่จะบอก จึงไม่แปลกว่าทำไม การตลาดแบบจริงใจถึงได้ใจ เจนซีไปเต็ม ๆ

มากไปกว่านั้น จริยธรรมที่แบรนด์ต้องมี ไม่ได้มีเพียงแค่การสร้างภาพลักษณ์เพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงขั้นตอนการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใส การจ้างแรงงานที่เป็นธรรม วัตดุดิบที่ใช้ไม่เบียดเบียนธรรมชาติหรือส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม เพราะพวกเขาเกิดขึ้นมาในยุคที่ทรัพยากร สิ่งแวดล้อมของโลกถูกส่งต่อมาเป็นของมือสอง

เพราะฉะนั้น สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ เจนซี ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ต่อให้แบรนด์ของคุณจะดีแค่ไหน แต่เบื้องหลังไม่มีจริยธรรม พวกเขาก็ไม่สนับสนุน หากจะทำ การตลาด ให้ดีควรโปร่งใสตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งในที่ที่มองเห็นและมองไม่เห็น

#3 Marketing Insight: Deinfluencing การตลาดใช้อินฟลูที่จริงใจ

การตลาด ที่เราเห็นกันอยู่เป็นประจำและมักคุ้นตากันดี คือ การใช้ Influencer มากหน้าหลายตามาทำการรีวิวสินค้า ป้ายยาว่าดีอย่างนู่น ดีอย่างนี้ ซึ่งดีเผิน ๆ แล้วการตลาดแบบนี้ก็ได้ผลกันดีและหลาย ๆ แบรนด์ก็เลือกใช้วิธีนี้เช่นกัน แต่กลับ เจนซี แล้วไม่ใช่

สิ่งที่ชาวเจนซีมองหา ไม่ใช่การป้ายยามาบอกว่าสิ่งนี้ดี เริ่ดที่สุด ปังมากแม่ ของมันต้องมี

แต่เป็นในอีกมิติของการป้ายยาว่า อย่าซื้อ ไปซื้ออย่างอื่นจะดีกว่า อันนี้ของมันไม่จำเป็น!

หรือที่เราเรียกกันว่า Deinfluencing ซึ่งถือเป็นเทรนด์ ‘อย่าซื้อ’ ในอีกมิติของ Influencer Marketing เป็นการรีวิวแบบจริงใจ ใช้จริง การตลาด แบบนี้จะเข้าถึง เจนซี ได้ดีกว่า เพราะพวกเขาไม่ได้มองหาอินฟลูที่มาจาก วงกว้าง แต่มองหาคนใน วงการ ที่เป็นตัวจริง กูรูในด้านนั้น ๆ มากกว่า

ทั้งนี้ การที่เราบอกว่า อย่าไปซื้อ มันกลับทำให้เกิดการกระทำอีกอย่างขึ้นมาคือ อยากซื้อ แทนซะงั้น ทำให้เจนซีบางส่วนที่เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกอยากที่จะซื้อขึ้นมา เพื่อที่จะมาพิสูจน์ด้วยตัวเองว่ามันดีหรือไม่ดี ซึ่งนี่ก็ถือเป็นจุดดีอีกอย่างของการตลาดแบบ Deinfluencing นั่นเอง

#4 Marketing Insight: Nostalgia Marketing

การตลาดย้อนยุคที่เวลาก็ฆ่าไม่ได้ อย่าง Nostalgia Marketing ที่ถูกใจและเป็นกระแสในวงกว้างกับชาวเจนซี ซึ่ง Nostalgia ในบริบทของ เจนซี เป็นเรื่องใหม่ของเจนซี แต่เป็นเรื่องเก่าของเจนก่อนหน้า พวกเขาไม่ได้คุ้นชินกับมันมาก่อน แต่มองว่ามันเป็นสิ่งใหม่ ๆ ที่พวกเขาชอบ ตรงจริต

เป็นการเอาประสบการณ์กลับมาขายใหม่ ทำเรื่องเก่าให้เป็นเรื่องใหม่

นักการตลาดท่านใด ที่อยากจะทำ การตลาด กับ เจนซี ลองมานั่งดูว่าอะไรที่เป็นเรื่องเก่าในยุคก่อนหน้า แต่เจนซีอาจจะชอบก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจไม่แพ้กันค่ะ

#5 Marketing Insight: Slow Social มองหาความจริง และมุ่งหวังจริยธรรม

ตลอดระยะเวลาของเข้าถึงโลกอินเทอร์เน็ต เจนซี รู้และเห็นสิ่งต่าง ๆ มามาก ทั้งมุมกว้างและมุมแคบ ซึบซับสิ่งต่าง ๆ มากมายจนรู้สึกเบื่อหน่ายกับคอนเทนต์รูปแบบเดิม ๆ ชีวิตเดิม ๆ สิ่งเดิม ๆ เห็นคนอวดกันไปวัน ๆ ดังนั้น พวกเขารู้ว่าอะไรมันดี ไม่ดี อะไรเชื่อได้ และไม่ได้ พวกเขาจึงมองหาความจริงที่จริงแท้ และมองหาจริยธรรมมากขึ้น

#6 Marketing Insight: Gen Z = GlobalCitizen เที่ยวไวเห็นโลกกว้าง

เจนซี ถือว่าเป็นเจนที่เที่ยวไวกว่าทุกเจน เพราะเกิดมาในยุคที่มีสายการบินราคาประหยัด (LowCostAirline) มีบริการจองตั๋ว จองที่พักราคาถูกมากมายหลายเจ้าที่เข้ามาทำให้การท่องเที่ยวมันง่ายมากขึ้น ทำให้พวกเขาได้เปิดมุมมองต่อโลกที่กว้างมากขึ้นและละเอียดขึ้น

ส่งผลให้ชาวเจนซีมีความเข้าใจว่าความหลากหลายของโลกมันเป็นอย่างไร ผลถัดมาคือทำให้เจนซีชอบที่จะเปรียบเทียบในมุมที่ใหญ่มากขึ้น ไม่ได้เปรียบเทียบแค่ในประเทศแต่เป็นในระยะโลก อย่างที่เราชอบเห็นกันเป็นประจำว่า ทำไมประเทศนี้ดีกว่าเรา ทำไมเราทำไม่ได้เหมือนบ้านเขา เป็นต้น

#7 Marketing Insight: Diversity & Equality เคารพในความหลากหลาย

เจนซี ให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องความหลากหลายและเท่าเทียมอย่างเห็นได้ชัดในปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น การแสดงถึงตัวตนทางเพศ ที่พวกเขาออกมาแสดงถึงจุดยืนของตัวเองกันมากขึ้น การบูลลี่ไม่ใช่เรื่องที่สามารถยอมรับหรือมองว่าเป็นเรื่องตลกอีกต่อไป พวกเขามีการ Take action กับแบรนด์หรือสื่อที่เข้าค่ายการบูลลี่ แสดงตนว่าไม่สนับสนุน เพราะมองว่าเรื่องเหล่านี้มันไม่ตลก คนเหมือนกัน ไม่ควรแบ่งแยก

หากจะทำ การตลาด ควรที่จะใส่ใจกับเรื่องที่เรามองว่าเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับพวกเขา เช่น คำนำหน้าชื่อ ควรที่จะมีตัวเลือกที่นอกเหนือจาก He She เช่น They/ Them/ Ze/ Hir หรือมีตัวเลือกที่ไม่ระบุเพศ ให้พวกเขาได้มีโอกาสได้เลือกในสิ่งที่พวกเขาอยากจะเป็น

ยกตัวอย่าง เช่น แคมเปญจาก Starbucks: Every name’s a story ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้บอกชื่อที่พวกเขาอยากจะถูกเรียกแล้วเขียนลงบนแก้วพร้อมเรียกชื่อที่ลูกค้าได้บอกมา เพราะบางทีชื่อที่ได้รับแต่เกิดอาจไม่ใช่ชื่อที่พวกเขาต้องการ โดยแคมเปญนี้ก็ถือว่าได้ใจเจนซีไปเต็ม ๆ

#8 Marketing Insight: Skincare Climate สกินแคร์ไร้เขตแดนเพศ สนับสนุนสกินแคร์เป็นมิตรกับโลก

เจนซี มองว่าสกินแคร์ไม่ว่าจะเพศหญิงหรือชายสามารถใช้ได้เหมือนกันหมด ไม่ได้ถูกจำกัดว่าต้องเป็นเพศหญิงอย่างเดียวเท่านั้นที่ใช้ได้ และตลาดสกินแคร์ เครื่องสำอางเพศชายก็เติบโตและขายดีเป็นอย่างมาก ดังนั้น ใครที่ทำสกินแคร์ขาย ควรทำ การตลาด เข้าถึงเพศชายด้วยเช่นกัน

และอีกสิ่งหนึงที่พวกเขามองหาจากสินค้าสกินแคร์หรือเครื่องสำอางต่าง ๆ จะต้องเป็นสินค้าที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

#9 Marketing Insight: Sound Lead Visual ยุคแห่งเสียง

ปฎิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าแพลตฟอร์มเสียงประกอบภาพอย่าง TikTok นั้นเติบโตขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด หนึ่งในสาเหตุของการเติบโตนั่นก็คือ เสียงที่ใช้ประกอบวิดิโอ ยิ่งครีเอเตอร์คนไหนที่มีเสียงเป็นเอกลักษณ์ หรือใช้เสียง เพลงที่เข้ากับคอนเทนต์ได้ตรงใจกับคนดู คอนเทนต์นั้น ๆ ก็จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

การตลาดจับกลุ่มเจนซี อีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามคือ การใช้เสียงเป็นตัวตั้ง

หากเราเปิดโอกาสให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมกับแบรนด์ของเรามากขึ้นเท่าไหร่ ย่อมทำให้พวกเขารู้สึกผูกพันกับแบรนด์มากเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น วลีฮิตแบรนด์รถยนต์ Ford ranger raptor ดุดันไม่เกรงใจใคร ที่มาจากนักลงเสียงโฆษณาชื่อดังใน TikTok Krittone ที่ทางแบรนด์ต่าง ๆ เปิดโอกาสให้มา Duet ลองพากย์เสียง

ซึ่งผลตอบรับไปในทางดีอย่างถล่มทลายและมีคนมี Duet ด้วยจำนวนมาก และนี่ก็เป็นจุดหนึ่งที่สามารถยืนยันได้ว่า การตลาด เจนซี ยุคของซี คือยุคแห่งเสียง ถ้าอยากให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก เสียงต้องดี ฮิตติดหู จับใจคนฟังให้ได้

#10 Marketing Insight: Ai AR VR XR และ VX เทคโนโลยีกับ Gen Z

ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็หนีไม่พ้นกับยุคของ Ai โดยเราสามารถใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ เช่น เปิดโอกาสให้เอาภาพแบรนด์ไปทำต่อยอดในมุมของตัวเอง ใช้ Ai สร้าง Brand Character ในฉบับของพวกเขา เมื่อเปิดโอกาสให้ทำ เจนซีจะมี Fan Love มากขึ้น

นอกจากนี้ AR VR และ XR ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นักการตลาดควรให้ความสำคัญ เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างประสบการณ์ที่เสมือนจริงให้กับพวกเขาได้มากยิ่งขึ้น

ที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดคือ VX หรือ Voice Experience เพราะ เจนซี เกิดมาพร้อมกับสิ่งนี้ พวกเขาเกิดมาพร้อมกับ Siri Alexa Google home หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่พวกเขาสามารถพูดคุยกับมันได้ ดังนั้นควรออกแบบ VX ให้ดี เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีต่อไป

สรุป Marketing Insight Gen Z 2024 การตลาด ‘เจนซี’ ทำยังไงให้ปัง

จะเห็นได้ว่า การตลาด กับ เจนซี นั้นมีความเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกับเจนอื่น ๆ สืบเนื่องมาจากพฤติกรรม ทัศนคติ ความเชื่อ แนวคิดที่หล่อหลอมให้พวกเขามีความต้องการ สิ่งที่มุ่งหวังแบบชัดเจน ไม่เหมือนใคร ดังนั้น เราควรที่จะให้ความสำคัญกับการทำการตลาดกับกลุ่มนี้แบบเจาะจงมากยิ่งขึ้น ไม่ควรที่จะหว่านแหหรือคิดไปเองว่าคนเจนนี้ต้องชอบแบบนี้หรือแบบนั้น

การทำการตลาดที่ดีคือการเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ดีและครบทุกมิติ ซึ่งเราก็จะเห็นได้เลยว่า การตลาดกับเจนซี หากสรุป Short cut จะมีดังนี้

• Political Branding เลือกแบรนด์ที่มีทัศนคติและจุดยืนที่ตรงกัน
• CSR ไม่พอ ต้อง ESG
• Deinfluencing การตลาดใช้อินฟลูที่จริงใจ
• Nostalgia Marketing
• Slow Social มองหาความจริง และมุ่งหวังจริยธรรม
• GlobalCitizen เที่ยวไวเห็นโลกกว้าง เปรียบเทียบในสเกลที่ใหญ่กว่าตัว
• Diversity & Equality เคารพในความหลากหลาย
• Skincare Climate สกินแคร์ไร้เขตแดนเพศ สนับสนุนสกินแคร์เป็นมิตรกับโลก
• Sound Lead Visual ยุคแห่งเสียง
• Ai AR VR XR และ VX เทคโนโลยีกับเจนซีที่เอื้อซึ้งกันและกัน

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และสร้างไอเดียใหม่ ๆ ต่อผู้อ่านทุกคนนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ

สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ