Instagram Reel แคปชั่น สั้นหรือยาว แบบไหน Engagement ปังกว่ากัน?
Instagram Reel แคปชั่น สั้นหรือยาว แบบไหน Engagement ปังกว่ากัน?
รูปพร้อม! วิดิโอพร้อม! เพลงพร้อม! พร้อมทุกอย่างที่จะกดโพสต์ แต่ ‘แคปชั่น’ ไม่พร้อม! สถานการณ์แบบนี้มันวิกฤตชัด ๆ จะร่ายยาวเป็นกวี หรือสั้นกระชับ ก็คิดไม่ตกว่าแบบไหนมันดีกว่ากัน
เอาเป็นว่า ต้องมีคนสงสัยแบบเตยบ้างแหละว่า แคปชั่นที่จะใส่ใน Reel สั้นหรือยาว แบบไหนยอด Engagement ปังกว่ากัน? เพื่อไขข้อข้องใจ เตยเลยไปหาการทดลองจาก Hootsuite เรื่องความยาวของแคปชั่นมาฝากสายคอนเทนต์ คอนใจกัน แบบไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกเอง ถ้าพร้อมแล้วมาทำการทดลองไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้ค่ะ
ทดลองด้วย 10 คลิป ภายในเวลา 48 ชั่วโมง
ในการทดลองนี้จะเป็นเป็นโพสต์ Reel ทั้งหมดสองแบบ คือแบบ แคปชั่นสั้น (ไม่เกิน 1 บรรทัด) 5 คลิป และ แคปชั้นยาว (125 คำขึ้นไป) 5 คลิป รวมทั้งสิ้น 10 คลิป โดยแคปชั่นจะมีความคล้ายคลึงกัน และเนื้อหาของวิดิโอจะเกี่ยวกับการถ่ายบรรยากาศในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องน้ำ และอื่น ๆ
ในส่วนของเพลง ผู้ทำการทดลองได้เลือกใช้เพลงที่แตกต่างกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ Instagram คิดว่าโพสต์เป็นสแปม และไอจีจะดันคลิปที่ใช้เพลงประกอบ จึงใส่เพลงปรับใช้ประโยชน์จากอัลกอริทึมเพื่อเพิ่มการมองเห็นนั่นเองค่ะ
หลังจากนั้นจึงทำการโพสต์และปล่อยทิ้งไว้ 48 ชั่วโมงเพื่อดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
สรุปแล้ว แคปชั่น Reel แบบไหนดีกว่ากัน?
ผลสรุปออกมาว่า Instagram Reels ที่มีแคปชั่นสั้นๆ มีผลตอบรับ Engagement และ Reach ที่สูงกว่า!
ทั้งนี้ทั้งนั้นการทดลองนี้ใช้ระยะเวลาเพียง 48 ชั่วโมงและไม่ได้ใส่แฮชแท็กหรือทำการโฆษณา ยอดผลรับที่ได้ออกมาอาจเป็นตัวเลขที่น้อย แต่เราก็ยังได้มุมมองจากการทดลองครั้งนี้
เมื่อดูจากตารางสรุปยอดผลตอบรับจะเห็นได้ว่า Reels ที่มีแคปชั่นสั้นชนะขาดลอย โดยการทดลองนี้สามารถสรุปได้คร่าวๆ ว่า คนชอบแคปชั่นสั้น ๆ มากกว่าอะไรที่ยาวยืดเยื้อ ตรงประเด็นและเข้าใจง่าย ถ้าให้แบ่งเวลาการทำคลิป ควรจะแบ่งเวลาการตัดต่อให้คลิปมีคุณภาพมากกว่าการคิดแคปชั่นยาว ๆ นั่นเองค่ะ
เราได้อะไรจากการทดลองนี้
จากการทดลองนี้เตยขอสรุปข้อคิดและประโยชน์ไว้ดังนี้ค่ะ
- คนเลือกดู Instagram Reel ดูเพราะคลิป ไม่ใช่เพราะ ‘แคปชั่น‘ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมแคปชั่นสั้นถึงได้รับผลตอบรับที่ดี เพราะพวกเขาไม่ได้มานั่งอ่านแคปชั่นยังไงล่ะคะ พวกเขาดูคลิปแล้วจึงอ่านแคปชั่น บวกกับตัว Reel เองก็ไม่ได้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับคำบรรยายยาว ๆ ให้กดอ่านก็จะอ่านยาก มองตัวหนังสือไม่ค่อยเห็น กลืนไปกับพื้นหลัง ดังนั้นแคปชั่นสั้น ผนวกกับคอนเทนต์กระแทกตา จับจิตจับใจจึงเป็นทางเลือกที่ดี
- คนชอบแคปชั่นสั้น ไม่ได้หมายความว่าต้องปล่อยทิ้งไว้โล่ง ๆ หลายคนอาจคิดว่า คนชอบแคปชั่นสั้นแสดงว่าผู้ชมต้องไม่ชอบอ่านแคปชั่น ไม่เห็นจำเป็นต้องใส่ แต่จริง ๆ แล้วต้องใส่นะคะ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงที่คนจะค้นพบคลิปมากขึ้น คนไม่ชอบอ่านก็จริงแต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่อ่านเลย
- สั้นจริงแต่ต้องดีด้วย แคปชั่นที่ดีต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับคอนเทนต์ หากเราใส่ไปมั่ว ๆ ไม่ใส่ใจ คนก็จะไม่ใส่ใจกับคลิปเราเหมือนกันค่ะ ดีไม่ดีพวกเขาอาจรู้สึกว่า นี่มันอะไรเนี่ย ยิ่งแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักต้องระวังในเรื่องการสื่อสารให้มาก ๆ อีกด้วยค่ะ
ยกตัวอย่าง เช่น Diamond Grain แบรนด์คนไทยที่ขายสินค้ากราโนล่า เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง จากภาพตัวอย่างจะเห็นได้ว่าคลิป Reel นี้มีแคปชั่นที่สั้น กระชับ ตรงจุด หากเทียบกับคลิปอื่น ๆ จากการสำรวจคลิปในเพจ ทำให้เตยพบว่ายอด Engagement ก็ดีกว่าด้วย ดูได้จากยอดวิวที่พุ่งสูง โดดเด่นออกมาจากเพื่อนเลย สรุปได้เลยว่า ความยาวของแคปชั่นที่สั้น เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลได้ดีกว่าจริง ๆ
สุดท้ายนี้ เตยอยากจะบอกว่ารูปแบบผลลัพธ์อาจเกิดขึ้นแตกต่างกันไป เพราะการที่จะทำให้ยอด Engagement Reel ปังได้ไม่ได้มาจาก ‘แคปชั่น’ เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เทรนด์ในช่วงเวลานั้น เพลงฮิต ยอด follower ของแอคเคาท์ Instagram รูปแบบและคุณภาพของคอนเทนต์/คลิปวิดิโอ หากเราทำปัจจัยเหล่านี้ให้ดีไม่ได้ ยอดอาจไม่ปังเท่าที่ควรค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าอยากปังจริง ไม่จกตา ต้องปังให้ครบทุกด้านนะคะ อาหารจะอร่อยได้ เครื่องปรุงต้องครบค่ะ
เตยหวังว่าตัวอย่างเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และสร้างไอเดียใหม่ ๆ ต่อผู้อ่านทุกคนนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ
สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ
