ปรับกลยุทธ์ให้ปัง ก้าวให้ทันการตลาดสายมู

ในช่วงชีวิตคนเราไม่ว่าใครๆก็ต้องเคยรู้สึกกังวลไม่มั่นใจหรือรู้สึกถึงความไม่แน่นอนในชีวิตกันได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นในด้านหน้าที่การงาน การเงิน หรือแม้กระทั่งความรัก นอกจากปรับทุกกับคนใกล้ตัวแล้วคุณจะทำอย่างไร ถึงจะ สามารถเรียกความมั่นใจและผ่านพ้นช่วงเวลานั้นไปได้

ก็ต้องหาที่พึ่งน่ะสิ!

เพราะความเชื่อเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนเรามาในทุกยุคทุกสมัย  จึงทำให้ลึกๆ แล้วคนเราต้องการที่พึ่งทางจิตใจไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวกันทั้งนั้น เมื่อนำพฤติกรรมเหล่านี้มาศึกษาให้ลึกขึ้นจึงทำให้เกิดการตลาดสไตล์ไทยในรูปแบบสายมูมาเอาใจผู้บริโภคกันมากขึ้น

เดี๋ยวเรามาดูว่ากลยุทธ์การตลาดสายมูจะได้ใจลูกค้าจริงไหม และสามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้อย่างไร

จาก Fear สู่ Faith Marketing

สำหรับการทำการตลาดแบบ Faith Maketing นั้นถ้าเราศึกษาให้ลึกเข้าไปถึงพฤติกรรมและความต้องการของคน จะเห็นได้ว่ามันไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะแค่ความอยู่แค่เรื่องของความเชื่อและศรัทธาเท่านั้น แต่อีกส่วนหนึ่งนั้นมันเป็นเรื่องของความกลัวภายในจิตใจ จนต้องหาที่ยึดเหนี่ยว หรือที่พึ่งพาทางใจ เพื่อเสริมสร้างกำลังใจและสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การใช้เบอร์นำโชคในเรื่องการเงิน การเลือกใส่เสื้อสีมงคลในวันพรีเซนต์งาน หรือแม้แต่เลือกเครื่องสำอางก็ไม่ใช่แค่เลือกจากสีที่ถูกใจอย่างเดียว แต่ต้องเลือกไอเทมที่สามารถเติมความมั่นใจและช่วยเสริมมงคลได้แบบ 2 in 1

เจาะอินไซด์คนไทย เข้าใจการตลาดสายมู

ถ้าพูดถึงนิยามของศรัทธาและความเชื่อก็น่าจะเป็นการยอมรับนับถือสิ่งใดโดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลมารองรับ

อย่างที่บอกไปแล้วว่าเรื่องความเชื่อและความศรัทธานั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่คนไทยมาทุกยุคทุกสมัย เนื่องจากความกลัว หรือความไม่แน่นอนต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้คนเราต้องหันมาจับคว้าศรัทรามาเป็นที่พึ่งทางใจ 

มีผลสำรวจเป็นตัวเลขชัดเจนจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่ามีคนไทย 52 ล้านคน หรือกว่า 80% ของประชากรทั้งหมดนั้นมีความศรัทธาและเชื่อในเรื่องโชคลาง โดย 3 เรื่องที่คนไทยนิยมมูมากที่สุดก็คือ เรื่องเงิน เรื่องงาน และความรัก

จากตัวเลขข้างต้นนักการตลาดคงเห็นแล้วนะคะว่าเป็นกลุ่มที่ใหญ่มากพอที่จะนำกลยุทธ์เรื่องความเชื่อความศรัทธามาต่อยอดเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้

ศาสตร์การมู มาอยู่คู่การทำธุรกิจได้อย่างไร?

จากพฤติกรรมคนไทยสายมู เชื่อโชคลาง หรือต้องการที่พึ่งในการเพิ่มความมั่นใจ จึงเป็นโอกาสที่น่าสนใจให้ธุรกิจหรือแบรนด์นำเอา Insight นี้มาปรับใช้ในการวางกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็กหรือใหญ่ ก็สามารถนำแง่มุมแห่งความศรัทธามาสร้างจุดเด่นให้สินค้าได้ทั้งนั้น 

ยกตัวอย่างบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังชาวเกาหลีอย่าง Pony Park ที่มีการเปิดตัวเครื่องสำอางภายใต้ธีมไพ่ทาโรต์ร่วมกับ MAC Cosmetics 

หรือสินค้าทั่วไปในชีวิตประจำวันอย่างจากกระดาษเช็ดหน้าที่หยิบเอาไอเดียในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผู้บริโภคมักจะดูดวง แก้ชง ไหว้พระทำบุญกันอยู่แล้วมาสร้างกิมมิคโดยการออกกล่องกระดาษลายพิเศษอย่างลายปี่เซี๊ยะ สำเภาทอง น้ำเต้าทอง และหงส์ขาวที่มีความหมายดีไว้ส่งต่อเป็นของขวัญมงคล หรือเอาไว้แก้ชงเสริมดวงภายในบ้าน

ไม่เว้นแม้แต่สายการบินที่อาศัยกระแสการตลาดแห่งศรัทธา พลิกวิกฤตช่วงโควิด-19  ที่ทำให้ยังไม่สามารถกลับมาทำการบินในเส้นทางต่างๆ ที่เคยบินเป็นปกติได้ให้เป็นโอกาส โดยการเปิดเที่ยวบินมงคล พาผู้โดยสารสวดมนต์รับพรบนฟ้า ผ่าน 99 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แบบบินวนไม่ลงจอด นี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาตร์ไทยเลยนะคะกับการขึ้นมารับพรสูงขนาดนี้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้บอกเลยว่าแบมเองก็แปลกใจมากเหมือนกัน เพราะเที่ยวบินนี้เต็มทุกที่นั่ง! เรียกได้ว่าเป็นอีกมิติของการทำบุญเลยนะคะ 

ซึ่งในมุมมองของแบมมองว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจ สามารถสร้างสีสัน สร้างกระแส และเรียกแขกในแง่มุม Awareness ได้ดีทีเดียว เพราะถึงแม้ว่าโจทย์หลักในการขายจะยังคงเป็นในเรื่องคุณสมบัติของสินค้า แต่ใช้กิมมิกสายมูเพื่อสร้างสีสัน ก็สามารถขายความมั่นใจ หรือเรียกความสบายใจให้ลูกค้าเพิ่มขึ้นได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน

การตลาดสายมู แค่ไหนถึงเรียกว่าพอดี

ถึงแม้ว่าการตลาดประเภทนี้จะสามารถช่วยเพิ่มโอการทางธุรกิจได้ก็จริง แต่ก็มีเรื่องที่เราต้องระวังอยู่เหมือนกัน เพราะหากนักการตลาดเอนเอียงไปฝั่งกลยุทธ์สายมูมากเกินไปก็อาจจะทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เสียหาย กลายเป็นแบรนด์ที่ดูงมงาย และทำให้ขาดความน่าเชื่อถือได้ 

เพราะฉะนั้นนักการตลาดต้องท่องไว้เสมอว่าถึงแม้การตลาดสายมูจะมีลูกค้ากลุ่มใหญ่ และกระแสแรงแค่ไหน ถ้าคุณภาพสินค้าไม่ปังตามที่ลูกค้าคาดหวังไว้ ความเข้มขลังของการตลาดสายมูก็อาจเสื่อมลงได้เช่นกันค่ะ

Read more: อ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดในแง่มุมอื่นๆ จากการตลาดวันละตอนได้ ที่นี่

ในบทความหน้าแบมจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะคะ