Facebook History กำเนิด Facebook ล้วงลึกแพลตฟอร์มระดับโลก

Facebook History กำเนิด Facebook ล้วงลึกแพลตฟอร์มระดับโลก

พูดถึง Social Media Platform อันดับ 1 ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก คงจะหนีไม่พ้น “Facebook” แอปพลิเคชันสัญชาติอเมริกาตัวนี้แน่นอน จากการ สำรวจของ DATAPORTAL พบว่าในปี 2023 มีผู้ใช้มากถึง 8,049 ล้านคนบนโลก หากไม่นับรวมประชากรที่อาศัยอยู่ในประเทศที่แบน Facebook จะพบว่า มีคนใช้แพลตฟอร์มถึง 59.1% เลยทีเดียว!อะไรคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Facebook กลายเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก วันนี้ Marketing History ได้รวบรวมมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันแล้ว ตามไปอ่านที่ด้านล่างนี้กันได้เลยจ้า 

ขอบคุณรูปภาพจาก CNET

มาร์ค เอลเลียต ซักเกอร์เบิร์ก (Mark Elliot Zuckerberg) เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ.1984 ที่ไวท์ เพลนส์, เมืองนิวยอร์ก, ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเป็นลูกชายของทันตแพทย์ Edward Zuckerberg และนักจิตวิทยา Karen Zuckerberg โดยที่ทั้งพ่อ และแม่ของเขามีเชื้อสายยิวทั้งคู่ เขามีพี่น้องด้วยกัน 3 คน คือ Randi, Donna, และ Arielle

ด้วยเห็นถึงความสำคัญของการเขียนโค้ด พ่อของเขาจึงได้ให้คอมพิวเตอร์เครื่องแรก และสอนการเขียนโปรแกรมภาษา Atari BASIC ให้แก่เขาในปี 1990 ซึ่งใช้เวลาไม่นาน Mark Zuckerberg ก็ฉายแววความเป็นอัจฉริยะด้าน Computer & Programming ออกมา พ่อแม่ของเขาจึงได้จ้าง David Newman นักพัฒนาซอฟต์แวร์ มาสอน Coding ให้แก่ Zuckerberg

และในปีเดียวกัน Mark Zuckerberg ในวัยมัธยมปลายก็ได้สำเร็จการศึกษา จากหลักสูตรบัณฑิตศึกษาของ Mercy College ที่เขาเลือกลงเรียนด้วยตัวเอง ความอัจฉริยะของเขา ทำให้ Newman ที่ออกมาสัมภาษณ์ในภายหลังถึงกับเอ่ยว่า

David Newman

ต่อมาเมื่ออายุ 12 ปี Mark Zuckerberg ได้เข้าเรียนที่ Ardsley High School และได้พัฒนา “ZuckNet” โปรแกรมส่งข้อความขึ้นมาจากภาษา Atari BASIC เพื่อให้พนักงานในคลินิกของพ่อใช้สื่อสารกันแทนการตะโกนโต้ตอบกันไปมา นอกจากนี้ Zuckerberg และเพื่อน ๆ ก็ได้ร่วมกันเขียนเกมขึ้นมาเล่นเองอีกด้วย 

A New Yorker profile
กำเนิด Facebook ล้วงลึก Mark Zuckerberg CEO แพลตฟอร์มระดับโลก
ขอบคุณรูปภาพจาก yahoo! finance

ปี 1997 – เขาได้ย้ายไปเรียนที่ Phillips Exeter Academy โรงเรียนประจำชั้นนำของรัฐ New Hampshire แต่นั่นก็ไม่ทำให้ไฟในการสร้างสรรค์ของเขาลดลงเลย

  • กวาดรางวัลมามากมาย ทั้งในด้านคณิตศาสตร์, ดาราศาสตร์, ฟิสิกส์, วรรณกรรมคลาสสิก 
  • พูดได้ถึง 4 ภาษา ได้แก่ ฝรั่งเศส, ฮีบรู, ละติน, และกรีกโบราณ 
  • เป็นกัปตันของทีมนักกีฬาฟันดาบของโรงเรียน 
  • ทำงานภายใต้ บริษัท Intelligent Media Group ร่วมกับเพื่อน ๆ พัฒนา “Synapse” โปรแกรมที่สามารถระบุความชอบของแต่ละคน และเลือกเพลงที่แมตช์กับรสนิยมของแต่ละคนได้

เพราะความติสต์ และยังเด็ก ทำให้เขา และเพื่อน ๆ ตัดสินใจที่จะไม่ขายมัน และเลือกที่จะเข้าเรียนต่อที่ Harvard University

ในปี 2002 – เขาได้เข้าศึกษาที่ Harvard University ในสาขาจิตวิทยา และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และเข้าร่วมกับ Alpha Epsilon Pi (ΑΕΠ) ภราดรภาพพี่น้องชาวยิวนานาชาติ และ Kirkland House 1 ใน 12 บ้านพักของมหาวิทยาลัย 

ด้วยใจที่รักในการเขียนโปรแกรม “CourseMatch” ก็ได้ถูกพัฒนาขึ้นตอนที่เขาเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 เป็นเว็บไซต์ที่ช่วยเลือกวิชาเรียนที่เหมาะสมให้กับผู้ใช้ และช่วยผู้ใช้จัดกลุ่มการเรียน นอกจากนี้เขายังร่วมกับเพื่อนอีก 3 คน Andrew McCallum, Chris Hughes และ Dustin Moskovitz พัฒนา “Facemash” ้เว็บไซต์ที่นำรูปของคน 2 คนมาเปรียบเทียบกัน แล้วให้ผู้ใช้โหวตว่าใครฮอตกว่ากัน ปรากฏว่าเว็บไซต์ดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงสุดสัปดาห์ 

เมื่อถึงเช้าวันจันทร์ คณะกรรมการของมหาวิทยาลัยได้สั่งให้เว็บไซต์ปิดตัวลง เนื่องจากเขาเจาะข้อมูลของระบบส่วนกลาง และทำให้เซิฟเวอร์ของมหาวิทยาลัยล่ม ประกอบกับนักศึกษาจำนวนมากร้องเรียนว่ารูปภาพของตนถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้ถือเป็นความผิดร้ายแรงจนถึงขั้นไล่ออก แต่ก็ถูกลดเหลือเพียงติดทัณฑ์บนไว้เท่านั้น หลังจากกล่าวขอโทษสู่สาธารณะแล้ว เขาก็เดินหน้าต่อ และตั้งเป้าไปที่โปรเจกต์ต่อไปทันที และ Arie Hasit รูมเมทของเขาให้สัมภาษณ์ว่า “Zuckerberg นั้นสร้าง Facemash ขึ้นมาก็เพื่อความสนุกเท่านั้น” และถึง Facemash จะถูกสั่งปิด แต่เขาก็ยังคิดในแง่ดี

กระแสอื้อฉาวโปรเจกต์ก่อนหน้านี้ ทำให้ Divya Narendra, ฝาแฝด Cameron และ Tyler Winklevoss ชวนเขามาทำเว็บไซต์ร่วมกัน โดยใช้ชื่อว่า “ConnectU” (ชื่อเดิมคือ Harvard Connection) Social Network Website หาคู่สำหรับชนชั้นสูงของ Harvard โดยใช้ข้อมูลจากเครือข่ายนักศึกษาของ Harvard ในการสร้างไซต์ 

แต่หลังจากนั้นเขาก็ลาออก และเปิดตัว “The Facebook” (ภายหลังกลายเป็น Facebook) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างโปรไฟล์ของตนเอง อัปโหลดรูปภาพ และสื่อสารกับผู้ใช้รายอื่นได้ โดยใช้ไอเดียจาก Facemash โดยร่วมพัฒนากับเพื่อนของเขา Dustin Moskovitz, Chris Hughes และ Eduardo Saverin 

ปี 2004

  • เปิดให้ใช้งานครั้งแรก โดยระยะแรกเปิดให้ใช้เวอร์ชันทดลองสำหรับนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยเท่านั้น ต่อมาได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว 
  • Mark Zuckerberg ลาออกจาก Harvard และย้ายบริษัทไปที่เมืองพาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ภายในสิ้นปีดังกล่าวก็มีผู้ใช้ทั้งหมด 1 ล้านคน

ปี 2005

  • ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทร่วมลงทุน Accel Partners Accel ลงทุน 12.7 ล้านดอลลาร์ในเครือข่าย ซึ่งในขณะนั้นเปิดให้เฉพาะนักเรียน Ivy League เท่านั้น
  • จากนั้น Facebook จึงได้อนุญาตให้มหาวิทยาวิทยาลัย โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย และโรงเรียนนานาชาติอื่น ๆ เข้าถึงได้ ส่งผลให้มีผู้ใช้เว็บไซต์นี้มากกว่า 5.5 ล้านคนภายในเดือนธันวาคม 2005 หลังจากนั้นเว็บไซต์ก็เริ่มได้รับความสนใจของบริษัทอื่น ๆ ที่ต้องการโฆษณา

ปี 2006

  • ขยายการให้บริการแก่สาธารณะ และเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อ และแบ่งปันข้อมูลระหว่างผู้ใช้ ปัจจุบันเป็นหนึ่งใน Social Network Website ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก

ด้วยความไม่ต้องการที่จะ Sell Out ธุรกิจ เขาจึงปฏิเสธได้ข้อเสนอจากบริษัทต่าง ๆ เช่น Yahoo! และ MTV Network และมุ่งเน้นไปที่การขยายไซต์ เปิดโปรเจกต์ของเขาให้กับนักพัฒนาภายนอก และเพิ่มฟีเจอร์อื่น ๆ แทน

Divya Narendra, ฝาแฝด Cameron, และ Tyler Winklevoss ได้ยื่นฟ้อง Mark Zuckerberg โดยกล่าวหาว่าเขาใช้ซอร์สโค้ดของพวกเขา และหลอกพวกเขาว่าจะช่วยสร้าง ConnectU

เขายืนยันว่าไอเดียนี้มีพื้นฐานมาจากเครือข่ายโซเชียล 2 ประเภทที่แตกต่างกันมาก หลังจากที่ทนายความค้นหาบันทึกของเขา ข้อความโต้ตอบแบบทันทีที่มีการกล่าวหา เผยให้เห็นว่าเขาอาจจงใจขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของ Harvard Connection และเสนอข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ให้เพื่อนของเขา

เขาออกมาขอโทษต่อข้อกล่าวหาดังกล่าวโดยบอกว่าเขารู้สึกเสียใจ แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเป็นจำนวนเงิน 65 ล้านดอลลาร์ แต่ข้อพิพาททางกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังคงดำเนินต่อไปในทางที่ดี เหตุการณ์นี้นับเป็นความขัดแย้งครั้งใหญ่ของ Facebook History เลยก็ว่าได้

ในเดือนพฤษภาคม ปี 2012 Facebook เสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก ซึ่งระดมทุนได้ 16 พันล้านดอลลาร์

หลังจากความสำเร็จในช่วงแรกของการ IPO ราคาหุ้นก็ปรับตัวลดลงบ้างในช่วงแรก ๆ ของการซื้อขาย แต่ในปี 2013 Facebook ติดอันดับ Fortune 500 เป็นครั้งแรก ทำให้ Mark Zuckerberg กลายเป็นซีอีโอที่อายุน้อยที่สุดในรายชื่อ ในขณะนั้นเขาอายุเพียง 28 ปี

ปัจจุบัน Cryptocurrency และ Blockchain มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อสภาพสังคมในปัจจุบัน Facebook ให้ความสนใจกับ 2 สิ่งนี้เป็นพิเศษ จึงได้พยายามสร้าง “Libra” เหรียญ Stablecoin ขึ้นมา ภายใต้แนวคิดที่ว่าจะให้ Libra เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐแบบ 1 ต่อ 1 ไว้เป็นเหรียญสำหรับการซื้อขายออนไลน์ แต่ภาครัฐกลับมองว่าเป็นเรื่องที่เกินกำลัง

เมื่อเวลาผ่านไปยุคของ Metaverse ก็ได้เริ่มขึ้น จนในปี 2012 ก็ได้ออกมาประกาศเปลี่ยนชื่อ Facebook เป็น Meta และมุ่งหน้าพัฒนา และวิจัยด้าน Metaverse อย่างจริงจัง

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Facebook ได้ปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูล, รูปภาพ, และข่าวสารแล้ว Facebook ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มให้เป็นสถานที่สำหรับกิจกรรมทางธุรกิจ, การตลาด, และการโฆษณา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการ และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้ใช้งานต่อไป

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ Facebook History ล้วงลึกประวัติศาสตร์การตลาด แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก ส่วนคราวหน้า Marketing History จะเอาบทความสนุก ๆ ของแบรนด์ไหนมาให้อ่านกันอีก ติดตามกันไว้ได้เลยน้า

เพราะการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ตามไปอ่านกันต่อได้เลยที่!

Sasiwimon Chumart

"แตงกวา" - ชอบภูเขา หลงรักทะเล หาเงินไปเล่นเซิร์ฟที่แหลมหญ้า กินกาแฟเพื่อมีชีวิตรอด นอนน้อยเป็นกิจวัตร ชอบกินเป็นชีวิตจิตใจ ตั้งใจเขียนงานมาก เพราะทุกคนต้องได้อ่านผลงานที่ดีที่สุด!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *