Authenticity Marketing ฉบับ IKEA เพราะชีวิตไม่เหมือนในแคตตาล็อก
เคยสังสัยกันไหมคะว่า ทำไม IKEA (อีเกีย) ถึงทำ การตลาด สื่อโฆษณา ออกสินค้าที่ตรงจริตและครองใจหลาย ๆ คนมากมายนัก? ถ้าพยักหน้าหรือร้องอือในใจแล้วล่ะก็ ในบทความเราจะพามาเฉลยถึงแนวคิดและกลยุทธ์แคมเปญ Life is not an Ikea catalogue ของ IKEA ที่ใช้ Authenticity Marketing หรือการตลาดแบบจริงใจ ในการแสดงความจริงใจแบบจริงใจ๊จริงใจกับลูกค้า คว้าหัวใจลูกค้าได้เต็มไม้เต็มมือ
ที่มาที่ไปของแคมเปญ: จับ Insight คนนอร์เวย์ รู้ใจว่าชอบความ ‘เรียล’
Life is not an Ikea catalogue เป็นแคมเปญของ IKEA Norway ที่เกิดขึ้นมาเพื่อกลุ่มลูกค้าในประเทศนอร์เวย์โดยเฉพาะ เป็นแคมเปญที่สื่อให้เห็นว่า
ชีวิตมันไม่ใช่และไม่เหมือนในแคตตาล็อกของอีเกียหรอกนะจ๊ะ ที่จะได้หรูหราหมาเห่า สวยแพง ดูดีมีราคาตลอดเวลาเหมือนในสื่อโฆษณาหรือแคตตาล็อกสินค้าอย่างที่เรามักเห็นกันเป็นประจำ
ตัวแคมเปญทำออกมาเป็นซีรีย์สื่อวิดิโอออนไลน์มีความยาว 30 วินาที ที่ประกอบไปด้วยเรื่องราวต่าง ๆ ที่คนทั่วไปมองว่ามัน ‘ไม่น่าดู’ เช่น ฉากอาเจียน น้องหมาฉี่รดพรหม ความรกของบ้านหลังปาร์ตี้สุดเหวี่ยง โดยการเริ่มต้นมาด้วยภาพห้องชวนฝัน สะอาดตาก่อนที่จะกระฉากเรากลับสู่โลกของความจริงด้วยฉากสุดหยึ๋ยเหล่านั้น เพื่อเป็นการตอกย้ำว่า สินค้าของ IKEA สามารถรองรับได้ทุกสถานการณ์และจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ได้ดี
เช่น ในซีรีย์ของน้องหมาฉี่รดพรหม หลังจากเสร็จกิจของน้องหมาแล้ว ก็จะมีการขึ้นตัวหนังสือบอกว่า พรหมนี้ “ซักได้ที่อุณหภูมิ 40 องศา” หรือฉากแม่อ้วกบนโซฟาก็มีข้อความขึ้นว่าผ้าคลุมโซฟา “ซักด้วยเครื่องได้”
ซึ่งเราจะเห็นได้เลยว่านี่คือความจริงใจที่ IKEA ต้องการเสนอให้ลูกค้าได้เห็นว่าความจริงกับภาพฝันในแคตตาล็อกมันต่างกัน เพราะเราไม่ได้ซื้อโซฟาสักตัวมาเพื่อนั่งให้เหมือนในสื่อ แต่บางทีเราก็นอนซมจมพิษไข้จนต้องอ้วกออกมาก็เป็นไปได้ เรียกได้ว่าตรงตามคอนเซ็ปต์ชื่อแคมเปญ Life is not an Ikea catalogue
และการทำการตลาดแบบจริงใจตามหลักทฤษฎีเราเรียกมันว่า Authenticity Marketing หรือก็คือการแสดงให้ลูกค้าเห็นและเชื่อถือว่าคุณทำการค้าอย่างจริงใจพร้อมแสดงคุณค่าของความเป็นของแท้ ไม่ปรุงแต่ง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือนั่นเองค่ะ
แล้วอะไรคือจุดประกายให้ IKEA ถึงจริงใจกับลูกค้าได้ขนาดนี้?
ที่มาที่ไปของแคมเปญนี้ไม่ซับซ้อนอะไรมากค่ะ เพราะ IKEA จับ Insight ของชาวนอร์เวย์ได้ว่า พวกเขาความชอบเรียล ไม่ชอบโฆษณาที่ต้องมาปรุงแต่หรือโชว์สินค้าขัดเงาวิ้งวับ เรียกได้ว่าขอแบบดิบ ๆ เรียล ๆ อย่ามาจิ๊จ๊ะขายฝัน ใช้ยังไงขอให้บอกแบบนั้น จึงก่อให้เกิดมาเป็นแคมเปญที่นำมาแชร์กันในบทความนี้นั่นเองค่ะ
นอกจากนี้ IKEA ยังเคยทำแคมเปญที่ใช้ Insight ของลูกค้ามาทำการตลาดมากมาย แต่ที่แนะนำให้อ่านสุด ๆ คือบทความนี้ค่ะ –> IKEA ใช้ Social listening ทำ Marketing อย่างฉลาด เข้าถึงกลุ่มคนนอนไม่หลับได้ตรงจุด เป็นการปรับใช้ทั้ง Insight และนำ Martech อย่าง Social listening มาผนวกเข้าด้วยกัน
สรุป Authenticity Marketing ฉบับ IKEA เพราะชีวิตไม่เหมือนในแคตตาล็อก
เราจะเห็นได้เลยว่าแบรนด์จำหน่ายเครื่องเรือนและของใช้ในบ้านชื่อดังจากสวีเดนอย่าง IKEA หลาย ๆ ครั้งที่เรามักเห็นสื่อโฆษณาของแบรนด์ที่ปล่อยออกมา แบรนด์จะขายจุดยืนว่า ‘ผลิตภัณฑ์ของ IKEA ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้คุณจัดการชีวิตประจำวันได้’ และ ‘เฟอร์นิเจอร์และบ้านของคุณมีไว้เพื่อใช้งาน’
ทำให้เราตระหนักอย่างหนึ่งได้ว่า IKEA รู้จุดยืน สร้างจุดแข็ง จับ Insight จนรู้ใจลูกค้าได้อยู่หมัดผ่านการทำการตลาดแบบจริงใจ ไม่ขายฝัน ทำให้ลูกค้าพึงพอใจเป็นอย่างมาก แถมสิ่งที่เรามองว่ามันหยึ๋ยแต่ชาวนอร์เวย์กลับชอบมันมาก แถมยังรู้สึกดีอีกด้วยที่แบรนด์สื่อสารแบบตรงไปตรงมา
Authenticity Marketingในฉบับของ IKEA นั้นไม่ได้มีอะไรซับซ้อนหรือยุ่งยากเลยค่ะ แค่เข้าใจลูกค้าให้ได้และส่งมอบกลับไปในสิ่งที่พวกเขามุ่งหวัง แค่นี้ใจที่ ‘จริง’ ทั้งฝ่ายของแบรนด์และลูกค้าย่อมรับรู้ได้แน่นอน แถมยังแอบขายสินค้าไปเนียน ๆ ในตัว สร้าง Positive Sentiment ได้อีกด้วย!
หวังว่าตัวอย่างเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และสร้างไอเดียใหม่ ๆ ต่อผู้อ่านทุกคนนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ
สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ