‘Hands-Free’ แคมเปญติดตลกของ Cheetos แค่กินขนมแล้วนิ้วเปื้อน สู่จุดเริ่มต้นเทคโนโลยีไร้สัมผัส

‘Hands-Free’ แคมเปญติดตลกของ Cheetos แค่กินขนมแล้วนิ้วเปื้อน สู่จุดเริ่มต้นเทคโนโลยีไร้สัมผัส

แคมเปญ Cheetos ‘Hands-Free’ ไอเดียติดตลก แค่กินขนมแล้วนิ้วเปื้อนสู่จุดเริ่มต้นของ Hands-free Technology

ไหนใครในที่นี้ชอบทานขนม Cheetos กันบ้างงง ขอบอกว่าเฟิร์นชอบมาก เลยอยากจะยกแคมเปญสุดแสบของแบรนด์ขนมสีส้มนี้มาเล่าให้ทุกคนฟังกันค่า 

สำหรับใครที่ชอบทาน Cheetos เหมือนกัน น่าจะเป็นที่ทราบกันดีว่าเอกลักษณ์ของขนมแบรนด์นี้ นั่นก็คือ การหยิบทานแล้วนิ้วมือจะกลายเป็นสีส้ม เพราะเลอะผงชีสแสนอร่อยนั่นเอง ทางแบรนด์เองก็ได้นำเอกลักษณ์จุดนี้ มาทำแคมเปญที่มีความคิดสร้างสรรค์ ผสมความกวน ๆ ได้อย่างน่าสนใจมาก จนผลลัพธ์โด่งดังถล่มทลายกันเลยทีเดียว แต่หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าแค่เรื่องกินแล้วนิ้วเปื้อน มันกลายมาเป็นแคมเปญสำคัญหรือยิ่งใหญ่ไปถึงเรื่องเทคโนโลยีไร้สัมผัสต่าง ๆ ในปัจจุบันนี้ได้ยังไง ถ้าอยากรู้ตามมาดูกันด่วนค่าาา

แค่กิน Cheetos แล้วนิ้วเปื้อน สู่การกำเนิดเทคโนโลยี Hands-free สุดไฮเทค

ในเดือนมีนาคม 2022 แบรนด์ Frito-Lay และ Goodby Silverstein & Partners ทำแคมเปญซึ่งเน้นโชว์ให้เห็นถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ผู้คนไม่สามารถทำงานต่าง ๆ ให้เสร็จได้ ไม่ว่าจะเป็นการรับสายโทรศัพท์ หรือเปิดประตูบ้าน เป็นต้น เนื่องจากกิน Cheetos แล้วนิ้วเปื้อนผงชีสอยู่ จึงเกิดการเคลมแบบติดตลกว่า เพราะการกินขนมแล้วนิ้วเปื้อนจนหยิบจับอะไรไม่ได้นี่แหละที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเทคโนโลยี Hands-free ต่าง ๆ ในปัจจุบันขึ้นมา (แบบนี้ก็ได้หรอ555555)

เพื่อเปิดตัวแคมเปญนี้จึงได้ทำการจัดสร้างบ้านจำลองที่ใช้เทคโนโลยี Hands-free ตั้งชื่อว่า Cheetos Hands-Free House โดยจัดแสดงในงาน South by Southwest (SXSW) ที่เป็นงานแสดงเทคโนโลยีและสื่อประจำปี ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เป็นบ้านที่ดื่มด่ำและเป็นมิตรกับ Cheetle (Cheetle คือชื่อเล่นของผงชีสสีส้มนั่นเองค่ะ)

โดยบ้านจำลองนี้มีทางเข้าที่ใช้เทคโนโลยี Hands-free ต่าง ๆ เช่น รีโมทคอนโทรลที่ไม่ต้องจับให้มีรอยเปื้อนสีส้ม และอุปกรณ์สั่งการด้วยเสียง โดยแต่ละห้องได้รับการออกแบบเพื่อแสดงให้เห็นว่าสามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนและทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่ปกติต้องใช้มือได้ยังไงบ้าง และในสวนหลังบ้าน ผู้เข้าพักสามารถลองชิมอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Cheetos และมีเซอร์ไพรส์ด้วย เช่น ตู้ขายของอัตโนมัติ

ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านั้น บ้านยังมี Motion sensors และ Robotic Technology ถูกฝังไว้ทั่วทั้งบ้าน โดยเมื่อเข้าบ้านแค่วางมือเหนือแท็บเล็ต โปรแกรมก็จะตรวจสอบยืนยันตัวตนด้วยการสแกนปลายนิ้วของคน และอ่านค่าว่า ‘ตรวจพบ Cheetle’ เป็นกิมมิคเก๋ ๆ 

Cheetos Hands-Free House เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 12-15 มีนาคม 2022 ในขณะที่แฟน ๆ ทั่วสหรัฐฯ ได้รับสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลมากมาย โดยแฟน ๆ สามารถเข้าร่วมชิงรางวัลอุปกรณ์ Hands-free ต่าง ๆ ได้ จากการมีส่วนร่วมในการแชร์เทคโนโลยี Hands-free ที่ตนเองชื่นชอบบนโซเชียลอย่าง Twitter โดยใช้แฮชแท็ก #cheetoshandsfree และ #entry 

สำหรับใครที่ไม่ได้มีโอกาสไปงาน ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2022 ก็ได้เปิดให้แฟน ๆ สามารถเข้าไปสำรวจบ้านกันได้ในรูปแบบดิจิทัล ได้ที่เว็บไซต์ Amazon.com ค่า ถือได้ว่าการเปิดบ้านจำลองในครั้งนี้ ทำให้คนได้ใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น รวมถึงได้รับประสบการณ์ดี ๆ ร่วมกันทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์

โดยผลลัพธ์ของ แคมเปญ Cheetos ‘Hands-free’ เรียกได้ว่าสร้างการรับรู้ มีส่วนร่วม โด่งดังสนั่นถล่มทลายมากค่ะ เพราะ

  • แคมเปญสร้างการแสดงผล 1.1 พันล้านครั้ง โดยมีมากกว่า 11 ล้านครั้งใน Instagram, Facebook และ Twitter 
  • บน TikTok เพียงอย่างเดียว แฮชแท็ก #cheetoshandsfree มีผู้เข้าชมถึง 8 ล้านครั้ง 
  • การเปิด Cheetos Hands-Free House 4 วัน ที่ SXSW 2022 มีคิว 2-3 ชั่วโมงต่อวัน และการเข้าชมบ้านทั้งหมด เกินเป้าหมาย 18%
  • แคมเปญได้รับ 455 Earned Media โดย 99.7% เป็นเชิงบวกต่อความรู้สึกที่เป็นกลาง

สิ่งที่ได้เรียนรู้จาก แคมเปญ Cheetos ‘Hands-free’

ความกล้าที่จะแตกต่าง เปลี่ยนแง่มุมร้ายให้กลายเป็นดีได้อย่างโดดเด่น

หลาย ๆ คน เวลากิน Cheetos อาจจะมองว่าการที่นิ้วเปื้อน คือจุดด้อย ข้อบกพร่องของขนม ความน่ารำคาญ หรือความวุ่นวายในชีวิตที่เพิ่มขึ้น เพราะพอนิ้วเปื้อนแล้วก็คงเกิดความขัดใจที่ใช้มือหยิบจับทำอะไรก็ไม่ได้ 

แต่แบรนด์กลับปรับเปลี่ยนมุมมองจากความวุ่นวายยุ่งเหยิงในชีวิตของคน ให้เป็นแง่มุมที่ดีแทน ใส่ความสนุก แสบซนปนกวน ลงไปผ่านแคมเปญนี้แบบที่คนคงคาดไม่ถึงว่าแค่กินแล้วนิ้วเปื้อน ต่อยอดไปถึงจุดกำเนิดของเทคโนโลยี Hands-free ที่ยิ่งใหญ่ในปัจจุบันได้

พลิกให้กลายเป็นประเด็นแห่งความภาคภูมิใจ ให้นิ้วที่เปื้อนเป็นสัญลักษณ์ของความอร่อย ชูเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างโดดเด่น และสร้างการรับรู้ในวงกว้างได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

สดใหม่และสร้างสรรค์

ย้อนกลับไปในปี 2019 การเจาะตลาดและส่วนแบ่งการตลาดของ Cheetos ลดลง และ Cheetos มักจะเป็นแบรนด์ที่ไม่ถูกนึกถึงในช่วงเวลาของว่าง เพราะคน Gen Z และ Millennials เห็นว่ามันเป็นขนมของว่างสีส้มที่ดูเลอะเทอะ55555  

จึงจำเป็นต้องสร้างความน่าดึงดูดใจและการตลาดในแบบของตัวเอง ถ่ายทอด Personality ที่มีความขี้เล่นและซุกซน จึงเกิดเป็นแคมเปญ Hands-free นี้ขึ้นมา เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายกลับมาสนใจแบรนด์ให้ได้ ในแง่มุมใหม่ที่มีความสนุก สร้างสรรค์ และสดใหม่มีชีวิตชีวาขึ้น ด้วยการแทรกแบรนด์เข้าไปจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของเทคโนโลยี Hands-free แบบติดตลก จนทำให้ผู้คนได้ค้นพบมุมมองใหม่ ๆ ได้เข้าใกล้แบรนด์มากขึ้น และแน่นอนว่าความรักของแฟน ๆ ที่มีต่อแบรนด์ก็คงมากขึ้นเช่นกันค่า~

สามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram Twitter Youtube และ Blockdit ได้เลยค่า

Source

Fern Panassaya

เฟิร์น Junior Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *