เปิดแผน ธุรกิจ Karmart ใช้กลยุทธ์แบบไหนดันแบรนด์ใหม่แกะกล่องให้ปัง

เปิดแผน ธุรกิจ Karmart ใช้กลยุทธ์แบบไหนดันแบรนด์ใหม่แกะกล่องให้ปัง

วันนี้จะพาทุกคนมารู้จักกับ ธุรกิจ Karmart บริษัทที่นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าเครื่องสำอาง ที่กำลังเปิดเกมบุกธุรกิจแบบเต็มกำลัง ทั้งการปรับกลยุทธ์ช่องทางออนไลน์ เน้นกระจายแบรนด์สร้างร้านของตัวเอง จ่อส่งแบรนด์ใหม่ลงสมรภูมิตลาดเมกอัพ-สกินแคร์

และยังเล็งหาทำเลขยายร้านสาขาใหญ่มากขึ้น พร้อมเตรียมเปิด Flagship Store แบรนด์ “รื่นรมย์” ธุรกิจที่เป็นเจ้าของโดย Karmart เพื่อปั้นคาเฟ่เครื่องหอมมาเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว ดีลพันธมิตรญี่ปุ่น จับมือพร้อมสยายปีกสู่ต่างประเทศ

การเติบโตของตลาดเครื่องสำอางหลัง Covid-19

อ้างอิงข้อมูลจาก Thailandplus ในปี 2564 HKTDC Research ได้เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวไทยที่คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในอีก 3 ปีข้างหน้า พบว่า ผู้บริโภคชาวไทย 81% มีแผนใช้จ่ายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอาง และยังต้องการผลิตภัณฑ์ความงามแบบใหม่ตลอดเวลา โดยผู้บริโภค 41% วางแผนที่จะใช้จ่ายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางมากขึ้น

รวมถึง Krungthai COMPASS ประเมินว่าในอีก 6-7 ปีข้างหน้า ตลาดเครื่องสำอางจะกลับมาสดใสอีกครั้ง และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

ซึ่งสอดคล้องกับรายงานด้านการตลาดของ Grand View Research ที่คาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดเครื่องสำอางทั่วโลกจะขึ้นไปแตะระดับ 3.64 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 12.38 ล้านล้านบาท ในปี 2573

หรือเรียกได้ว่าเติบโตเฉลี่ยปีละ 4.2% เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ประมาณ 1.4 เท่า ขณะเดียวกันตลาดเครื่องสำอางของไทยก็มีโอกาสที่จะเติบโตสอดคล้องกับเทรนด์โลก โดยคาดว่าในปี 2573 ตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยจะมีมูลค่ากว่า 3.23 แสนล้านบาทเลยทีเดียว

สู่การปรับกลยุทธ์ช่องทางออนไลน์ควบคู่ออฟไลน์ เน้นกระจายให้แบรนด์สร้างร้านของตัวเอง

ทุก ๆ คนคงจะได้เห็นกันแล้วว่าในช่วงของสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19 ผู้คนก็มาอยู่บนออนไลน์กัน ยอดขายในช่องทางออนไลน์ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เติบโตดีเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันหลังจากผู้คนกลับมาใช้ชีวิตปกติ ก็มีพฤติกรรมมองหาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์กันมากขึ้น เนื่องจากต้องออกไปเข้าสังคม พบปะผู้คน จึงต้องดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ

ธุรกิจ Karmart ที่มองเห็นและเข้าใจถึงพฤติกรรมของคน รวมถึงกระแสการเติบโตของตลาดเครื่องสำอางหลัง Covid-19 จึงให้ความสำคัญกับทั้งสองช่องทางควบคู่กัน ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อทำให้สามารถสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้

โดย Karmart ได้มีการปรับกลยุทธ์ช่องทางออนไลน์ตั้งแต่ปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมายอดขายออนไลน์เติบโตมากถึง 80% มาจากการที่ได้แยกแบรนด์ในเครือมาทำช่องทางออนไลน์ของตัวเองมากขึ้น ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าเดิม โดยขณะนี้เริ่มกระจายแบรนด์ต่าง ๆ ไปยังแพลตฟอร์มต่าง ๆ และคาดว่าการปรับกลยุทธ์ช่องทางออนไลน์ดังกล่าว จะทำให้ช่องทางออนไลน์เติบโตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในปีนี้อีกด้วย

จ่อเปิด Flagship Store แห่งแรกให้กับแบรนด์ “รื่นรมย์” เพราะเห็นโอกาสตลาดเครื่องหอมปรับอากาศ

ขณะเดียวกัน ธุรกิจ Karmart ก็ได้มองหาโอกาสในการขยายสาขาในรูปแบบที่ขนาดใหญ่มากขึ้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้มีการขยายโมเดล Flagship Store แห่งแรกของ Karmart ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าซีคอนบางแค

“เราเห็นโอกาสของการขยายสาขาที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จากเดิมอยู่ที่ 30 ตารางเมตร แต่สำหรับ Flagship Store แห่งนี้ มีขนาดพื้นที่ 200 ตารางเมตร ทำให้แต่ละแบรนด์มีพื้นที่ของตัวเอง ขณะเดียวกันแบรนด์พาร์ทเนอร์ก็เข้ามาร่วมในร้านได้ ทำให้ยอดใช้จ่ายต่อบิลเพิ่มสูงขึ้น นับว่าประสบความสำเร็จมาก จึงอยากมองหาทำเลที่เหมาะสมเพื่อนำมาพัฒนาโมเดลในลักษณะนี้ต่อไปในอนาคต” นายวงศ์วิวัฒน์ กล่าว

รวมถึงยังได้ปรับภาพลักษณ์ใหม่ในการขยายเข้าสู่ธุรกิจบริการด้านความงาม โดยได้ร่วมกับ อ.หญิง ยุคลฉัตร จันทคร เจ้าของธุรกิจสักคิ้วชื่อดัง The Beauty Arts ผู้นำเทรนด์การสักคิ้วเทคนิคต่างๆ ผ่านการอบรมจากเกาหลี ภายใต้ชื่อร้าน “K-Brow By The Beauty Arts” ซึ่งอยู่ภายในสาขาแห่งนี้ และมีผลตอบรับจากลูกค้าดีเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ Karmart ยังมองเห็นโอกาสของตลาดเครื่องหอมปรับอากาศ ที่มีอัตราการเติบโตสูงมากนับแต่ช่วง Covid-19 ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้คนต้องทำกิจกรรมอยู่แต่ภายในบ้านของตัวเอง อาจทำให้เกิดความเครียด และต้องการสร้างบรรยากาศภายในบ้าน ทำให้ผลิตภัณฑ์เครื่องหอมเป็นอีกหนึ่งธุรกิจมาแรงช่วงโควิด

Karmart จึงเตรียมจะทำการเปิด Flagship Store แห่งแรกให้กับแบรนด์ “รื่นรมย์” ซึ่งเบื้องต้นน่าจะเป็นทำเลย่านทรงวาด เป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น พื้นที่ขนาด 100 ตารางเมตร โดยเมนูต่าง ๆ จะได้แรงบันดาลใจจากสินค้าแบรนด์รื่นรมย์ มองว่า Flagship Store แห่งนี้จะทำให้แบรนด์ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น

Karmart ยังให้ความสำคัญกับ Influencer สายบิวตี้ จ่อส่งแบรนด์ใหม่ลงตลาด

ทั้งนี้ Karmart ยังให้ความสำคัญกับการมองหาพาร์ทเนอร์ที่เป็นกลุ่ม Beauty Influencer เพื่อพัฒนาแบรนด์ต่าง ๆ ร่วมกัน อย่างที่ผ่านมามีแบรนด์ บราวอิท, ลิปอิท และ อินทิมี่ เป็นต้น

ซึ่งมีผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก Karmart มองว่าในส่วนของการร่วมมือกับทาง Beauty Influencer จะยังคงมีอย่างต่อเนื่องแน่นอน เพราะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถทำให้ธุรกิจเติบโตได้เป็นอย่างดี

รวมถึงในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ จะมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ซึ่งเป็นการร่วมมือกับทาง KMGI มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เบื้องต้นจะทำตลาดผ่านสองแบรนด์ใหม่ คือ BEAUTILOX แบรนด์ในกลุ่มสกินแคร์ และ Face it แบรนด์ในกลุ่มเมกอัพ ซึ่งสินค้าต่าง ๆ ถูกพัฒนาด้วยแนวคิด “ความงามที่เป็นมาตรฐานนางงาม ความสมบูรณ์แบบ ความสวยแบบฉบับนางงาม”

วางแผนสยายปีกต่างประเทศ พร้อมขยับสู่กลุ่มพรีเมียมมากขึ้น

นอกเหนือจากตลาดในประเทศที่ Karmart เตรียมรุกธุรกิจในทุกรูปแบบแล้ว ในส่วนของต่างประเทศก็โตมากขึ้นเช่นเดียวกัน โดยปัจจุบันมีการส่งออกไปยัง 19 ประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้ทั้งหมด

โดยปีนี้ Karmart จะมีความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญกับการร่วมทุนกับบริษัทญี่ปุ่น บริษัท ที่จะเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ขยายตลาดต่างประเทศให้แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการและน่าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้

อย่างไรก็ดีอุตสาหกรรมความงามจะเติบโตได้อีกมาก คนไทยยังมองหาสินค้าใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยที่ผ่านมา Karmart ทำตลาดอยู่ในกลุ่มแมส แม้ว่ายังจะขยายตัวได้อยู่ แต่ก็มีแผนจะขยับขึ้นไปสู่ระดับกลุ่มพรีเมียมมากขึ้น เนื่องจากลูกค้าเดิมของบริษัทฯ เมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว เริ่มมีกำลังซื้อมากขึ้น ควบคู่ไปกับการจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ และมองหาสินค้าเข้ามาเติมเต็มพอร์ตให้ครอบคลุมในทุกกลุ่ม

เช่น เวชสำอาง และการขยายธุรกิจในลักษณะควบรวมกิจการ ก็จะทำให้ให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด มองว่าในอีก 3 ปีข้างหน้ารายได้รวมน่าจะไปถึง 4,000 ล้านบาทอีกด้วย

Karmart เปิดเกมบุกธุรกิจเต็มกำลัง มองหาโอกาสให้ธุรกิจอยู่เสมอ

เป็นยังไงบ้างคะกับ ธุรกิจ Karmart ที่มาเปิดเกมบุกธุรกิจแบบเต็มกำลังจริง ๆ ด้วยความเข้าใจถึงพฤติกรรมของคนที่มาพร้อมกับกระแสการเติบโตของตลาดเครื่องสำอางหลัง Covid-19 จึงหันมาให้ความสำคัญกับช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ปรับกลยุทธ์ออนไลน์ แยกแบรนด์ในเครือมาทำช่องทางออนไลน์ของตัวเอง จนทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าเดิม

อีกทั้งยังมองหาโอกาสให้ธุรกิจอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการมองหาพาร์ทเนอร์ที่เป็นกลุ่ม Beauty Influencer เพื่อเป็นส่วนในการมาร่วมพัฒนาแบรนด์ หรือการเตรียมเปิด Flagship Store แบรนด์รื่นรมย์ จากการเห็นโอกาสของตลาดเครื่องหอมปรับอากาศที่มีอัตราการเติบโตสูงมากนับแต่ช่วง Covid-19

ในประเทศว่าบุกเต็มกำลังแล้ว แต่ก็ไม่ละทิ้งตลาดต่างประเทศที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน จับมือพาร์ทเนอร์ขยายตลาดต่างประเทศให้แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมวางแผนจะขยับขึ้นไปสู่ระดับกลุ่มพรีเมียมอีกด้วย เพราะให้ความสำคัญกับลูกค้าเดิมของ Karmart ที่ในปัจจุบันมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นแล้ว ควบคู่ไปกับการจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ และมองหาสินค้าเข้ามาเติมเต็มพอร์ตให้ครบครัน เรียกได้ว่าใส่ใจในทุกมิติจริง ๆ

ทุกคนสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram TwitterYoutube และ Blockdit ได้เลยค่า

บทความเกี่ยวกับ Flagship Store ที่แนะนำให้อ่านต่อ

Fern Panassaya

เฟิร์น Junior Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *