5 เหตุผล ทำไมธุรกิจ B2B ควรใช้ LINE Official Account ?

5 เหตุผล ทำไมธุรกิจ B2B ควรใช้ LINE Official Account ?

เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามาบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน พฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย จากที่ธุรกิจ B2B จะต้องขับรถออกไปเจอลูกค้าด้วยตัวเองเพื่อพูดคุย หรือนัดเซนเอกสาร ทุกวันนี้ใช้วิธีการเพิ่มเพื่อนทาง LINE เพื่อเก็บรายชื่อลูกค้าแทน

ไม่ว่าจะธุรกิจประเภทใด ก็ต้องปรับตัวให้ตอบรับกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปด้วย อย่างการสื่อสารถ้าดูตามสถิติจะเห็นว่า คนไทยใช้งาน LINE เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารเป็นหลัก ล่าสุดมีผู้ใช้งาน LINE กว่า 53 ล้านคน และมีจำนวนผู้ใช้งานมากเป็นอันดับ 2 ของโซเชียลมีเดียในไทย ตามข้อมูลของ We are Social

แม้กระทั่ง ธุรกิจ B2B (Business to Business) ที่จำเป็นต้องติดต่อกับลูกค้าเพื่อปิดการขาย หรือสร้างความน่าเชื่อถือด้วยพฤติกรรมแบบเดิมที่เน้นออฟไลน์มากกว่าการนัดพบตัวจริง หรือการโทรติดต่อก็เป็นวิธีการหลักในการสื่อสาร 

แต่วันนี้ผมจะมาเจาะลึกใน ฟีเจอร์ LINE OA ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการสื่อสารของธุรกิจที่เน้นการติดต่อซื้อขายระหว่างองค์กร หรือ ธุรกิจ B2B ว่าตอบโจทย์ และแทนการติดต่อแบบเดิมๆอย่างไรบ้าง  

B2B คืออะไร

การทำธุรกิจที่ติดต่อซื้อขายระหว่างธุรกิจด้วยกันเอง เช่น บริษัทเอเจนซี บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจ วัตถุดิบในการผลิต หรืออุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในอุตสาหกรรม พูดง่าย ๆ มันคือการที่บริษัทมาซื้อของไปผลิตสินค้าหรือบริการเพื่อขายอีกทีนั่นเอง

ซึ่งหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ B2B คือ “การเก็บรายชื่อลูกค้า หรือ Lead ของผู้ที่สนใจ” เพื่อให้ทีมสามารถทำการวางแผนเพื่อเปลี่ยนจากลิสต์รายชื่อมาเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสตัดสินใจซื้อได้ ผ่านการสื่อสาร นำเสนอคอนเทนต์ที่สร้างความน่าเชื่อถือ และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

ความพิเศษอีกอย่างของธุรกิจแบบ B2B นอกจากการเก็บลีดลูกค้า คือช่วงเวลาการตัดสินใจที่นาน และในระหว่างนั้นควรมีการสื่อสารเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง 

LINE OA ตอบโจทย์กับธุรกิจ B2B อย่างไร ?

1. สามารถเก็บรายชื่อลูกค้า (Lead) ได้จำนวนมาก

คุณสามารถเก็บรายชื่อได้เป็นหลักล้านเลยทีเดียว ที่สำคัญบริษัทอื่นไม่สามารถรู้ได้ว่ามีใครใช้บริการกับบริษัทของเราอยุ่เพราะจะไม่เห็นว่ามีใครติดตามบ้างเป็นข้อดีอย่างมากสำหรับธุรกิจที่ต้องรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้า

2. สร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า

แน่นอนว่าสามารถความน่าเชื่อถือมากกว่าการพูดคุยด้วย LINE ส่วนตัว ทั้งรูปโปรไฟล์โพสต์ต่างๆของบริษัทที่ไม่ได้ปะปนกับโพสต์ส่วนตัวของเซลล์ และ LINE ยังมีส่วนเสริมที่ช่วยให้บัญชีสร้างความน่าเชื่อถือได้มากขึ้น ด้วยการเปลี่ยนเป็น โล่น้ำเงิน หรือโล่เขียวนั่นเอง หากสนใจสามารถติดต่อทางผมได้นะครับ LINE OA : DigitalChamp

3. เป็นช่องทางการสื่อสารหลักของคนไทย

อย่างที่ผมเกริ่นตอนต้นนะครับว่าผู้ใช้งาน LINE ล่าสุดมี 53 ล้านคน เรียกได้ว่า เป็นช่องทางการสื่อสารที่หลายๆคนชินไปแล้ว หากเป็นการสื่อสารในช่องทางอื่น อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกหงุดหงิดได้จากความไม่ชินอีกด้วย 

แต่สิ่งที่ธุรกิจต้องทำควบคู่ไปด้วยนั้นคือการให้คำตอบลูกค้าอย่างรวดเร็ว พร้อมทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าช่องทางนี้เป็นช่องทางหลักในการติดต่อ 

4. มีฟีเจอร์ช่วยในการแบ่งประเภทลูกค้า

ในที่นี้คือฟีเจอร์ ChatTag ที่ช่วยให้เราจดจำลูกค้าได้ว่าใครคือลูกค้าที่ส่งใบเสนอราคาแล้ว หรือลูกค้าคนไหนที่ต้องการนัดเจอเพิ่มเติม และ ChatTag สามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายไว้ เพื่อแบ่งการสื่อสารได้อีกด้วย 

ลูกค้าที่อยู่ในขั้นตอนที่แตกต่างกัน ต้องการข้อมูลทที่แตกต่างกัน เช่น ลูกค้าที่กำลังทำการชำระเงินหรือชำระเงินแล้ว ต้องไม่อยากได้โปรโมชั่น ราคาพิเศษใดๆ ไม่อย่างนั้นจะเป็นการเจ็บใจอย่างมาก 

ถ้าเป็นลูกค้าที่กำลังลังเลระหว่างบริษัท A กับ B อยู่ ข้อมูลที่ควรสื่อสารกับเขาในตอนนี้ควรเป็นสิทธิพิเศษ ดีลดีๆ เพื่อดึงดูดใจมากกว่านั้นเอง ซึ่งฟีเจอร์ ChatTag นี้สามารถทำได้ครับ

5. เก็บลูกค้ารวมไว้ในที่เดียวกัน

เซลล์ลาอออกไม่ต้องกังวลเรื่องรายชื่อหาย ผมเชื่อว่ามีหลายบริษัทเลย ออกบูธแล้วเพื่อความสะดวกในการติดต่อคุณจะให้ลูกค้าแอดไลน์ส่วนตัว แต่นั่นคือผลเสียอย่างมากครับ

เพราะถ้าเซลล์คนนั้นไม่ได้ทำงานให้คุณแล้ว คุณไม่สามารถขอรายชื่อของลูกค้าไว้ได้เลย ยิ่งถ้าลูกค้าเคยชินกับการติดต่อทางไลน์ส่วนตัวกับเซลล์คนนั้นแล้วด้วยเหมือนเป็นการทิ้ง Lead เลยก็ว่าได้ 

ดังนั้นผมแนะนำเลยว่าเก็บลูกค้าเอาไว้ที่ LINE OA จะช่วยให้คุณแก้ปัญหาส่วนนี้ได้ครับ ลูกค้าไม่ตกหล่น Lead ไม่หาย ติดต่อง่าย เก็ยรายชื่อได้ยาวนานอีกด้วย

จากที่ผมเกริ่นมานี้เป็นเพียงเหตุผลหลัก ๆ ที่ช่วยเสริมศักยภาพการสื่อสารให้กับธุรกิจ B2B เท่านั้นครับ แน่นอนว่าฟีเจอร์ของ LINE Official Account มีอีกเยอะแยะมากมาย และสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อีก 

สำหรับธุรกิจใดก็ตาม ที่ตอนนี้ยังใช้การสื่อสารแบบเดิมอยู่ ผมเชื่อว่าบทความนี้จะทำให้คุณได้ไอเดียไปปรับใช้ไม่มากก็น้อยเลยครับ หากคุณเป็นธุรกิจที่สนใจอยากใช้ LINE ให้มีศักยภาพมากขึ้น ติดตามบทความผมไว้นะครับ และสามารถปรึกษาเรื่อง LINE กับผมได้ >> LINE OA : DigitalChamp

สำหรับใครที่สนใจบทความเกี่ยวกับ LINE สามารถคลิกเข้าไปเลือก Topics อื่นๆ เพื่ออ่านต่อกันได้เลย

สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะครับ

ที่มา :

• www.wisible.com
• contentshifu.com
• thedigitaltips.com