BDMS เปิดตัว Medical LLMs นวัตกรรมทางการแพทย์จาก CARIVA

ดูเหมือนเมื่อเร็วๆ นี้จะมีเรื่องสั่นสะเทือนวงการเทคโนโลยีและวงการแพทย์ไทยกันอีกแล้ว เมื่อ CARIVA บริษัท Startup ไทย ที่พึ่งได้ผู้สนับสนุนรายใหญ่ใจดีอย่าง BDMS เข้ามาร่วมลงทุน และให้การสนับสนุนการพัฒนา AI Innovation ในวงการ Healthcare ไทย

ได้ออกมาเปิดตัว Medical LLMs นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่นำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาประยุกต์ใช้กับการให้บริการทางการแพทย์ ซึ่งนับว่าเป็นการยกระดับการแพทย์ไทยไปอีกขั้น และสะท้อนถึงเทรนด์ AI ในอุตสาหกรรม Healthcare ที่กำลังเติบโตในไทยอย่างก้าวกระโดด

Artificial Intelligence ในวงการ Healthcare

• ในปัจจุบันมีการนำ Artificial Intelligence เข้ามาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์อย่างแพร่หลาย โดยทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ ,ช่วยประเมินความเสี่ยงทางการแพทย์ ,ช่วยวินิจฉัยโรค ไปจนถึงการช่วยดูแลรักษาผู้ป่วย แต่ไม่ว่า AI จะสามารถช่วยทำงานได้ดีแค่ไหน ก็ยังจำเป็นต้องมีแพทย์ชำนาญการคอยตรวจสอบความถูกต้องอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายเสมอ
• ซึ่ง Healthcare AI นั้น สามารถเพิ่มศักยภาพการแพทย์ได้อย่างมากมายในหลายๆ ด้าน เช่น วิเคราะห์ภาพเอ็กซ์เรย์ ,การสแกน MRI ,ตรวจสอบข้อมูลชีพจร ,คาดการณ์ความเสี่ยงในการแท้งลูก หรือแม้แต่การให้คำปรึกษาและช่วยวางแผนการรักษาสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากประวัติการวินิจฉัยและการรักษาที่มีอยู่

ความร่วมมือระหว่าง BDMS กับ Startup ไทย

ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือ BDMS ได้ทุ่มเงินลงทุนมหาศาลในการสนับสนุน Startup ไทย ที่มีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ไปแล้วถึง 4 แห่งด้วยกัน 

หนึ่งในนั้นคือ CARIVA บริษัท Startup และเป็นผู้พัฒนา Medical Large Language Models (Medical LLMs) รายแรกใน South East Asia อีกด้วย

โดยปีที่ผ่านมานี้ BDMS ได้เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการลงทุนตามแผนการลงทุนในนวัตกรรมใหม่ไปแล้วกว่า 1,500 ล้านบาท โดยการลงทุนนั้นจะเน้นการลงทุนในระดับ Serie A เพื่อพัฒนานวัตกรรมร่วมกับ Startup ไทย

สำหรับวัตถุประสงค์จากความร่วมมือนี้ ทาง BDMS มุ่งยกระดับการแพทย์ไทยไปอีกขั้น ด้วยการนำ AI Innovation มาพัฒนาต่อยอดกับ Lab Interpretation Solution หรือกระบวนการตรวจสุขภาพทางห้องปฏิบัติการ เพื่อนำมาใช้เป็นเสมือนผู้ช่วยแพทย์ในการวิเคราะห์รายละเอียดของผู้ป่วย 

โดย BDMS จะนำนวัตกรรมดังกล่าวมาปรับใช้กับการตรวจสุขภาพเชิงป้องกันกับคนที่มีสุขภาพดี ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ Sandbox ของ BDMS ที่มุ่งยกระดับมาตรฐานการให้บริการทางการแพทย์ ด้วยการพัฒนานวัตกรรม 5 ด้านด้วยกัน

• ด้านการคัดกรองและวินิจฉัยโรค
• ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการและเพิ่มความแม่นยำ
• ด้านการลดขั้นตอนการปฏิบัติงานอย่างมีคุณภาพ
• ด้านการติดตามผลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
• ด้านการบริการทางการแพทย์อย่างยั่งยืน

โดยการลงทุนเพื่อความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ในครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการบริการแบบ Preventive Care และ Personalized Medicine ไปอีกขั้น

โดยจะใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการตรวจคัดกรองความผิดปกติเบื้องต้น ก่อนจะนำไปวิเคราะห์ข้อมูลจากผลตรวจของแต่ละบุคคล เพื่อการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลสุขภาพป้องกันโรคเรื้อรังในอนาคต ซึ่งสามารถตรวจพบและป้องกันได้ก่อนเกิดโรค 

AI Innovation ในวงการ Healthcare ฝีมือStartup ไทย

สำหรับโครงการที่ BDMS เข้าไปสนับสนุนนั้น เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Sandbox ที่ BDMS ร่วมมือกับบริษัท Startup ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ ให้เข้ามาช่วยพัฒนาและสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อระบบการให้บริการทางการแพทย์

ซึ่งแน่นอนว่าการพัฒนา AI Innovation เหล่านี้ ไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยการทำงานเพียงลำพัง ดังนั้นการได้รับความร่วมมือจากทั้ง ภาครัฐ โรงเรียนแพทย์ และบริษัท Startup ในการยกระดับบริการทางการแพทย์ โดยปัจจุบัน BDMS ได้เปิดตัวและนำนวัตกรรมที่พัฒนาโดย Startup เหล่านี้ออกมาใช้จริงแล้ว อาทิ

• Perceptra Project : เป็นโครงการที่ใช้ AI อ่านผลเอกซเรย์สำหรับผู้ช่วยรังสีแพทย์ 
• Mineed Project : เป็นเข็มเล็กๆที่ละลายใต้ชั้นผิวได้ หรือ Microneedle ซึ่งช่วยนำยาเข้าสู่ร่างกายหรืออวัยวะเฉพาะส่วนได้ง่ายขึ้น
• CARIVA Project : ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ที่ใช้วิเคราะห์โรคเฉพาะบุคคล รวมทั้งการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิต ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
• OOCA Application: เป็นแอปพลิเคชั่นที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานในการปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยาแบบออนไลน์
• และที่พึ่งเปิดตัวล่าสุดคือ BeDee Application : เป็นแอปพลิเคชั่นที่บริการพบแพทย์และเภสัชกรแบบทางไกล หรือ Telehealth และ Tele-pharmacy ทั้งให้บริการการสั่งซื้อยา (Tele Medicine) สั่งซื้อสินค้าเวชภัณฑ์ (Health Mall) ไปจนถึงการเป็นศูนย์บริการข้อมูลความรู้ด้านสุขภาพ (Health Content) ซึ่งจะช่วยให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงบริการด้านการแพทย์ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น

ยกระดับ BDMS ด้วย AI Innovation จาก CARIVA

โดยทาง BDMS เชื่อว่า ด้วยศักยภาพและความเชี่ยวชาญของแพทย์ บวกกับ AI Innovation ของ CARIVA จะสามารถส่งเสริมการให้บริการที่เป็นเลิศทางการแพทย์ของ BDMS พร้อมขยายสู่โรงพยาบาลชั้นนำในต่างประเทศต่อไป

ซึ่ง CARIVA ได้ต่อยอด AI Innovation ด้าน Healthcare มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีรูปแบบเสมือนผู้ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ เช่น 

• Lab Interpretation Solution หรือกระบวนการตรวจสุขภาพทางห้องปฏิบัติการ 
• ASR (Automatic Speech Recognition) ระบบรับรู้เสียงอัตโนมัติ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่แปลงคำพูดหรือภาษาพูดของมนุษย์เป็นข้อความเขียน ซึ่งช่วยบันทึกข้อมูลทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถช่วยลดภาระงานเอกสาร และเพิ่มศักยภาพ Workflow ได้อีกด้วย 
• Symptom Checkers Chatbot ที่สามารถประเมินอาการ และวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการรักษาของโรคได้ จากการคำนวณปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ อย่างถี่ถ้วนและแม่นยำ

สำหรับโครงการ Lab Interpretation ภายใต้ Sandbox ได้มีการทดลองใช้ ณ Health Design Center ในพื้นที่โรงพยาบาลกรุงเทพแล้ว เพื่อช่วยแปลผลข้อมูลสุขภาพร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพิ่มประสิทธิภาพการบริการดูแลคนไข้ พร้อมเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพต่างๆ ของคนไข้ เพื่อแสดงผลผ่าน BeDee Health Ecosystem Platform

สำหรับ UX/UI นั้นจะถูกพัฒนาออกมาในรูปแบบที่ล้ำสมัย สวยงาม และมีความเข้าใจง่ายตรงไปตรงมาเพื่อให้เป็นมิตรกับคนทุกเพสทุกวัย และหากพบว่าผลตรวจสุขภาพของเรามีจุดผิดปกติ เช่น มีความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือโรคอื่น ๆ เราก็สามารถวางแผนการรักษาต่อด้วยการปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางหรือปรึกษาเภสัชกรเรื่องยา ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในการใช้บริการนี้เลย แถมยังใช้ได้กับทุกโรงพยาบาลในเครือ BDMS ผ่านแอปพลิเคชัน BeDee เพียงแอปเดียวเท่านั้น

ตอนนี้นอกจากผู้ใช้บริการอย่างเราๆ จะเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของเราได้ทุกที่ ทุกเวลา แล้ว ยังสามารถเข้ารับบริการทางด้านสุขภาพ เช่น การปรึกษาทางการแพทย์ผ่าน Teleconsultation ,การบริการส่งยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นผ่าน Tele-pharmacy ,การเข้าถึง Health Mall และการรับข้อมูลสุขภาพจากคอนเทนต์ดีๆ ผ่าน Health Content ได้อีกด้วย

อ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะครับ