‘ตลาดเกม’ มีศักยภาพในการเติบโตแบบที่คาดไม่ถึง
เกม เป็นอุตสาหกรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ด้วยวิวัฒนาการของอุปกรณ์พกพา การเล่นเกมได้เปลี่ยนจากขอบเขตของห้องใต้ดินชานเมืองยุค 80 ไปสู่ความบันเทิงแบบมือถือและการมีส่วนร่วมที่ผู้เล่นเกมทั่วไปหลายล้านคนชื่นชอบ ทำให้ ตลาดเกม เติบโตขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะในยุคนี้
แต่สำหรับรายงาน ของอุตสาหกรรมดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าเกมเป็นตลาดที่สร้างการมีส่วนร่วมได้อย่างมากทีเดียว นี่จึงคือเหตุผลที่แบรนด์ต้องเริ่มหันให้ความสนใจกับชุมชนที่มีส่วนร่วม เพราะคนเล่นเกมมากขึ้น และกำลังกลายเป็นกิจกรรมทางสังคมที่มีศักยภาพในการเติบโตที่คาดไม่ถึง การขยายตัวครั้งใหญ่นี้มีนัยยะสำคัญสำหรับธุรกิจนั่นเองค่ะ
มีหลายอุตสาหกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากเกม
- อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและการสื่อสาร : วิดีโอเกมที่มีผู้ใช้กลุ่มมือถือมากที่สุด เป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของ mobile broadband และ high-speed broadband data จึงทำให้บริษัทโทรคมนาคมได้ย้ายเกมรวมเข้ากับแพลตฟอร์มคอนเทนต์เสริมและการเรียกเก็บเงินค่าบริการ
- E-commerce และ digital retail : โดยนอกเหนือจากการเป็นร้านค้าปลีกและเป็นจุดสัมผัสของผู้ชมแล้ว อุตสาหกรรมส่วนนี้ยังใช้ระบบเครดิตในร้านค้าแบบ play-to-win เพื่อดึงดูดและรักษาลูกค้าไว้ด้วย
- Fintech : คือ เทคโนโลยีทางด้านการเงิน ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อภายในเกมด้วยเงินสดและการขายในเกมแบบผูกมัด เป็นตัวขับเคลื่อนหลักสำหรับกระเป๋าเงินมือถือและแพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัล
- Education : เป็นแนวคิดของ gamification คือการรวมแง่มุมของเกมเข้าในบทเรียน เพื่อดึงดูดและรักษาความสนใจในหมู่เด็กนักเรียน
ตามรายงาน ” What’s Next for Gaming in APAC ” ของ Google แสดงข้อมูล 3 ใน 4 ของตลาดเกมชั้นนำตามการใช้จ่ายของผู้บริโภค นอกเหนือจากประชากรออนไลน์มากกว่าครึ่งโลกแล้ว ยังทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกใช้จ่ายไปกับเกมรวมกันถึง 49% เลยทีเดียวค่ะ
ซึ่งรายงานเดียวกันนี้ยังเน้นย้ำว่า APAC ยังคงให้ความสำคัญกับอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลักฐานผู้เล่นสำหรับเกมบนมือถือยังคงเติบโตและจะรับประกันว่าจะเน้นที่อุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลัก และสิ่งนี้ถูกกำหนดให้มีบทบาทสำคัญในการมีส่วนร่วมของลูกค้า เนื่องจากเกมบนมือถือ แบรนด์ที่เกี่ยวข้อง และไม่ว่าจะเป็นสปอนเซอร์หรือพันธมิตรที่ผูกมัด ก็จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนเล่นเกมประมาณ 1.62 พันล้านคน
ในแง่ของการใช้จ่ายของผู้ใช้ การศึกษาจาก Google คาดว่าคนเล่นบนเกมมือถือ จะใช้จ่ายประมาณ 57.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 หรือ คิดเป็น 66% ของการใช้จ่ายของผู้บริโภคทั้งหมด 88.2 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน ก็ถือว่ามีเงินเข้ามาเยอะมากๆ สำหรับตลาดนี้ค่ะ
จากการศึกษาเหล่านี้ การเล่นเกมไม่ใช่แค่เพื่อความสนุกสนานเท่านั้น เพราะปัจจุบันเนี่ยก็มีคนเล่นเพื่อหารายได้ เช่น การสตรีมเกมบนออนไลน์ นี่เป็นการเพิ่มการมีส่วนร่วมเป็นชุมชนทางสังคมที่มีส่วนสนับสนุนและขยายตัวใหญ่มากขึ้น จนเป็นอาชีพในยุคปัจจุบันที่เรียกกันว่า เกมเมอร์ ซึ่งมองว่าในประเทศไทยก็ถือว่าได้มีการยอมรับและมีคนเล่นเกมที่สนใจอาชีพนี้ไม่น้อยเลยค่ะ
จะเห็นว่าการเติบโตของตลาดเกมเหล่านี้ดึงดูดความสนใจของนักการตลาดที่ย้ายมาศึกษาวิธีใช้ประโยชน์จากตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูนี้ เห็นได้จากกีฬา E-sport ที่มีการแข่งขันระดับประเทศ และหลายแบรนด์หันมาสนับสนุนตลาดเกมนี้กันอย่างคับคั่ง
คนเล่นเกมคือผู้ชมในอนาคต
การเล่นเกมเริ่มต้นตั้งแต่ให้ความบันเทิงแบบสบาย ๆ ไปจนถึงรวมทีมอีสปอร์ตแบบมืออาชีพ การเล่นเกมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตสำหรับเกือบทุกคน ถ้าจะมองในแง่ดีโลกนี้มีประชากร 7.8 พันล้านคน และเกือบครึ่งหนึ่งเป็นคนเล่นเกม
โดยคนที่เล่นเกมเป็นอาชีพ มีเพียง 10% ของเกมเมอร์เท่านั้น ซึ่งจะเห็นว่าคนเล่นเกมอีกนับไม่ถ้วน เป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจกับเกม เล่นเพื่อความสนุก และให้ความสำคัญกับ E-sport ทำให้คนกลุ่มนี้ เป็นตัวดันการเล่นเกมให้กลายเป็นงานอดิเรกทางสังคม แม้จะไม่ใช่เกมเมอร์มืออาชีพ
แล้วดูเหมือนว่าศักยภาพในการเติบโตของ ตลาดเกม นี้ กำลังเป็นที่จับตามองและมีแนวโน้มที่จะ เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอันยิ่งใหญ่ หากแบรนด์หรือนักการตลาดและเห็นศักยภาพตรงนี้ และกลุ่มเป้าหมายอยู่ในตลาดดังกล่าว ก็ลองศึกษากลุ่มผู้ชม พฤติกรรม รวมถึง Customer Journey เพื่อที่แบรนด์จะได้เข้าถึงและดึงดูดพวกเขาในกลยุทธ์ที่ดีและมีสิทธิภาพนั่นเองค่ะ
สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ
Source : https://www.thedrum.com/profile/infobip/news/videogames-the-next-gen-customer-engagement-frontier
