Checklist 3 องค์ประกอบหลัก Brand Perception ที่ทำให้โดดเด่นแบบตะโกน

Checklist 3 องค์ประกอบหลัก Brand Perception ที่ทำให้โดดเด่นแบบตะโกน

Brand Perception ที่เป็นหัวใจสำคัญของการทำแบรนด์ และส่งผลต่อการทำการตลาดส่งเสริมการขาย ทั้งยังมีอิทธิพลกับลูกค้าเก่า ลูกค้าใหม่ ขาจรสูงมากกก เพราะฉะนั้นการวัดผลหรือทบทวน Brand Perception อย่างสม่ำเสมอจึงสำคัญนั่นเองค่ะ

เพราะถ้าหากเราเป็นแบรนด์เล็ก ๆ ยิ่งในบ้านเรา SMEs ที่มีสินค้าปัง แน่นคุณภาพมีโอกาสน้อยกว่าแบรนด์ใหญ่อยู่มาก นุ่นยังมีข้อมูลอ้างอิงจาก Learn Hub ด้วยว่าผู้บริโภคกว่า 77% เลือกจ่ายเงินจาก ‘ชื่อแบรนด์’ ซึ่งตัวนุ่นเองก็อยู่ใน 77% นี้เหมือนกันค่ะ ซื้อที่เรารู้จักและดังไว้ก่อนสบายใจขึ้นนิดนึง  

อยากให้แบรนด์โดดเด่น มีเอกลักษณ์แบบตะโกน ลูกค้าจำได้แว๊บแรกแบบไม่สับสนกับแบรนด์อื่น นักการตลาดก็ต้องมาทบทวน 3 องค์ประกอบหลักง่าย ๆ เหล่านี้ให้ดีก่อน Next Step ไปองค์ประกอกย่อย ๆ อื่น หรือทุ่มให้การตลาดควบคู่ต่อไปค่ะ

#1 Visual

แว๊บแรกเลยก็ต้องเป็น visual หรือภาพที่ลูกค้าจะเห็นแล้วเหลียวหลัง รู้ทันทีเลยว่านี่แหละแบรนด์เรา! แบบไม่ต้องนึกนาน ต้องยอมรับว่าคนเราตัดสินจากรูปที่เห็นก่อน

www.antevenio.com

เรื่องของ Visual Brand จริง ๆ ละเอียดและนั่งแชร์กันได้ทั้งวัน แต่นุ่นขอกระชับสำหรับบทความนี้ว่าทั้งภาพ สี รูปร่าง สัญลักษณ์ ทุกอย่างที่เราเห็นได้ผ่านดวงหน้านี่แหละคือสิ่งที่นักการตลาดต้องเช็กลิสต์แรกสุดค่ะ

visme.co

ซึ่งการตลาดวันละตอนเคยแชร์เรื่อง Color Psychology ที่จะถูกใช้บน Logo เว็บไซต์หรือสินค้าอื่น ๆ เอาไว้แล้วอย่างละเอียด สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ตรงนี้เลยนะคะ

และถ้าใครอยากรู้ว่าอีก 3 ข้อจะเป็นอะไรก็มาดูกันต่อเลยค่ะ

#2 Personality

นักการตลาดทราบไหมคะว่า Personality หรือตัวตนของแบรนด์ สำคัญมาก แต่หลายแบรนด์อาจมองข้าม หรือลำดับความสำคัญไว้หลัง ๆ ทั้ง ๆ ที่สามารถสร้างอิทธิพลต่อ Brand Perception ได้เช่นกันค่ะ

เหมือนกับว่า เราเห็นแบรนด์น้ำหอม Miss Dior แล้วแบรนด์ให้คุณจีซู Blackpink เป็นคนถือ ทำให้เราเข้าใจได้ทันทีว่ามีความหวาน มีความลูกคุณ แม้จะไม่เคยเห็น ไม่เคยดมกลิ่นก็ตามค่ะ 

Brand Personality มีหลายทฤษฏีให้นักการตลาดเลือก Famework ที่เหมาะกับตัวเอง แต่นุ่นบอกได้เลยว่าลูกค้าจะซื้อสินค้าที่คล้ายกับตัวตนของตัวเองค่ะ เหมือนเป็นเพื่อนที่จะสนิทกับเราได้ เข้าแก๊งค์เราได้ก็ต้องมีบางอย่าง Relate กับเรานะ 

นุ่นคิดว่าการใช้ Brand Ambassador เป็นวิธีหนึ่งที่จะพรีเซ็นความเป็น Personality ได้ดีและชัดวิธีหนึ่งเลยค่ะ ยกตัวอย่างแบรนด์ดัง 4 แบรนด์ในภาพ แต่ละแบรนด์เป็นเสื้อผ้าเหมือนกันแต่คนละสไตล์ เหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการลุคเรียบหรู เปรี้ยว แฟชั่นได้แตกต่างกัน ซึ่งการเลือกเมมเบอร์ Blackpink มาช่วยสื่อสารทั้งความเป็นแบรนด์และเพิ่มความนิยม ก็เป็นการตลาดที่ผลตอบรับดีไปทั่วโลกเลยค่ะ

#3 Sensen, Emotional

นอกจากเรื่องของ visual และ personality แล้วยังมีองค์ประกอบที่ช่วยทำให้ Brand Perception โดดเด่นแบบตะโกนได้อีก อย่างเช่นการใช้ Music Marketing หรือสินค้าที่เป็น Signatures 

ตัวอย่างที่ขึ้นมาในหัวคือ Lactasoy 5 Baht รถไอศกรีม Nestlé “ไอศครีมเนสเล่มาแล้ว มาเลย อร่อยกัน~” และ MK สุกี้ “กินอะไร กินอะไร กินอะไรไปกินเอ็มเค~” ใครอ่านเป็นทำนองสารภาพมาซะดี ๆ ค่ะ ^^ 

บางบริษัท เช่น ดิสนีย์ ถึงกับใช้กลิ่นและรสนิยมบางอย่างเพื่อกระตุ้นการตอบสนองเลย หรือในช็อป Channel ที่ใช้น้ำหอมรุ่น No.5 เพิ่ม Sensen ของแบรนด์ให้คนอินตามนั่นเอง

ส่วน Emotional นี่ต้องขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละแบรนด์เลยค่ะ มักเกิดจากประสบการณ์หรือการบริการลูกค้า หากแบรนด์มีการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม มึโฆษณาแบบไทยประกันชีวิตที่สมจริงสามารถปลูกฝังการตอบสนองทางอารมณ์จากกลุ่มเป้าหมายของนักการตลาดได้ 

ทั้ง 3 องค์ประกอบหลักที่จะช่วยให้แบรนด์เด่นแบบตะโกน ควรทำทำไปพร้อมกันทั้งหมด และยังมีรายละเอียดจำเพาะของแต่ละกรณี ที่ต้องดูเพิ่มด้วยนะคะ ในบทความนี้เป็นเพียงไกด์ชี้แนะเท่านั้น และเป็นเรื่องที่นักการตลาดอาจทราบกันแล้ว กลัวจะยืดเยื้อเกิน

มีเรื่องไหนที่นักการตลาดอยากให้เจาะเพิ่ม ลองคอมเมนต์กันมาได้นะคะ ^^

บทความที่แนะนำให้อ่านเพิ่มเติม

Noon Inch

นุ่น Business Data Research Analyst Specialist | Martech 🙋🏻‍♀️💻ใช้ชีวิตอยู่กับ Social Listening Tools เกือบทุกวันมาร่วม 6 ปี 🙋🏻‍♀️📈ทำงานด้าน Social Data Research ให้กับหน่วยงานรัฐและแบรนด์เอกชน 6 ปี 🙋🏻‍♀️✈️ชอบทำงานและชอบใช้เงิน แล้วก็เป็น K-POP🇰🇷 & Salmon Lover 🍣

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *