ใกล้เทศกาลวาเลนไทน์แล้ว ไม่รู้ว่าคุณกำลังเตรียมจะให้อะไรกับคนพิเศษในที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่างในปีนี้ เราลองมาดูกันหน่อยมั้ยครับว่าเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมาคนไทยเขาอยากได้อะไรมากที่สุด ระหว่าง ของขวัญ ช็อคโกแลต ดอกไม้ ดอกกุหลาบ และ ร้านอาหาร
Tag: Data Driven
กระแสการตลาดแบบ Personalization เริ่มเป็นที่พูดถึงกันมากขึ้นในหมู่นักการตลาดไทยในวันนี้ นักการตลาดส่วนใหญ่ยอมรับว่าการทำการตลาดแบบ Personalization นั่นเป็นเรื่องสำคัญมาก แต่ในขณะเดียวกันนักการตลาดส่วนใหญ่ก็ติดตรงที่ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดขึ้นจริงได้ และจะทำอย่างไรให้มันใช้งานได้จริงได้กับแผนงานการตลาดทั้งหมด วันนี้การตลาดวันละตอนก็เลยขอหยิบรายงานจาก Pure360 มาเล่าให้เพื่อนนักการตลาดฟังว่าแบรนด์ส่วนใหญ่ในวันนี้ยังติดอยู่กับการทำการตลาดแบบ Demo-Personalization ที่ยังใช้ Data พื้นฐานอย่าง
การจะทำการตลาดหรือธุรกิจให้เป็น Personalization ได้สำเร็จไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป สำหรับบริษัทไหนที่ต้องการจะทำเรื่องนี้ให้ได้ แต่ยังไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นทำอย่างไร วันนี้การตลาดวันละตอนมีรายงานเรื่อง 4 Keys Strategy จาก BCG มาเล่าให้ฟังว่าองค์กรชั้นนำที่ทำแล้วประสบความสำเร็จนั้นพวกเขามีแนวทางในการทำงานกันอย่างไร จากรายงานการวิเคราะห์ของ BCG บอกให้รู้ว่าพวกเขาได้ทำงานร่วมกับองค์กรชั้นนำที่ทำเรื่อง
Brand Individualization ที่จะพูดถึงในวันนี้ มาจากการทำธุรกิจหรือการตลาดแบบ Personalization ที่เริ่มเป็นถึงพูดถึงอย่างมากในหมู่นักการตลาดยุคใหม่ไปจนถึงผู้บริหารเจ้าของธุรกิจ และจากบทความเรื่อง The Power of Personalization ที่การตลาดวันละตอนเคยเขียนก็ส่งผลให้สำนักพิมพ์สนใจจนกลายเป็นหนังสือ Personalized Marketing การตลาดแบบรู้ใจขึ้นมา
ปกติเวลาร้านอาหารร้านหนึ่งจะเลือกเมนูใดเมนูหนึ่งขึ้นมาขาย หรือเอามาโปรโมตให้ลูกค้าเห็น ส่วนใหญ่มาจากการวางแผนล่วงหน้านานเป็นเดือนๆ ศึกษาข้อมูลการขายที่ผ่านมา และประสบการณ์ของผู้จัดการหรือเจ้าของร้านใช่ไหมครับ เช่น ถ้าช่วงหน้าร้อนแบบนี้เราจะเห็นเมนูประเภทมะม่วงเกลื่อนตลาดไปหมด หรือเมนูประเภทน้ำหวานๆ เย็นๆ ปั่นๆ เอามาโปรโมตกันกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ แต่รู้ไหมครับว่าร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง McDonald’s นั้นก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยการให้ AI มาเป็นผู้แนะนำเมนูที่ควรขายให้กับลูกค้าแต่ละรายที่ต่างกันไปครับ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาทางร้าน
ในบทที่แล้วที่เราพูดคุยกันว่าทำไมธุรกิจหรือแบรนด์ในวันนี้ควรต้องรีบเริ่มทำการตลาดแบบ Hyper-Personalization และความต่างระหว่าง Personalization กับ Hyper-Personalization นั้นต่างกันอย่างไร ตอนนี้เราจะมาดูกันว่ากรณีศึกษาจาก 4 แบรนด์ดังระดับโลก อย่าง Amazon.com Starbucks Spotify และ
การตลาดแบบ Hyper-Personalization สำคัญเพราะเราอยู่ในยุคที่ผู้บริโภคอยากรู้ทุกอย่าง และสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกเรื่องได้ด้วยปลายนิ้ว วันก่อนผมไปเดินซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน ยังเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเปิดเว็บเพื่อหาว่าจะซื้อน้ำปลายี่ห้อใหม่ดีไหม! คิดดูซิครับว่าขนาดแค่น้ำปลาที่มีแค่ความเค็มแถมยังราคาไม่กี่บาท ผู้บริโภคในวันนี้ยังอยากจะหาข้อมูลก่อนตัดสินใจเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้พลาดซื้อของผิดกลับบ้านไป และจากที่ผมได้เคยคุยกับเพื่อนๆ ในแวดวงเอเจนซี่โฆษณาก็พบว่า ลำพังแค่ครีมกันแดดขวดละไม่ถึงร้อยของแบรนด์ดังคนยังตั้งใจดูรีวิวกันมากมาย ดังนั้นจะเห็นว่าแค่แบรนด์ที่ดังหรือมี Awareness อย่างเดียวไม่เพียงพอที่คนจะหลับหูหลับตาเชื่ออีกต่อไป เพราะพฤติกรรมผู้บริโภค
เพราะ Personalization คือการที่ธุรกิจใครเข้าใจลูกค้ามากกว่าก็เป็นผู้ชนะ ดังนั้นถ้าคุณรู้ว่าลูกค้ากำลังอยากได้อะไรอยู่ หรือต้องการอะไรอีกบนเว็บไซต์คุณ คุณก็สามารถเปลี่ยนแค่ผู้ชมที่หลงเข้ามายังเว็บไซต์คุณไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ ให้กลายเป็นลูกค้าของคุณได้ง่ายขึ้น และก็อาจจะทำให้เค้ากลายเป็นแฟนพันธ์แท้ที่ต้องเข้ามาช้อปปิ้งที่เว็บคุณเป็นประจำก็ได้ครับ แต่..หลายธุรกิจส่วนใหญ่ในวันนี้ยังไม่ได้เริ่มทำเว็บไซต์ตัวเองให้ Personalization นั่นก็เพราะพวกเขาคิดว่ามันต้องยุ่งยากมากเกินไป ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วการจะทำเว็บไซต์เราให้ Personalization นั้นอาจไม่ได้ยากหรือซับซ้อนอย่างที่คิดก็ได้ครับ ดังนั้นวันนี้การตลาดวันละตอนเลยเอา
ลองจินตนาการดูสิว่า ถ้าชุดที่คุณใส่มาวันนี้สามารถเก็บข้อมูลได้เหมือน Smart watch ทั้งหลายจะเป็นอย่างไรด้วย Loomia เนื้อผ้าอัจฉริยะ Smart Clothes คุณอาจจะรู้จาก Data ว่า จากบรรดาชุด 50 ตัว
นี่คือ Color Trend 2020 หรือเทรนด์สีที่จะมาแรงในปีหน้า นั้นประกอบด้วย แดงลาวา เขียวอะควา และน้ำเงินแฟนทัม สามเฉดสีนี้แสดงถึงกระแสความนิยมที่หันไปสู่ความตระการตาและโทนสีฉูดฉาด จาก Big Data ของ Shutter