ยิ่งรู้จักลูกค้ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสเข้าใจและเข้าถึงเงินในกระเป๋าลูกค้ามากเท่านั้น ในวันที่การตลาดแบบ Digital Marketing กลายเป็นเรื่อง Traditional ไม่ใหม่อีกต่อไปเพราะใครๆ ก็ทำกัน การตลาดในยุคถัดจากนี้จะกลายเป็นเรื่องที่ว่าใครมี Data ลูกค้ามากกว่า มี Data ลูกค้าจากด้านอื่นๆ
Tag: Data Driven
จากบทความเรื่อง The Power of Personalization นักการตลาดยุคใหม่ต้องรู้ใจก่อนลูกค้ารู้ตัว ที่ได้เสียงตอบรับอย่างดีมากมายจากหลายฝ่าย จนตอนนี้การตลาดวันละตอนกำลังจะออกหนังสือเรื่อง Personalized Marketing กับสำนักพิมพ์อัมรินทร์ในเร็วๆนี้ครับ มาวันนี้ผมได้รับโจทย์ใหม่ที่ท้าทายขึ้นที่เหนือกว่านั่นก็คือ Hyper-Personalization คุณอาจกำลังสังสัยและคิดอยู่ในใจแบบนี้ว่า “อะไรฟ่ะ!
ในยุคของ Data-Driven หลายสิ่งหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นก็ทำให้การจับมือระหว่างสองธุรกิจเป็นไปได้มากขึ้น เมื่อ Wongnai ผู้กุม Data ร้านอาหารมากมายในไทย จับมือกับ Eatigo ผู้กุม Data คนที่พร้อมจ่ายก่อนกิน จนเกิดเป็นโอกาสใหม่ของทั้งสองธุรกิจ
Data Insight Driven Marketing เป็นคอร์สอบรมเรื่อง Data ล่าสุดจากสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ที่มีการตลาดวันละตอนเป็นส่วนหนึ่งของผู้สอนในวันงาน ต้องบอกก่อนครับว่าคอร์สนี้เริ่มจากความตั้งใจของคุณบังอร สุวรรณมงคล หรือพี่เอง (พี่เค้าชื่อเองครับ) ที่รู้จักกันเป็นการส่วนตัวว่าอยากจะชวนมาแชร์เรื่องเรื่อง Data ที่มาจากประสบการณ์จริง
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา การตลาดวันละตอนได้รับเกียรติจาก Wongnai บริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ที่คุ้นกับคนไทยมานานว่าตอนนี้พร้อมขยายธุรกิจสู่ผู้ให้บริการด้านดาต้าที่ชื่อว่า Wongnai Data Services ครับ เพราะ data ของวงในนั้นรู้ใจคนไทยไม่น้อยไปกว่าแพลตฟอร์มฝรั่งยักษ์ใหญ่
ในยุค Digital Marketing กำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติ และก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ Data Marketing ที่มี AI และ Machine Learning เป็นหัวใจสำคัญ วันนี้ผมมีเคสใหม่ที่เป็นการเอาเทคโนโลยีที่ว่าจากแบรนด์ดังอย่าง Subway
ในยุคของ Data ที่ทำให้นักการตลาดสามารถใช้งบได้แบบไม่ต้องหว่านและไม่ต้องเดา และ Data ที่เอามาใช้ก็ไม่ใช่ความลับที่ไหน แต่เป็น public data หรือข้อมูลสาธารณะที่ใครๆก็เอามาใช้ได้ แต่ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ตีความของผู้ใช้แต่ละคนครับ ทำให้การตลาดในยุคต่อไปจากนี้จะมีความเป็น mass communication น้อยลงทุกที
เทรนด์ data-driven เป็นสิ่งที่เข้าสู่ทุกหย่อมหญ้าจริงๆนะครับ เพราะไม่ใช่แค่ตลาดเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังลามไปถึงกลุ่ม skin care หรือครีมบำรุงดูแลผิวแล้วในวันนี้ ทำให้ธุรกิจในกลุ่ม skincare ต้องเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีทำใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่การออกสินค้าใหม่ ไปจนถึงรูปแบบการหารายได้ด้วย และก็เป็นเนื้อหาของวันนี้ที่เราจะพูดถึงเทรนด์เรื่อง Data-Driven
Data Driven Branding ที่จะเล่าให้ฟังในวันนี้ เป็นเรื่องของสินค้าที่แสนจะธรรมดาอย่างสบู่ Lifebuoy ที่สามารถเอาข้อมูลมาวิเคราะห์จนทำนายล่วงหน้าได้ว่า พื้นที่ไหนบ้างกำลังจะเกิดโรคระบาด แล้วก็โทรไปแจ้งเตือนให้ระวังและป้องกันด้วยการล้างมือให้บ่อยขึ้น จนส่งผลให้ผู้คนรู้สึกดีกับแบรนด์และยอดขายเพิ่มมากขึ้นครับ ในยุค data ที่ว่ากันว่านี่คือทรัพยากรเดียวที่ใช้แล้วไม่มีวันหมด แถมยิ่งใช้ก็ยิ่งพบคุณค่าใหม่ๆเพิ่มขึ้น เหมือนเคสของ
Data-Driven Culture กับ เงินติดล้อตามติด Data ว่าใครเป็นพนักงานที่ Popular ในหมู่พนักงานด้วยกัน แล้วก็ให้พนักงานนั้นเป็นตัวเชื่อมต่อสิ่งที่องค์กรอยากบอกไปถึงพนักงานทุกคนได้อย่างใจ จากงานเปิดบ้านรับสื่อแสดงวิสัยทัศน์และวัฒนธรรมองค์กรของเงินติดล้อเมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ผม(การตลาดวันละตอน)ได้รับคำเชิญจากเงินติดล้อ(ลูกค้าเก่าสมัยอยู่เอเจนซี่ที่หนึ่ง)ให้ไปร่วมงานนี้ เลยขอหยิบเอาบางส่วนในงานที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง ว่าแท้จริงแล้วเงินติดล้อองค์กรที่ดูติดดินนั้น