สื่อไทย 2024 เปิดภาพรวม AI & Fandom Marketing ยังคงมาแรง
สวัสดีนักการตลาดและผู้อ่านทุกคนค่า เปิดปี 2024 กันมาอย่างนี้ ในบทความนี้เลยอยากจะพามาดูแนวโน้มและความท้าทายในเรื่องของ สื่อไทย 2024 กันว่าในปีนี้จะมีความเคลื่อนไหวในวงการสื่อเป็นไปอย่างไรกันบ้าง เพื่อที่ทุกคนจะได้รับรู้และเตรียมพร้อมรับมือหรือปรับตัวให้ก้าวทันกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปกันนะคะ
อ้างอิงรายงานจากภูมิทัศน์สื่อไทย (Thailand Media Landscape 2023-2024) ซึ่งจัดทำโดยบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ผู้ให้บริการด้านมีเดียอินเทลลิเจนซ์ นำเสนอแนวโน้มข้อมูลและความเคลื่อนไหวของแพลตฟอร์มสื่อต่าง ๆ ตลอดจนมุมมองจากผู้บริหาร, นักวิชาการ, สื่อมวลชน, อินฟลูเอนเซอร์ และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในบทสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ
ซึ่งจะเป็นสิ่งที่เข้ามาช่วยปูทางให้เพื่อน ๆ ทุกคนสามารถเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในปี 2024 นี้ รวมถึงเป็นแนวทางในการกำหนดกลยุทธ์และเคล็ดลับในการผลิตคอนเทนต์และการตลาดได้นั่นเอง ถ้าพร้อมแล้ว ไม่รอช้า ตามมาดูกันเลยค่า
พาส่องเทรนด์ Generative AI
สื่อไทย 2024 นี้เริ่มต้นคือมีแนวโน้มว่าจะเป็นปีที่ต้องเผชิญกับความท้าทายสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นสื่อ รูปแบบการเสพสื่อ รวมถึงคอนเทนต์แบบ Fragmentation หรือหมายถึงคอนเทนต์ที่มีการแบ่งกลุ่มแยกย่อยและเฉพาะทางมากยิ่งขึ้น
รวมทั้งอัลกอริทึมของโซเชียลมีเดียและปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญญาประดิษฐ์แบบรู้สร้าง หรือที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีกับคำว่า Generative AI ที่เข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก
นับตั้งแต่ที่ได้มีการเปิดตัว ChatGPT เมื่อช่วงปลายปี 2565 Gen AI ในรูปแบบต่าง ๆ ก็ได้กลายเป็นประเด็นที่ทุกวงการพูดถึง อย่างในไตรมาส 2 และ 3 ของปี 2566 หัวข้อของการสัมมนาที่จัดขึ้นโดยองค์กรหรือบริษัทต่าง ๆ ในไทย จึงมีหัวข้อเกี่ยวกับบทบาทและความสำคัญของ AI ให้ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันโดยตลอด
และโดยส่วนใหญ่จะมองว่า AI เปรียบเสมือนเครื่องทุ่นแรงที่จะเข้ามาช่วยในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นตัวช่วยในการรวบรวมข้อมูล ตั้งโครงเรื่อง สร้างรูปประกอบคอนเทนต์ หรือแปลภาษา แต่ท้ายที่สุดแล้ว มนุษย์ก็ยังคงต้องเป็นผู้เขียนหรือสร้างคอนเทนต์ให้ออกมาได้อย่างที่ตนเองต้องการด้วยตัวเอง
ดังนั้นในทางกลับกันหากผู้ที่อยู่ในวงการสื่อ ไม่รู้จักปรับตัวและนําเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้อย่างสร้างสรรค์ก็อาจจะทำให้ต้องเจอกับความท้าทายจากการแข่งขันกับบรรดาคอนเทนต์ครีเอเตอร์ด้วยกันที่ใช้ AI เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลงานในระยะยาวนั่นเองค่า
Fandom Marketing ยังคงมาแรง และ Influencer ต้องมีความแตกต่าง
ในฝั่งของคอนเทนต์ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ ตลาดอินฟลูเอนเซอร์ยังคงเติบโตต่อเนื่องและมีขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากจำนวนผู้เล่นหน้าใหม่ที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ที่เข้าสู่วงการจำนวนมากภายหลังสถานการณ์โควิด
และแน่นอนว่าเมื่อมีจำนวนอินฟลูเอนเซอร์เพิ่มขึ้นและหลากหลายมากขึ้น ก็ทำให้ต้องแข่งขันกันและรู้จักทดลองทำคอนเทนต์ในหลากหลายรูปแบบ เพื่อแย่งชิงความสนใจจากผู้บริโภคนั่นเอง อินฟลูเอนเซอร์เองก็ต้องมีตัวตนที่แตกต่างและแท้จริง (Authenticity) เพื่อที่จะเฉิดฉายในวงการได้อย่างยาวนาน
ส่วนสำคัญอีกอย่างที่ยังคงนิยมและมาแรงในยุคนี้ นั่นก็คือเรื่องของ Fandom Marketing หรือคือกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ผ่านทางแฟนคลับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโซเชียลมีเดียที่ทำให้เกิดชุมชนหรือคอมมูนิตี้ของผู้ใช้งานขึ้นแล้วเกิดการพัฒนาไปสู่แฟนด้อม “ด้อม” หรือแฟนคลับ
อย่างในปี 2566 กระแสความแรงที่ทรงพลังของบรรดาแฟนคลับผู้คลั่งไคล้ในศิลปินไทยและต่างประเทศ อินฟลูเอนเซอร์ นักกีฬา นางงาม และกลุ่มวายหรือผู้ที่สนใจและชื่นชอบกลุ่มชายรักชาย ได้ปะทุออกมาเสมือนหนึ่งภูเขาไฟระเบิดหลังจากที่ต้องอัดอั้นในช่วงโควิด
ความเคลื่อนไหวของเหล่าด้อมจึงตอกย้ำให้เห็นถึงความมีอำนาจในการซื้อและสนับสนุนเจ้าของด้อมสูงมาก คือพร้อมสนับสนุนศิลปินหรืออินฟลูเอนเซอร์ในดวงใจจากหลายแคมเปญได้เป็นอย่างดี
หนึ่งแคมเปญที่ถูกกล่าวถึงในวงกว้างและประสบความสำเร็จจากพลังของ “แฟนด้อม” ในปี 2566 คือ “Lotus’s Anniversary 2023 ‘Golden Moment’ ฟินไม่พักกับพัคซอจุน” ที่ต้องการฉลองครบรอบ 30 ปีของโลตัส ซึ่งผู้ชนะอันดับ 1 ของแคมเปญมียอดใช้จ่ายสูงกว่า 78 ล้านบาทเลยทีเดียว
สรุปสำหรับทิศทางความเป็นไปของ “แฟนด้อม” ในปี 2567 จะเป็นยังไงนั้น การที่เจ้าของด้อมหรืออินฟลูเอนเซอร์จะอยู่รอดได้ท่ามกลางอินฟลูเอนเซอร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์หน้าใหม่ที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ด ก็เหมือนที่ได้กล่าวไปในตอนต้นว่าจะต้อง ‘มีความเป็นตัวเองและมีตัวตนที่แตกต่าง’ นั่นเองค่ะ จึงจะสามารถสร้างชุมชนและรักษาฐานแฟนคลับเอาไว้ได้
สื่อไทย 2024 Youtube เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมในการสร้างรายได้
ในขณะที่สื่อมวลชนส่วนใหญ่ต่างนำเสนอคอนเทนต์ผ่านแพลตฟอร์มสื่อที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Youtube, Instagram, X, LINE และ TikTok ทำให้สื่อแต่ละสำนักมีความได้เปรียบในเรื่องของแพลตฟอร์มที่ไม่แตกต่างกัน ดังนั้น สื่อไทย 2567 จึงเป็นปีที่เรียกได้ว่าทุกคนมีความพร้อมที่จะแข่งขันนั่นเอง
ส่วนโซเชียลมีเดียนั้น Facebook Youtube และ TikTok ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถครองใจผู้ใช้โซเชียลมีเดียในไทย ขณะที่ Youtube เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมในการสร้างรายได้
ยังไงก็ตามการที่ TikTok เข้าสู่วงการอีคอมเมิร์ซและผลักดันให้กระแส Live-Commerce หรือการไลฟ์ขายของออนไลน์ถูกใจผู้ใช้งานติ๊กต๊อกในไทยกันอย่างล้นหลาม เพราะคนก็ชื่นชอบการชอปปิ้งออนไลน์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าติดตามเช่นเดียวกันค่า
และท้ายที่สุดสื่อดั้งเดิมอย่างทีวีดิจิทัลก็ยังคงเป็นสื่อที่ได้รับความสนใจจากเอเจนซี่ และผู้ให้บริการทีวีดิจิทัลเองก็ได้ใช้ความพยายามในการสร้างคอนเทนต์และต่อยอดธุรกิจ เพื่อสร้างรายได้และกระจายความเสี่ยง หลังจากที่งบโฆษณาที่ได้รับยังคงทรงตัว
สื่อไทย 2024 เปิดภาพรวม AI & Fandom Marketing ยังคงมาแรง
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับในบทความนี้ที่ได้พามาดูภาพรวมความท้าทาย สื่อไทย 2024 กัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ AI ที่ยังคงมาแรง หากผู้ที่อยู่ในวงการสื่อไม่รู้จักปรับตัวและนําเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้อย่างสร้างสรรค์ ก็อาจจะทำให้อยู่ในวงการแห่งการแข่งขันนี้อย่างลำบากนะคะ
รวมถึง Influencer ที่ยังคงล้นเมือง จึงต้องโฟกัสกับการสร้างความแตกต่างและเป็นตัวของตัวเอง และกลยุทธ์สำคัญที่ไม่ควรลืมอย่าง Fandom Marketing ที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความมีอำนาจในการซื้อและความพร้อมสนับสนุนศิลปินหรืออินฟลูเอนเซอร์ในดวงใจ
อีกทั้งช่องทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ที่ยังคงได้รับความนิยมในไทย และแพลตฟอร์มสร้างรายได้ยอดฮิตอย่าง Youtube จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้ามและหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้ธุรกิจตนเองกันในปี 2024 นี้นะคะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย และสามารถอ่านภาพรวมภูมิทัศน์สื่อไทยได้ที่ https://www.dataxet.co/media-landscape/2024-th รวมถึงบทสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ https://www.dataxet.co/media-landscape/2024-th/thai-media-trends
และสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram Twitter Youtube และ Blockdit ได้เลยค่า
