Cartier เปิดตัวนาฬิกาหรู Tank Louis Cartier Bangkok พิเศษสำหรับไทย
สวัสดีนักการตลาดและนักอ่านทุก ๆ ท่านครับ จากข่าวที่ Cartier แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศส เปิดตัว Tank Louis Cartier Bangkok เรือนเวลาที่รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับประเทศไทยไป ก็เป็นที่น่าจับตามองกันอย่างมากเลยหล่ะครับสำหรับคนรักนาฬิกา แฟนตัวยง Cartier และนักการตลาดแบบผมด้วย บทความนี้จะพาไปชมและวิเคราะห์ไปด้วยกันครับ
ความเป็นมา Tank Louis Cartier
ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหาการวิเคราะห์ในบทความนี้ ผมขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Tank Louis Cartier จากแบรนด์ Luxury ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการตีตลาดประเทศไทยอย่าง Cartier กันก่อนดีดว่าครับ จะได้เข้าใจเนื้อหาของบทวิเคราะห์ได้ดีมากยิ่งขึ้น
นาฬิกาตระกูล Tank เป็นหนึ่งในผลงานชิ้น Iconic ของ Cartier มาตั้งแต่ปีค.ศ. 1917 ซึ่งเป็นปีที่ Louis Cartier ได้รังสรรค์นาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขึ้นจากความประทับใจในรูปทรงของรถถังฝรั่งเศส ด้วยรูปทรงเรขาคณิตของหน้าปัดและกรอบคู่แนวตั้งขนาบตัวเรือน ที่ดูคล้ายภาพจำลองของรถถังเมื่อมองจากมุมสูง ทำให้ดีไซน์ของแทงก์มีความโดดเด่นล้ำสมัย ต่างกับนาฬิกาส่วนใหญ่ในยุคนั้นที่มีหน้าปัดทรงกลม
ต่อมาในปี 1922 Cartier ได้รังสรรค์นาฬิกา Tank Louis Cartier ที่ยังคงเอกลักษณ์ดีไซน์เรขาคณิตของ Tank แต่แตกต่างที่กรอบข้างตัวเรือนมีความโค้งมนมากขึ้น สร้างความสมดุลจนพิชิตใจคนรักนาฬิกาทั่วโลก ไล่เรียงตั้งแต่สมาชิกราชวงศ์ ไปจนถึงบุคคลชั้นนำ และ Louis Cartier ผู้สวมใส่นาฬิการุ่นนี้เป็นประจำจนเป็นที่มาของชื่อรุ่น
สรุปได้ว่า ด้วยความโดดเด่นและแตกต่างของ Tank Louis Cartier ที่ดีไซน์แตกต่างจากนาฬิกาในยุคสมัยนั้น อีกทั้งยังเป็นที่ถูกใจของสมาชิกราชวงศ์ ไปจนถึงบุคคลชั้นนำอีกต่างหาก จึงทำให้ Tank Louis Cartier มีความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้
Tank Louis Cartier กับ Bangkok อย่างไรให้ลงตัว
ในเนื้อหาต่อไปนี้ผมจะพามาวิเคราะห์กันครับว่าทำไม Tank Louis Cartier จึงมา X กับ Bangkok และทำอย่างไรถึงลงตัว จริง ๆ ก็ไม่ใช่เหตุผลหลักที่ซับซ้อนอะไรมากไปกว่า 2 เหตุผลนี้เลยครับ
1. ภาพลักษณ์
Tank Louis Cartier หลาย ๆ Collection ที่ผ่านมาหน้าปัดส่วนใหญ่เป็นสีทอง และเป็นแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์หรูหลายสไตล์ย้อนยุคเหมาะกับสีทองอยู่แล้ว มาผสานเข้ากับสมญานามของประเทศไทย “The Golden Kingdom” ดังนั้นจึงเป็นอะไรที่เข้ากันได้อย่างลงตัวได้อย่างไม่น่าสงสัยเลยครับ
โดยนาฬิกาได้เลือกใช้โทนสีทองที่สื่อถึงวัฒนธรรมไทย เช่น วัด หรือสิ่งปลูกสร้างทางวัฒนธรรมอื่น ๆ ที่นิยมใช้สีทอง ขณะที่ยังคงเอกลักษณ์ความสมดุลด้านดีไซน์และความสง่างามไร้กาลเวลาของเรือนเวลาตระกูล Tank ไว้อย่างครบครัน พร้อมตอกย้ำความพิเศษของเรือนเวลารุ่นนี้ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 67 เรือนเท่านั้น
สำหรับวัสดุที่ใช้บริเวณหน้าปัดคาร์เทียร์เลือกใช้ทองคำซึ่งมาพร้อมคุณสมบัติที่แข็งแรงทนทานและเต็มไปด้วยความหรูหราโดยนำไปผนวกเข้ากับเทคโนโลยีของการเลเซอร์ที่มีความแม่นยำสูงแกะสลักหน้าปัดเป็นลวดลาย Sunray ที่แผ่กระจายความงดงามจากจุดศูนย์กลางดั่งการกระจายแสงของพระอาทิตย์ สร้างมิติสุดละลานตาให้กับนาฬิกาเรือนนี้
มาพร้อมเม็ดมะยมประดับเพชร และอีกหนึ่งรายละเอียดสุดพิเศษของเรือนเวลารุ่นนี้ คือฝาตัวเรือนด้านหลังที่สลักคำว่า BANGKOK และ LIMITED EDITION OF 67 PIECES (ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 67 เรือน) โดยรหัส 67 สื่อถึง ปี พศ. 2567 ของประเทศไทย นับเป็นชิ้นงานทรงคุณค่าที่น่าสะสมเป็นอย่างยิ่ง
2. เอาใจลูกค้า
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลายปีมาแล้วที่ Cartier เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย และไม่เคยเสื่อมความนิยมเลยในหมวดหมู่เครื่องประดับในฐานะที่เป็นแบรนด์ระดับ Luxury ที่ราชนิกุลทั่วโลกเองก็ยังใช้ โดยเฉพาะนาฬิกา Cartier ที่มีภาพลักษ์ที่หรูหราย้อนยุค
ในปัจจุบัน Cartier เองก็มีสินค้าที่มากมายที่มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นเพื่อให้เหมาะกับคน Gen ใหม่ ๆ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีอย่างที่คาดไว้ทำให้ Cartier มีฐานลูกค้าหลายกลุ่มในประเทศไทย และส่วนใหญ่ค่อนข้างที่จะมีเงินอยู่แล้ว
ต้องยอมรับว่ากลุ่มลูกค้าของ Cartier เป็นกลุ่มที่มี Brand Loyalty ที่สูงมากครับ ดังนั้นการที่มีการออก Collection พิเศษ และใช้กลยุทธ์การขายแบบ LIMITED EDITION อีกทั้งยังเป็น Louis Cartier X BANGKOK ด้วย สิ่งนี้คงจะสามารถดึงดูดลูกค้า Loyalty รวมถึงกลุ่มนักสะสม ในไทยได้ไม่น้อยเลยหล่ะครับ
สรุป
การที่สามารถดีไซน์เป็น Collection Bangkok ได้เพราะภาพลักษณ์ที่เป็นสีทองอร่ามที่ตรงกัน อีกทั้ง Cartier เองก็ต้องการเอาใจกลุ่มลูกค้าชาวไทยด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม
ความสำเร็จของ Tank Louis Cartier รุ่นแรกเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการปรับเปลี่ยนและตีความใหม่อีกหลายครั้ง Tank Louis Cartier Bangkok คือผลลัพธ์จากการตีความครั้งล่าสุดที่โดดเด่นสะดุดตาแต่แรกเห็น ด้วยตัวเรือนขนาด 33.7 x 25.5มม. เพรียวบางเพียง 6.6 มม.
ซึ่งเป็นขนาดเดียวกับแทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ รุ่นลาร์จโมเดล แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยตัวเรือนและหน้าปัดโทนสีทอง นอกจากนี้การเล่นกับพื้นผิวอย่างมีชั้นเชิงบริเวณหน้าปัด ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเรือนเวลารุ่น Tank Must Vermeil จากปี 1980 ยิ่งทำให้เรือนเวลารุ่นนี้โดดเด่น และเต็มไปด้วยเอกลักษณ์พิเศษ
นอกจากความสุนทรีย์ที่มองเห็นได้จากภายนอก เรือนเวลาสุดพิเศษเรือนนี้ยังโดดเด่นด้วยกลไกการทำงานระบบจักรกลไขลานด้วยมือ คาลิเบอร์ 1917 MC พร้อมพลังสำรองลาน 38 ชั่วโมง ทนแรงดันน้ำได้ถึง 3 บาร์ (30 เมตร) สายสามารถถอดเปลี่ยนได้ถึง 2 แบบ ทั้งสายหนังจระเข้สีดำ และสายหนังจระเข้สีน้ำตาล
เรือนเวลาดังกล่าววางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 497,000 บาท
บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ
ไหน ๆ ก็พูดถึง Cartier ที่เป็น Luxury บทความที่แนะนำให้อ่านต่อคือวิธีการทำ Line Marketing สำหรับ Luxury Brand 2024 ครับ