การตลาด CJ WORX Agency ปรับตัวยังไงในยุค Semi-Century

การตลาด CJ WORX Agency ปรับตัวยังไงในยุค Semi-Century

ทุกวันนี้หากจะมองหาทางรอดของ Agency อาจไม่ใช่แค่การคิดงานโฆษณาอีกต่อไป แต่ต้องเป็นนักแก้ปัญหาธุรกิจด้วยความคิดสร้างสรรค์ การตลาด CJ WORX Group กับบทบาทใหม่ของเอเจนซีในปีที่ 14 ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป กับเป้าหมายที่ทุกแคมเปญคือยอดขายต้องปัง

จาก Big Idea เป็นหลักใหญ่สำคัญในการคิดงานของเอเจนซีโฆษณา วันนี้เปลี่ยนมาเป็นแพลตฟอร์มใหญ่กว่า ถ้าเอเจนซียังไม่ปรับเปลี่ยน ปีนี้และต่อไป คงไม่จำเป็นมีเอเจนซีโฆษณาก็ได้

คุณชวนา กีรติยุตอมรกุล ดำรงตำแหน่ง Managing Director จาก CJ WORX Group

ในบทความนี้จะพาทุกคนพามาดูมุมมองของคุณชวนา ที่ได้เล่าถึงประสบการณ์ผ่านร้อนหนาวมาตั้งแต่ยุค MSN ,Facebook เติบโตในสายงานตรง ตั้งแต่ตำแหน่ง Client Service มาจน Strategic Planning Director จนมาเป็นหนึ่งในผู้บริหารของ CJ WORX Group เอเจนซีสัญชาติไทยที่สร้างการเปลี่ยนแปลงสั่นสะเทือนให้วงการโฆษณาไทยอยู่บ่อยครั้งกันค่ะ

ทุกวันนี้เทคโนโลยีต่าง ๆ ส่งตรงไปถึงผู้บริโภคได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยขึ้น ไม่ว่าจะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหรือจะเป็นระบบ IOT (Internet Of Things) เครือข่ายของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกัน รวมถึงการมี DATA จากหลากหลายแหล่งในโลกออนไลน์ ทั้งหมดนี้ก็ส่งผลให้เราสามารถเข้าถึงตัว Consumers ได้โดยตรง

เทคโนโลยีเอื้อให้เกิดความสามารถที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม จากที่สมัยก่อนหากอยากทำงานหรือมีความถนัดในสายงานไหน ก็ต้องเรียนคณะเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็น นิเทศศาสตร์ การบริหารการตลาด ฯลฯ ถึงจะทำให้โตมาในสายงานอย่างทุกวันนี้ 

แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีมันสะดวกสบายและเอื้อให้คนมีความสามารถหลากหลายขึ้น อย่างหากไม่ได้เรียนมาโดยตรง แต่อยากจะตัดวิดีโอ ก็มีแอปพลิเคชันอย่าง Capcut ที่เราสามารถเรียนรู้ได้ หรือหากจะทำการตลาดของแบรนด์ตัวเองก็มีซอฟต์แวร์อย่าง MarTech เป็นตัวช่วย ฯลฯ

การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรม ทั้งนี้ก็แยกไม่ขาดว่ามนุษย์เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี หรือเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมนุษย์ แต่ถ้าหาบทสรุปจากหนังสือ Sepiens พบว่า มนุษย์ต่างหากที่ทำให้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป เพราะมนุษย์เป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยีจนเกิดการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ตามมานั่นเองค่ะ

สรุปแล้วทั้ง 3 ปัจจัยสำคัญนี้ที่เป็นตัวนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ Semi-Century ของ CJ WORX Group และในส่วนต่อไปจะพาทุกคนมาดูแกนหลัก 3P ที่น่าจับตาดูของเอเจนซีโฆษณายุคใหม่กับการเปลี่ยนแปลงนี้ที่เกิดขึ้นค่ะ

จากการมีจุดยืนที่เชื่อว่า CJ WORX ไม่ใช่แค่นักโฆษณาเท่านั้น แต่คือนักคิด นักแก้ปัญหาธุรกิจด้วยความคิดสร้างสรรค์ เพื่อแก้ไขและตอบโจทย์ให้ธุรกิจของลูกค้า ดังนั้นเมื่อความเชื่อและ Value เปลี่ยนไป จึงส่งผลต่อแนวทางการทำงานต่อไปทั้งหมดที่สอดคล้องกันด้วย

ไม่ใช่ว่าลูกค้ามาหา แล้วจะทำเพียงแคมเปญโฆษณา ทำหนัง ทำบิลบอร์ดแล้วจบ แต่จุดยืนที่เปลี่ยนไป กระบวนการทำงานก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย กลายเป็น Creativity For Business Solution

เริ่มตั้งแต่การคำถามไปกับแบรนด์ เช่น

  • อะไรคือ Business Challenge
  • อุปสรรคที่ทำให้แบรนด์ไม่โต
  • ต้องการยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าไหร่

ซึ่งอาจไม่ใช่ต้องการเป้าหมายแค่การรับรู้หรือ Awareness เท่านั้น แต่เป็นการเพิ่มการรับรู้ที่ควบคู่กับยอดขายไปพร้อมกันด้วย ภาพยนตร์โฆษณาก็อาจไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป แต่อาจเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่มีชั้นเชิงมากขึ้น เพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำมากขึ้น อย่างการนำชิ้นงานโฆษณาไปใกล้ ณ จุดขายเพิ่มมากขึ้น ก็เป็นอีกวิธีที่ต้องสร้างสรรค์นำมาใช้ด้วย

เมื่อถึงยุคที่คนคิดโฆษณาในเอเจนซี เปลี่ยนเป็นผู้แก้ปัญหาทางธุรกิจด้วยความคิดสร้างสรรค์ โดยอยู่บนฐานที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้จริงได้ เมื่อจุดยืนและทิศทางของ CJ WORX เปลี่ยนไป ดังนั้นแน่นอนว่าผู้ที่มาร่วมงานก็ไม่ใช่เพียงทำหน้าที่และมีวัตถุประสงค์การทำงานแบบเดิม ๆ

คุณชวนายกตัวอย่างว่า Creative ที่สามารถวิเคราะห์การตลาดได้ด้วย ,ดู DATA ได้มากขึ้น พร้อมกับนำข้อมูลเหล่านี้ มา Story Telling เพื่อตอบโจทย์ปัญหาของธุรกิจนั้น ๆ 

หรืออย่างทีมมีเดียเองก็ตาม จะต้องเป็น Media Specialist For Business Result เปลี่ยนจาก KPI คือ Reach ,Engagement และ Conversion แต่เมื่อคิดเป็นธุรกิจมากขึ้นก็จะต้องมุ่งไปที่ผลลัพธ์ 

และต่อให้ต้องการ Reach แต่ต้องทำ Conversion เพื่อบ่งบอกถึงการกระทำอะไรบางอย่างของกลุ่มเป้าหมาย ว่าได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่เราต้องการแล้วด้วยเช่นกัน

จากเดิมที่เอเจนซีเป็นเพียงแค่คิดโฆษณา แต่ทุกวันนี้เราต้องมีทรัพย์สินที่เป็นเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เหมือนของวิเศษในมือเราที่ที่อื่นไม่มี ซึ่งจากผลงานและประสบการณ์ความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ CJ WORX มีสินค้าหรือบริการที่มีแค่เฉพาะเราเท่านั้น

ยกตัวอย่างผลงานที่ส่วนตัวคุณชวนามีประสบการณ์ทำแคมเปญ Automotive ยนตรกรรมมากว่า 17 ปี เรียกว่าจะทำมาเกือบทั้งชีวิต คำถามจึงเกิดขึ้นว่า ทำไมเราถึงไม่ใช้ความชำนาญนี้ มารวบรวมให้เป็นผู้แก้ไขปัญหาทางธุรกิจให้กับลูกค้ากลุ่ม Automotive

เพราะในอนาคต การมีความโดดเด่น มีสินทรัพย์ทางปัญญาที่เป็น Signature จากความสามารถและประสบการณ์ของเราเอง น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด 

อาจจะไม่ใช่ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคหรือสินค้าอะไรที่วางขาย แต่คือ ‘บริการจากความคิดสร้างสรรค์’ ที่ CJ WORX นำมาใช้เป็นจุดขาย

จากที่แบรนด์ไม่ได้ต้องการผู้ทำภาพยนตร์โฆษณา แต่ต้องการคนช่วยแก้ปัญหาทางธุรกิจ CJ WORX Group จึงมีแผนกใหม่ชื่อว่า Marketing and Partners เพราะ Marketing เหมือนหลักวิทยาศาสตร์ที่สามารถนำหลักการมาพิสูจน์ได้ แต่เมื่อนำความคิดสร้างสรรค์ไปหล่อรวมกันแล้ว การแก้ไขปัญหาให้แต่ละธุรกิจย่อมไม่เหมือนใคร

นอกจากนี้อีกทั้งประสบการณ์ในวงการโฆษณาที่สั่งสมมากว่า 30 ปีของบุคลากร ทำให้มี Partners มากมายทั้งในแวดวง FMCG ,Health Care และ Food กลายมาเป็น Partner คู่คิดคนสำคัญในการผลักดันให้สามารถพิชิตยอดขายได้ในหลากหลายประสบการณ์ต่างวงการ 

ซึ่ง CJ WORX Group มี Partner ที่พร้อมมากใน 3 แวดวงธุรกิจทั้ง ยานยนต์ ,FMCG สินค้าอุปโภคบริโภคทั้งหลาย และ Health Care สินค้าสุขภาพ

ในเมื่อการทำการตลาดด้วยการใช้เทคโนโลยีมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ หน้าที่ของเอเจนซีที่เป็นนักคิด ก็ต้องเปลี่ยนเป็นผู้ให้คำตอบการแก้ไขปัญหาทางธุรกิจให้ได้ ไม่ใช่จบหน้าที่แค่ยิงภาพยนตร์โฆษณา หรือจบ Event แล้วจบกัน 

แต่คิดต่อยอดเป็นระบบ พยายามเปลี่ยนจากกลุ่มเป้าหมายธรรมดา มาเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีคุณภาพ ที่อาจสนใจซื้อสินค้าและบริการของเราในอนาคต หรือสามารถเพิ่มยอดขายได้จากระบบ CRM ทั้งหลาย

นอกจากนี้ก็ต่อยอดจากกลุ่มเป้าหมายที่ไปร่วมงาน Event เหล่านี้ ใช้ระบบต่าง ๆ มาต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้ระบบนั้นทำหน้าที่ในการค้นหาอัตลักษณ์ของกลุ่มลูกค้าของเราในอนาคต (identify Prospect) รวมถึงการ Convert เป็นยอดขาย 

และที่สำคัญการใช้เทคโนโลยียังช่วยวัดผลความคิดสร้างสรรค์ที่ได้นำมาใช้แก้ไขปัญหาทางธุรกิจได้ด้วยว่าสัมฤทธิ์ผลมากน้อยแค่ไหน

การแก้ไขปัญหาทางธุรกิจด้วย DATA ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ CJ WORX คุณชวนาบอกว่าเมื่อปรับแนวคิดของสมาชิกทุกคนในแผนกให้เป็นแบบหา Solution เพื่อแก้ปัญหาทางธุรกิจ ทำให้วิธีการวางผลลัพธ์ก็เปลี่ยนไป 

จากเดิมที่วางไว้ว่า ต้องได้ Awareness ,Engagement ,Conversion จากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ก็เปลี่ยนเป็นการเรียนรู้ เพื่อนำ DATA ไปประยุกต์ใช้แบบยั่งยืน

การใช้มีเดียบ่อย ยิงโฆษณาบ่อย เราต้องได้เรียนรู้ โดยเฉพาะ Behavioral DATA หรือข้อมูลพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่ยิ่งยิงโฆษณา ยิ่งโดนบล็อก หรือยิงแบบ One-Time แล้วจบกันไป 

แต่เมื่อนำ DATA มาพัฒนาในแบบฉบับของ CJ WORX Group จึงจะเป็น Proprietary Media หรือมีเดียที่เป็นเอกลักษณ์กรรมสิทธิ์เฉพาะของเรา ที่สร้างให้ Audience ไม่ได้มาจาก Interest หรือความสนใจเท่านั้น แต่ Audience มาจากพฤติกรรมของพวกเขาจริง ๆ

เพราะพฤติกรรมเหล่านี้เป็นตัวบ่งบอก Next Best Action คือสิ่งที่คนนี้จะทำอะไรต่อไป นี่ต่างหากที่เป็นสิ่งที่นักการตลาดและแบรนด์ทั้งหลายต้องการทราบ

การตลาด CJ WORX Agency ปรับตัวยังไงในยุค Semi-Century

แม้ DNA ของ CJ WORX Group ยังคงเป็นความคิดสร้างสรรค์ แต่คงไม่ใช่แค่การจำกัดว่าคือชิ้นงานโฆษณาแบบที่ผ่านมาอีกต่อไป เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปไว พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนชั่วพริบตาเช่นกัน 

ดังนั้นหากธุรกิจไม่ตระหนักและปรับตัวให้รวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ การจะก้าวสู้ปีต่อ ๆ ไปก็คงยิ่งเป็นเรื่องที่ยากและหนักหน่วง สำหรับทุกธุรกิจด้วยเช่นกัน ไม่เว้นแต่แวดวงการตลาดโฆษณาที่เม็ดเงินมหาศาลอย่างเอเจนซี

หวังว่าทุกคนจะได้ความรู้ดี ๆ และประโยชน์กลับไปไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่า และสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอนที่ เว็บไซต์ Facebook  Instagram Twitter และ Youtube ได้เลย

Fern Panassaya

เฟิร์น Junior Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *