การตลาด Samsung Smart Home ชู One Stop Service สร้าง Customer Experience
สวัสดีนักการตลาดและนักอ่านทุกคนค่า ในบทความนี้จะพามาดู การตลาด Samsung Smart Home ชู One Stop Service ยกระดับ Customer Experience กับการมัดรวม How-to มือใหม่เปลี่ยนบ้านให้ Smart โดยชวนทุกคนมาเริ่มต้นเปลี่ยนจากมุมเล็ก ๆ กัน ไม่ว่าจะไลฟ์สไตล์แบบไหนก็สามารถใช้ชีวิตแบบสมาร์ทได้ง่าย ๆ ผ่านแอป SmartThings
ชวนดูเทรนด์ Smart Home เติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่าในโลกที่สภาพแวดล้อมนั้นเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีก็ได้มีส่วนสำคัญที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรากันมากขึ้นอย่างที่ทุกคนเห็น
ผู้เขียนขออนุญาตอ้างอิงข้อมูลจาก thebusinessplus กับข้อมูลเชิงสถิติของการเติบโตในตลาด Smart Home ในภาพรวมปี 2022 ที่ผ่านมา ที่ผ่านมารายได้ของตลาด Smart Home ทั่วโลกเติบโตได้สูงถึง 17.5% และโดยปกติอุตสาหกรรมนี้ก็เติบโตเฉลี่ยค่อนข้างสูง
ยกตัวอย่างการประเมินจาก Statista ที่คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ในช่วงปี 2022-2027 จะอยู่ที่ 12.47% ต่อปี ซึ่งอัตราการเติบโตระดับนี้ จะทำให้รายได้จากตลาด Smart Home ทั่วโลกขึ้นมาสู่ระดับ 222.90 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2027 เลยทีเดียวค่ะ
แต่แม้ว่าเทรนด์เรื่อง Smart Home จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีที่ผ่านมา แต่ความเข้าใจของผู้บริโภคคนไทยกับ Smart Home ส่วนใหญ่ยังมองว่ามีข้อจำกัดอยู่
เช่น ถูกมองว่าเป็นความยุ่งยากในการใช้งาน มีหลายแพลตฟอร์มที่ต้องดาวน์โหลด และยังมีค่าใช้จ่ายการซื้ออุปกรณ์เพิ่ม แต่จริง ๆ แล้วการมี Smart Home นั้นไม่ยากและไม่แพงอย่างที่คิดค่ะ
ในส่วนต่อ ๆ ไปที่จะเล่าให้ฟังกันต่อกับเรื่องของ การตลาด Samsung Smart Home ทุกคนจะเห็นได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องยาก แค่มีแอป SmartThings ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมมาก มีผู้ดาวน์โหลดใช้งานแล้วถึง 310 ล้านคนทั่วโลก และ 2.7 ล้านคนในประเทศไทย มือใหม่ที่เพิ่งหันมาเข้าวงการนี้ก็สามารถเริ่มต้นทำ Smart Home ได้เช่นกัน
Samsung Smart Home : SmartThings ดียังไง ทำอะไรได้บ้าง?
Samsung จึงได้สร้างสรรค์แอป SmartThings ขึ้นมาสำหรับชาว Smart Home เรียกได้ว่าเป็น One Stop Service มีแค่แอปเดียวก็สามารถจัดการครอบคลุมได้ทั้งบ้าน เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับบ้านของเราจริง ๆ
การตั้งค่าก็ง่ายไม่ยุ่งยาก ใช้งานสะดวกสบายตามแบบฉบับของซัมซุง SmartThings เช่น ช่วยตั้งค่าอัตโนมัติให้กับพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ภายในบ้าน รวมไปถึงการตั้งค่าการเปิด-ปิดอัตโนมัติในแต่ละวัน เพิ่มความสะดวกสบายและช่วยประหยัดพลังงาน
ต่อมาเรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าแอป SmartThings ทำอะไรได้บ้าง จะช่วยให้ชีวิตที่แสนวุ่นวายของทุกคนนั้นง่ายขึ้นยังไง พร้อมแล้วไม่รอช้า ตามมาดูกันต่อค่ะ
1. สร้างบรรยากาศ
แน่นอนว่าวันสบาย ๆ อยากพักผ่อนอยู่บ้านทั้งที ก็อยากจะสร้างบรรยากาศและดื่มด่ำกับประสบการณ์ความบันเทิงที่เหนือกว่าปกติ ลองคิดดูซิคะว่าจะฟินแค่ไหนถ้าขณะที่กำลังชมภาพยนตร์สุดโปรด ก็สามารถควบคุมทีวีและแสงไฟในห้อง เพื่อเพิ่มอรรถรสการดูหนังของทุกคนได้
2. ตรวจดูประตูหน้าบ้าน
ทุกคนสามารถแอบส่องแอบตรวจดูประตูหน้าบ้านจากทีวีได้อย่างสะดวกมาก ถ้ากำลังทำสิ่งอื่นอยู่แล้วมีคนมาหาก็ไม่ต้องลุกไปดูให้เสียบรรยากาศและขาดตอน ไม่ว่าจะอาหารที่สั่งแล้วมาส่ง หรือเพื่อนมาถึงหน้าบ้านแล้วก็ตาม
ไม่จำเป็นต้องวางมือจากการทำอาหาร หรือสามารถนอนดูหนังต่อได้แบบฟิน ๆ ไม่ต้องกังวลใจ เพราะสามารถกดปลดล็อคประตูจากมือถือได้เลย สะดวกสบายมาก
3. ดูแลน้อง ๆ สัตว์เลี้ยง
อีกหนึ่งสมาชิกคนสำคัญในบ้าน ที่เปรียบเสมือนหนึ่งในสมาชิกครอบครัวของเรา ก็คือน้อน ๆ สัตว์เลี้ยงนี่เอง แต่เวลาที่เราต้องไปข้างนอกแล้วจำเป็นต้องให้น้องสัตว์อยู่บ้านตามลำพัง คงจะดีกว่าถ้าเราสามารถดูแลเองได้แม้ตัวจะไม่ได้อยู่ในบ้านก็ตาม
ซึ่งซัมซุมก็จัดให้ค่ะ เราสามารถดูแลน้อง ๆ สัตว์เลี้ยงได้ตลอดเวลาที่อยู่นอกบ้าน ติดตาม แอบดูสัตว์เลี้ยงแสนซนด้วย BESPOKE Jet Bot AI + หรือ กล้อง Smart Camera ที่เชื่อมต่อกับ SmartThings เปิดแอร์-เปิดไฟให้น้องได้จากนอกบ้านเลย เย็นฉ่ำ สบายกายสบายใจทั้งน้อน ๆ และเจ้าของก็สบายใจอีกด้วย
4. ออกแบบสุขภาพ
ในเรื่องของสุขภาพก็สำคัญไม่แพ้สิ่งใด ซัมซุงมองเห็นและทำให้เราสามารถออกแบบสุขภาพดี ๆ ให้เป็นกิจวัตรได้ โดยให้ทุกคนได้วางท่าทางการออกกำลังกายที่ถูกต้อง พร้อมตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจและปริมาณแคลอรี่ที่เบิร์นไปขณะออกกำลังกาย ด้วย Galaxy Watch 6
ยังไม่จบเท่านั้น หลังออกกำลังกายแล้ว ก็เปิดดูเมนูอาหารสุขภาพใน SmartThings Cooking ที่มีสูตรมื้ออาหารสุขภาพมากมาย มีตัวช่วยดี ๆ แบบนี้เรียกได้ว่าทะยานทะลุเป้าหมายได้เร็วยิ่งขึ้นแน่นอน
5. กำหนดตารางเวลาการซักผ้า
สำหรับสายพ่อบ้านแม่บ้าน เขาก็ให้ความสำคัญนะ ให้ทุกคนสามารถกำหนดตารางเวลาการซักผ้าได้ รับรองผ้าหอมและสะอาดชัวร์~ ที่สำคัญสามารถตั้งค่าการซักผ้าให้เสร็จได้ทันทีเมื่อถึงบ้านอีกด้วย ไม่เสียเวลาฟรี ๆ แน่นอน
6. ดูแลคุณภาพอากาศ
ดูแลคุณภาพอากาศให้สมาชิกในครอบครัวได้แม้ตัวจะไม่อยู่บ้าน ทุกคนสามารถเปิดเครื่องปรับอากาศจากนอกบ้านได้เลย เพื่อความเย็นฉ่ำทันทีที่ถึงบ้าน หรือแม้กระทั่งการรับแจ้งเตือนเมื่อต้องเปลี่ยนเครื่องกรองอากาศก็สามารถทำได้เช่นกันค่า
และสำหรับใครที่กังวลเรื่องค่าไฟ ก็มี SmartThings Energy ระบบอัจฉริยะที่ช่วยจัดการ ติดตาม ตรวจสอบและแจ้งผลการใช้พลังงานของเครื่องใช้ภายในบ้านได้แบบง่าย ๆ และรวดเร็ว
แม้แต่อุปกรณ์ที่ไม่ใช่กลุ่มอุปกรณ์อัจฉริยะก็สามารถทำได้นะคะ ด้วยการเชื่อมต่อผ่าน Smart Plug เพื่อให้ประหยัดได้เพิ่มขึ้นไปอีก สามารถเปิดใช้ระบบ AI Energy Saving ที่เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นที่มีฟีเจอร์รองรับ ปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง ก็จะควบคุมค่าไฟให้อยู่ในเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
One Stop Service ครบจบ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ยกระดับ Customer Experience
โดยทั้งหมดที่ได้เล่าให้ฟังกันไปด้านบน เรียกได้ว่าสามารถทำได้จาก SmartThings เพียงแพลตฟอร์มเดียว รวมไปถึงการตอบโจทย์ครอบคลุมกับคนทุกกลุ่มทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งค่าการเปิด-ปิด ปรับตามความชอบได้ในคลิกเดียว
เช่น ใครที่มีไลฟ์สไตล์ทำงานอยู่ที่บ้าน (Working at Home) ก็สามารถสร้างบรรยากาศการทำงานให้ Productive เพิ่มขึ้นได้ด้วยการปรับแสงในห้อง เป็นต้น
อีกทั้งยังตอบโจทย์การทำงานแบบ Multi-tasking ด้วย เพราะถ้าเราจะทำงานไปด้วย แต่ก็อยากซักผ้าไปด้วยก็ย่อมได้ ซักเสร็จเมื่อไหร่ก็แจ้งเตือนผ่านแอป SmartThings ทันที ควบคุมทั้งบ้านแค่ปุ่มเดียวนี่เอง
และแอป SmartThings ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุดถึง 200 ชิ้น และเพิ่มบุคคลอื่นเพื่อเชื่อมต่อได้มากถึง 10 แอคเคาท์ เชื่อมต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าอีกมากมายกว่า 5,000 ชนิด จาก 300 แบรนด์ ใช้งานได้กับหลากหลายประเภท รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผลิตภายใต้มาตรฐาน Matter
เพราะทุกวันนี้ผู้บริโภคมักมองหาสินค้าหรือบริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการ รวมถึงไลฟ์สไตล์ของเขาได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องรู้สึกว่าใช้งานง่าย สะดวกสบาย ไม่ลำบากด้วย
หากเราสามารถออกแบบสินค้าและบริการจนสามารถยกระดับ Customer Experience รวมถึงยังทำให้คุณภาพชีวิตของเขาดียิ่งขึ้นได้ แน่นอนว่าจะนำไปสู่ Brand Love ในระยะยาวได้แน่นอนเช่นกันค่ะ
การตลาด Samsung Smart Home ชู One Stop Service สร้าง Customer Experience
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับบทความนี้ที่ได้พาทุกคนมาดู การตลาด Samsung Smart Home เรียกได้ว่าเป็นการออกแบบแอปพลิเคชันที่ครบจบในที่เดียวแบบ One Stop Service ตอบโจทย์ทุกเรื่องทุกไลฟ์สไตล์ให้กับทุกคน และเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีในการออกแบบแพลตฟอร์มที่เข้ามาช่วยยกระดับ Customer Experience ให้ดียิ่งขึ้น ใช้งานง่ายแล้วยังทำให้คุณภาพชีวิตของผู้คนดีขึ้นได้ในหลาย ๆ ด้าน
สามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง Android และ IOS สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสที่สุดของนวัตกรรมที่มอบความสะดวกสบายกับสมาร์ทโฮมรูปแบบใหม่แบบครบวงจรด้วย SmartThings ที่ Smart Home Flagship Store ณ เอสบี ดีไซน์สแควร์ สาขา คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC)
หวังว่าทุกคนจะได้ความรู้ดี ๆ และประโยชน์กลับไปไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่า และสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram Twitter และ Youtube ได้เลย