การตลาดวันละตอน x Sellsuki Ep.12 – Oc2Plus เชื่อมต่อ API เข้ากับแพลตฟอร์มเพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้าของคุณ

การตลาดวันละตอน x Sellsuki Ep.12 – Oc2Plus เชื่อมต่อ API เข้ากับแพลตฟอร์มเพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้าของคุณ

กลับมาพบกันอีกแล้วกับ “การตลาดวันละตอน x Sellsuki” รายการที่จะพาคุณไปรู้จักกับธุรกิจในแง่มุมต่างๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณดีขึ้น ซึ่งตอนนี้เป็นตอนที่น่าสนใจและเป็นตอนที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ แต่วันนี้เราจะได้เรียนรู้ไปพร้อมพร้อมกันในหัวข้อ Oc2Plus Customer Data Platform ที่เชื่อมต่อ API เข้ากับแพลตฟอร์มเพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้าของคุณ

Oc2plus คืออะไร  มีบริการอะไรบ้าง

Oc2plus คือ Customer Data Platform ที่ทีหน้าที่ในการรวบรวม Data ทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์มาไว้ในที่เดียวกัน ซึ่งเมื่อข้อมูลทั้งหมดเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกันแล้ว สิ่งที่เราสามารถทำได้ต่อไปก็คือการนำข้อมูลเหล่านั้นไป Analyst ต่อ

ในช่วง 1-2 ปีก่อนเราจะเห็นว่าการ Analyst หรือการมองหา Target Customer ส่วนใหญ่เราจะอ้างอิงจาก Demographic เสียส่วนใหญ่ ซึ่งอีกหนึ่งฟังก์ชันเด่นของ Oc2plus คือเราสามารถมองได้ลึกถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยระบบสามารถจัดกลุ่ม Target ได้ตามเงื่อนไขที่เราระบุไว้ได้

เช่น เราต้องการหากลุ่มลูกค้าผู้ชาย ที่มีอายุระหว่าง 25-30 ปี ที่เคยซื้อสินค้าของเราไปเกินหนึ่งหมื่นบาท ระบบก็สามารถกึงข้อมูลและจัดกลุ่มให้ได้ทันที เป็นต้น

เมื่อได้กลุ่มลูกค้าที่เราต้องการแล้ว เราก็สามารถที่จะสื่อสารกลับไปยังลูกค้ากลุ่มนี้ได้ 

ปัจจุบันคนเข้าใจ Data แบบไหน?

ถ้าพูดถึงความเข้าใจในเรื่อง Data ของธุรกิจไทย จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มตามขนาดของธุรกิจ ดังนี้

1.ธุรกิจขนาดเล็ก

สำหรับกลุ่มนี้อาจจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ยังมีออเดอร์ไม่มากนัก จึงทำให้มี Data ไม่มากด้วยเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้ก็อาจจะทำให้ยังไม่มีการเก็บข้อมูลที่เป็นระบบ หรืออาจจะยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับข้อมูลมากเท่าไหร่นัก

2.ธุรกิจขนาดกลาง

ธุรกิจขนาดกลางจะเป็นกลุ่มที่ทำธุรกิจมาสักพักแล้ว เริ่ม มีช่องทางการขายที่มากขึ้น เริ่มมี Data ที่เข้ามา ส่วนใหญ่ธุรกิจขนาดกลางจะเริ่มโฟกัสไปที่การเก็บข้อมูล เช่น เริ่มมีระบบ POS เข้ามา หรือมีระบบ OMS เข้ามาช่วย 

ซึ่งบางธุรกิจอาจจะมีช่องทางการขายที่หลากหลายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ แต่ในธุรกิจขนาดกลางที่มี Data มากขึ้นนั้นอาจจะยังไม่มีการจัดเก็บที่เป็นระบบอย่างชัดเจน จึงส่งผลให้ Data กระจัดกระจายไป

3.ธุรกิจขนาดใหญ่

ในธุรกิจขนาดใหญ่ ส่วนมากมักจะมีการจัดเก็ย Data ที่ค่อนข้างเป็นระบบ และสามารถนำ Data ไปใช้งานได้ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ในบางครัง Data จะถูกแยกจัดเก็บกันคนละส่วนตามแผนกที่รับผิดชอบ จึงทำให้บางครั้งที่แผนกอื่นๆ ต้องการข้อมูลตรงส่วนนี้ ต้องใช้เวลาในการขอข้อมูล หรือดึงข้อมูลมาใช้งาน

จากข้อมูลตรงนี้เราจะเห็นได้ว่า ยิ่งบริษัทใหญ่ขึ้น ยิ่งให้ความสำคัญกับ Data ที่ชัดเจนมากขึ้น สิ่งนี้เป็นสิ่งที่บอกได้เลยว่า Data มีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน แล้วก็ธุรกิจในประเทศไทยนั้นมีการเตรียมตัวอย่างมากในเรื่องนี้

ธุรกิจส่วนใหญ่ต้องการทำอะไรเกี่ยวกับ Data บ้าง

เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่มักจะมีข้อมูลอยู่ในมืออยู่แล้ว และต้องการนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด 

สิ่งแรกเลยคือธุรกิจนั้นคาดหวังที่จะเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคจนนำไปสู่การตัดสินใจ หรือการดำเนินการที่ดีของแบรนด์ เพื่อให้เข้าถึง Target Customer ได้อย่างแม่นยำ

ซึ่งในความคาดหวังนี้ก็มักจะพ่วงมากับความกังวลใจว่าเขาอาจจะสามารถนำ Data ที่มีมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร หรือจะนำไปวิเคราะห์ในมุมไหนได้บ้าง มันจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องจริงๆ หรือเปล่า หรือบางบริษัทอาจจะมีช่องทางจำนวนมากที่ Data ไหลเข้ามา เขาไม่รู้ว่าจะต้องรวบรวมมันอย่างไร หรือไม่รู้ว่าจะนำข้อมูลตรงไหนมาใช้ดี

ซึ่งถ้าหากธุรกิจไม่สามารถรวบรวม Data และวิเคราะห์อย่างถูกทางได้ การตัดสินใจหรือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมันอาจจะผิดพลาดแล้วก็ไปคนละทิศคนละทาง ซึ่งตรงนี้จะเกิดผลเสียอย่างร้ายแรง อาจส่งผลให้ Cost Marketing สูงขึ้นด้วย รวมถึงอาจจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำการตลาดและการตัดสินใจเรื่องอื่นๆ ก็น่าจะลดลงด้วย

จุดไหนของ Oc2plus ที่ช่วยซัพพอร์ตลูกค้าจนเกิดเป็นธุรกิจขึ้นมาได้

ที่ผ่านมามันเป็นสิ่งที่หลายคนอยากจะได้สิ่งนี้มานานมากแล้วแต่ว่าเราอาจจะเรียกชื่อเหมือนต่างไป เมื่อก่อนเราอาจจะได้ยินชื่อของ CRM มานานมากแล้ว แต่ว่า CRM นั้นเป็นบทนิยามที่ค่อนข้างจะหนักไปทางเรื่องของ Loyalty Program ระบบสะสมแต้มมากกว่า 

ซึ่งถ้า Journey ของลูกค้าไปถึงเรื่องการสะสมแต้มได้นั้นก็สามารถอนุมานได้ว่าคนเหล่านั้นเป็นลูกค้าของเราแล้ว เป็นการที่เขาซื้อแล้วแต่เราอยากให้เขาซื้อซ้ำ อย่างนี้มากกว่า 

แต่ในความเป็นจริงแล้วในจำนวนลูกค้าที่เรามีนั้นอาจจะเป็นแค่10%ของประชากรทั้งหมด สมมุติว่าคุณมีลูกค้าอยู่ 1,000ราย  จริงๆ แต่ก่อนหน้านั้นอาจจะเคยมีคนที่เข้ามาคุยกับเราอาจจะเป็นหมื่นรายแล้วก็ได้ ซึ่งคนหมื่นคนที่คุณเคยคุย แวะเวียนเข้ามาทำความรู้จักแบรนด์ของเรา มีถึง 9,000 คนที่หายไปไม่ได้ซื้อสินค้าและบริการของเรา

ซึ่งทาง Oc2plus มองว่าคนกลุ่มนี้คือลูกค้า แต่เราอาจจะเรียกคำนิยามของคนกลุ่มนี้แตกต่างกัน บ้างก็เรียกว่าเป็น Lead บ้างก็เรียกว่าเป็น Prospect ซึ่งคนกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มคนที่มี Potential ที่วันหนึ่งเค้าเมื่อเขาพร้อม เขาก็มีโอกาสสูงที่จะซื้อสินค้าเรา

ซึ่งในทุกธุรกิจจะมีคนเข้ามาแวะเวียนและเป็นแฟนคลับแบรนด์เหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา แล้วถามว่าเราจะจัดการกับ Data ที่มากมายเหล่านั้นได้อย่างไร เพราะว่าปกติแล้วเราจะได้ Data ก็ต่อเมื่อกลุ่มเป้าหมายมีการซื้อขายกับเราแล้ว 

นั่นก็หมายความว่าเราจะต้องมีการเชื่อมต่อระบบมากมายเข้าด้วยกัน แล้วก็ดึง Data จากหลายๆ ส่วนเข้าด้วยกัน มันคือโอกาสในการที่จะทำให้คุณสามารถ จัดการฐานข้อมูลของคนที่ได้มากกว่าเดิม แล้วเราก็สามารถจะช่วยธุรกิจต่างๆ ทั้งรายเล็ก รายกลาง รายใหญ่ ให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้มากขึ้น รายเล็กก็สามารถต่อกรกับรายใหญ่ได้ การแข่งขันก็จะดูสนุกสนานและสมบูรณ์มากขึ้น

เมื่อเวลาที่เราทำให้การแข่งขันสนุกมากขึ้น ผู้บริโภคก็จะได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ คือจะได้สินค้าและบริการที่โดนใจมากขึ้น และการที่แบรนด์ต่างๆ รู้จักตัวลูกค้ามากขึ้น เมื่อเรารู้แล้วว่าผู้บริโภคมีความต้องการแบบไหน แบรนด์ก็สามารถนำเสนอสิ่งดีๆ ให้ผู้บริโภคได้ในเวลาที่เราต้องการได้ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ที่สุดทำให้ ลดระยะเวลาในการสืบค้นข้อมูลต่างๆ และสามารถที่จะมอบสินค้าและบริการที่โดนใจ ในเวลาที่เหมาะสมด้วย 

ถ้าลูกค้าอยากจะมาร่วมงานกับ Oc2plus จะต้องรู้อะไรบ้าง

จริงๆ แล้วลักษณะของลูกค้าที่สนใจจะใช้ Oc2plus ก็คือลูกค้าที่พร้อมจะเติบโตโดยมองว่า Data มีคุณค่า เพราะถ้า Data เขายังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ หรือช่องทางการขายยังไม่หลากหลายนักเขาอาจจะไม่เห็นความสำคัญของ Data นัก 

แต่ในวันหนึ่งที่เขาต้องการจะเติบโตขยายช่องทางการขายให้หลากหลายขึ้น ทำให้เขาอาจจะจัดการข้อมูลไม่ไหว ทำให้ข้อมูลที่มีอยู่กระจัดกระแส จึงมองหาเครื่องมือบางอย่างที่จะช่วยให้เขาดูแลลูกค้าได้ง่ายขึ้น เพื่อที่จะช่วยลดระยะเวลา ในการจัดการข้อมูล ที่มันซับซ้อนเหล่านี้ให้มันง่ายขึ้น และมีความรวดเร็วและแม่นยำในการจัดการข้อมูล

เมื่อเราลดระยะเวลาในการจัดการข้อมูลได้แล้ว หลังจากนั้นสิ่งที่เรามอบให้คือความเข้าใจ Customer Journeys ของลูกค้าคุณในแต่ละสเตจ เพราะการที่เราพูดคุยกับลูกค้าแต่ละสเตจ เราไม่ได้ใช้ข้อความเหมือนกัน เพราะระดับความสนิทชิดเชื้อระหว่าแบรนด์ก็ไม่เท่ากัน ซึ่งการจะรู้ได้ว่าลูกค้าคนไหนอยู่สเตจไหน เราก็ต้องทำการ Costomize ด้วยการทำ Personalized Marketing หรือ Contextual Marketing 

ซึ่งการจะทำสิ่งเหล่านี้ได้จะต้องมีซอฟต์แวร์ที่ดีและฉลาดมาเป็นตัวช่วย โดยตัวซอฟต์แวร์จะต้องสามารถตั้งค่าได้หลากหลาย และรวมถึงการรวบรวมข้อมูลจากทุกช่องทางให้คุณได้ และคุณมีข้อมูลที่ครบถ้วนคุณก็จะสามารถทำสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์กับลูกค้าได้มากขึ้น

Oc2plus จะทำให้ธุรกิจของคุณก้าวทันธุรกิจใหญ่ๆ และสามารถเพิ่มโอกาสในการต่อสู้ แข่งขันในตลาดของธุรกิจได้ ด้วยการที่ลูกค้าในทุกๆสเตจ ทุกๆ Journey ของลูกค้าด้วยฟังก์ชันต่างๆ ของ  Oc2plus

สำหรับใครที่สนใจใช้บริการผู้ช่วยด้านการทำธุรกิจหรือปรึกษากับทีมงาน Sellsuki โทร 02-026-3250 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sellsuki.co.th

สำหรับใครที่ต้องดูวิดีโอการสัมภาษณ์ SellSuki EP.12 แบบเต็มๆ สามารถรับชมเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Bambinun*

Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน ที่หลงรักการเล่าเรื่องผ่านตัวหนังสือ พอๆ กับการกินของอร่อย และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเป็นทาสแมว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *