NocNoc ขานรับนโยบายลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt ลดภาระให้ลูกค้า  

NocNoc ขานรับนโยบายลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt ลดภาระให้ลูกค้า  

สวัสดีนักการตลาดและนักอ่านทุก ๆ คนครับ บทความนี้ผมจะพามาส่องกลยุทธ์โครงการ Easy E-Receipt ของ NocNoc ศูนย์รวมสินค้าและบริการเรื่องบ้านออนไลน์ ที่สอดรับกับ “โครงการช้อปดีมีคืน 2566” ของรัฐบาล มาดูกันว่าทีม การตลาด NocNoc ใช้โอกาสจากนโยบายของรัฐเพื่อเพิ่มความได้เปรียบในธุรกิจอย่างไร และใช้ควบคู่กับกลยุทธ์การตลาดตัวไหน พร้อมกับแนวทางที่ผู้ประกอบการ SME สามารถทำตามได้ เชิญทุกคนติดตามได้ในบทความนี้เลยครับ ^^

รายละเอียดโครงการ Easy E-Receipt

ในโครงการ Easy E-Receipt ช้อปเรื่องบ้านสไตล์ที่ชอบที่ NocNoc อัดแน่นความคุ้มจัดเต็มถึง 2 ต่อ

  • ต่อที่ 1 รับคูปองส่วนลดต้อนรับปีใหม่ ช้อปครบ 10,000 บาท ใส่โค้ด ‘CASHPD21’ ลดเพิ่มทันที 9% สูงสุด 1,000 บาท และช้อปครบ 20,000 บาท ใส่โค้ด ‘CASHPD22’ ลดเพิ่มทันที 11% สูงสุด 3,000 บาท
  • ต่อที่ 2 ช้อปคุ้มได้ลดหย่อนภาษี รับสิทธิ์ง่าย ๆ เพียงมองหาร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ Easy E-Receipt แล้วช้อปสินค้าในร้านที่ร่วมรายการ ทั้งของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าปรับปรุงบ้านและอื่น ๆ อีกมากมายให้เลือกหลากหลายแบบหลากหลายสไตล์

วิเคราะห์โครงการ Easy E-Receipt ในแง่การตลาด

ชื่อโครงการ Easy E-Receipt เป็นการตั้งชื่อโครงการที่สอดคล้องกับกิจกรรมหลักที่เกิดขึ้นนั่นคือ การออกใบเสร็จออนไลน์ให้แก่ลูกค้าในการนำไปลดหน่อยภาษีกับโครงการของรัฐ

ต่อที่ 1 NocNoc ใช้กลยุทธ์การให้ส่วนลดแบบมีเงื่อนไข คือ ต้องมียอดซื้อขั้นต่ำจึงจะได้ส่วนลด และการให้ส่วนลดแบบขั้นบันได เมื่อซื้อมากเปอร์เซ็นต์ส่วนลดก็จะมากตามไปด้วย การให้ส่วนลดแบบขั้นบันไดสามารถจูงใจให้ลูกค้าซื้อสินค้าเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าซื้อเพิ่มอีกนิดหน่อยจะได้ส่วนลดที่เพิ่มขึ้นแล้ว

การให้ส่วนลด ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรโมชั่นที่ดีที่สุดที่สามารถกระตุ้นกระบวนการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้ แต่ในทางกลับกันการให้ส่วนลดมีประสิทธิภาพในระยะสั้นเท่านั้น ในระยะยาวอาจส่งผลเสียต่อแบรนด์ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้โปโมชั่นการลดราคาได้ ที่นี่ เลยครับ

ต่อที่ 2 การลดหย่อนภาษีโดยใช้ Easy E-Receipt เป็นกิจกรรมหลักของโครงการซึ่งสอดรับกับ “โครงการช้อปดีมีคืน 2566” ของรัฐบาล โดยช้อปเสร็จแล้วลูกค้าสามารถกดทักแชทกับร้านค้า พร้อมเตรียมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อรับใบกำกับภาษี E-Receipt สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประจำปี 2567 ได้ 

ผมองว่า Key หลักของโครงการ Easy E-Receipt คือต่อที่ 2 นี่แหละครับ เพราะการลดราคา แบรนด์จะทำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่การนำค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปลดหย่อนภาษี นาน ๆ ทีรัฐจะออกโครงการมาให้ครับ

ทีม การตลาด NocNoc เป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้ประโยชน์จากนโยบายลดหย่อยภาษีของรัฐบาล ซึ่งเป็นโครงการที่ค่อนข้างโดนใจผู้บริโภคอยู่แล้ว โดยใช้ควบคู่กับการให้ส่วนลดเป็นตัวช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้าเพิ่มมากยิ่งขึ้น

สรุปการวิเคราะห์โครงการ Easy E-Receipt

ในมุมของผมโครงการ Easy E-Receipt ไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนขนาดนั้นครับ ง่าย ๆ แต่ได้ประสิทธิภาพ การตั้งชื่อก็เป็นไปตามกิจกรรมหลักของโครงการ และสอดรับกับโครงการช้อปดีมีคืนของรัฐที่ใช้ใบเสร็จในการลดหย่อนภาษี

หัวใจสำคัญของโครงการคือการออกใบกำกับภาษีที่ซื้อสินค้าจาก NocNoc ไปลดหย่อยในโครงการของรัฐ ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากนโยบายของรัฐในการเพิ่มความได้เปรียบของธุีรกิจ และมีการใช้โปรโมชั่นส่วนลดราคาควบคู่ไปด้วย เพื่อดึงดูดึวามสนใจของลูกค้ามากขึ้น

จริง ๆ ธุรกิจต่าง ๆ ก็สามารถทำการตลาดให้สอดรับกับโครงการช้อปดีมีคืน 2566 ของรัฐบาลได้เช่นกันครับ แต่ก่อนหน้านั้นผมอยากให้ทุกคนได้รู้จักกับโครงการช้อปดีมีคืน 2566 ก่อนสักเล็กน้อยครับ

รู้จักโครงการ “ช้อปดีมีคืน 2566”

ช้อปดีมีคืน
ขอบคุณรูปภาพจาก: กรมสรรพากร

โครงการช้อปดีมีคืน มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ ด้วยการที่ประชาชนผู้มีหน้าที่เสียภาษีสามารถนำคำใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าหรือบริการ รวมถึงการเติมน้ำมันที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ไม่รวมถึงคณะบุคคล/ห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ใช่นิติบุคคล) 

หลักฐานในการลดหย่อนใช้ได้ทั้งแบบกระดาษ หรือ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt โดยหวังว่าการใช้จ่ายภายในประเทศจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการสนับสนุนการขายจากร้านค้าต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับนโยบายลดหย่อนภาษีดังกล่าวของรัฐบาล

โดยสินค้าที่เข้าเกณฑ์การลดหย่อนภาษีของโครงการช้อปดีมีคืน 2566 แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

  • 1. สินค้า หรือบริการ ที่ผู้ประกอบการได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) โดยจะต้องเป็นสินค้าหรือบริการภายในประเทศเท่านั้น เช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าสินค้ากลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ค่าเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ค่าซ่อมรถ ค่ายารักษาโรคและอาหารเสริม เป็นต้น
  • 2. สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) จากผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว 5 ประเภท คือ อาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ และเครื่องประดับตกแต่งตลอดจนสมุนไพรที่ไม่ใช่ยาและอาหาร
  • 3. หนังสือ หรือ E-book แต่ไม่รวมถึงนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต

อยากใช้ “โครงการช้อปดีมีคืน 2566” ในธุรกิจทำอย่างไรบ้าง

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่สนใจนำโครงการช้อปดีมีคืน 2566 มาใช้ดึงดูดลูกค้าให้มาเข้าร้านอย่างมีประสิทธิภาพ ผมมีคำแนะนำ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

  • 1. ตรวจสอบสินค้าหรือบริการว่าเข้าเกณฑ์หรือไม่: ตรวจสอบว่าสินค้าหรือบริการของธุรกิจได้ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดในนโยบายหรือไม่
  • 2. การเตรียม e-Tax Invoice หรือ e-Receipt: ควรเตรียมระบบหรือกระบวนการที่สามารถออก e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ให้แก่ลูกค้าได้ เนื่องจากนโยบายอนุญาตการใช้ได้ทั้งแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์
  • 3. ใช้การลดหย่อนภาษีควบคู่กับโปรโมชั่น: การใช้โปรโมชั่นการตลาดไม่ว่าจะเป็น ลด แลก แจก แถม ควบคู่กับการลดหย่อยภาษีจะเป็นตัวช่วยเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าสนใจมากยิ่งขึ้น
  • 4. ประชาสัมพันธ์ให้แก่ลูกค้า: ขั้นตอนสุดท้ายเมื่อเราพร้อมแล้ว ควรสื่อสารและ Educate ข้อมูลเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีให้แก่ลูกค้า เพื่อสร้างการตระหนักรู้และเพิ่มโอกาสในการขายมากยิ่งขึ้น
  • 5. อย่าเก็บ Data ลูกค้าทุกครั้ง: ควรเก้ย Data ของลุกค้าเพื่อนำไปปวิเคราะห์ และปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าในการซื้อสินค้าหรือบริการให้ดีมากยิ่งขึ้น

เพื่อน ๆ มีความคิดเห็นอย่างไรกับโครงการ Easy E-Receipt และ โครงการช้อปดีมีคืน ของรัฐสามารถแสดงความคอดเห็นมาแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ

Tlee Krit

ชื่อเติ้ลครับบบ นักเขียนน้องใหม่แห่งการตลาดวันละตอน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ^^

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *