การตลาด Jitta แก้วิกฤตการเงินคนไทย ออมและลงทุนได้อัตโนมัติ

การตลาด Jitta แก้วิกฤตการเงินคนไทย ออมและลงทุนได้อัตโนมัติ

การตลาด Jitta (จิตตะ) สตาร์ทอัปด้านการลงทุนของไทย ​แก้วิกฤตการเงินคนไทย ออมและลงทุนได้อัตโนมัติ จากการพัฒนาเทคโนโลยี AI ด้านการวิเคราะห์หุ้น ช่วยให้คนไทยได้ จ่าย-ออม-ลงทุน แบบอัตโนมัติ สร้างพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแรงให้คนไทยและสังคมไทยแบบยั่งยืน

จากข้อมูลการสำรวจของธนาคารแห่งประเทศไทยพบว่า คนไทยมีเงินออมไม่เพียงพอ ทั้งเงินออมที่ต้องใช้ในระยะสั้นภายใน 6 เดือน ที่มีไม่ถึง 1 ใน 4 และระยะยาวเกิน 6 เดือนที่มีเพียง 23% เท่านั้น เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วในแถบเอเชีย อย่างเช่นฮ่องกง ที่มีถึง 55%

ซึ่งการที่มีเงินออมไม่พอ ก็จะมีผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศและสังคมในภาพรวม อีกทั้งยังเป็นตัวเร่งของหนี้ครัวเรือน และเพิ่มภาระในการเลี้ยงดูยามชราอีกด้วย ดังนั้นเรียกได้ว่าในปัจจุบันนี้คนไทยกำลังเผชิญวิกฤตด้านการเงินกันอยู่เลยล่ะค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอชวนทุกคนมารู้จักกับ Jitta (จิตตะ) กันก่อน Jitta เป็น Startup ด้าน WealthTech ที่ก่อตั้งขึ้นมาในเดือนมีนาคม 2555 ด้วยพันธกิจ ‘Help investors create better returns through simple investment methods’ หรือหมายถึงการช่วยนักลงทุนสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า ด้วยวิธีการที่ง่ายกว่าเดิมนั่นเองค่ะ

โดย Jitta เริ่มจากการพัฒนาแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้นพื้นฐาน จากงบการเงินย้อนหลัง 10 ปี เพื่อทำให้นักลงทุนทั่วโลกสามารถหา ‘หุ้นดีราคาเหมาะสม’ ที่นำไปใช้ได้จริง โดยไม่ต้องศึกษาและวิเคราะห์งบการเงินด้วยตัวเอง 

และปัจจุบันแพลตฟอร์ม Jitta ครอบคลุมการวิเคราะห์หุ้น 28 ประเทศ สแกนหุ้นมากกว่า 48,000 บริษัท และใช้งานได้ทุกฟีเจอร์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

จากปี 2555 มาตลอด 12 ปีที่ Jitta เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินไทย ก็มีเป้าหมายที่จะสร้างนวัตกรรม เพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนที่ง่ายและสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า

รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยี AI ให้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องจากการวิเคราะห์ข้อมูลหุ้นทั่วโลก รวมถึงพอร์ตการลงทุนที่ได้บริหารจัดการมากว่า 6 ปี 

เพราะการมีเงินออมเป็นพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแรง และนำไปสู่จุดเริ่มต้นการลงทุน

และก็ต้องควบคู่ไปกับการส่งเสริมความรู้การเงินและหลักการลงทุนระยะยาว เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถบริหารจัดการ​พอร์ตลงทุนได้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยง และสร้างผลตอบแทนได้อย่างยั่งยืน

ดังนั้นทุกคนจะเห็นได้ว่าการที่ธุรกิจรู้จักพัฒนาแพลตฟอร์มต่าง ๆ ถึงกลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยแก้วิกฤตด้านการเงินของคนไทย และสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวได้ ช่วยส่งเสริมวินัยจากการ จ่าย ออม ลงทุน ด้วยการใช้เทคโนโลยีและกระบวนการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ที่จะทำให้คนไทยมีเงินเก็บได้จริง

ต่อมาในปี 2561 บริษัทได้รับอนุญาตจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ให้เป็น WealthTech รายแรกของประเทศไทย ที่ใช้เทคโนโลยีมาให้บริการและบริหารกองทุนส่วนบุคคลสำหรับลูกค้าทั่วไป 

ซึ่งก็ช่วยให้คนเข้าถึงการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนระยะยาวที่ดี ได้แบบสะดวกสบายและเป็นธรรม ด้วยค่าธรรมเนียมต่ำ เพียง 0.5% ต่อปีเท่านั้น รวมถึงพยายามลดเงินลงทุนเริ่มต้นจากเดิมลงทุนขั้นต่ำที่ 1 ล้านบาทลงมาอยู่ที่ 10,000 บาทในปัจจุบัน 

ทำให้ Jitta Wealth มีการบริหารกองทุนส่วนบุคคลจำนวนกว่า 65,000 บัญชีมากที่สุดในประเทศไทย โดยมีแผนที่จะลดขั้นต่ำลงไปอีก เพื่อช่วยให้คนไทยได้เข้าถึงการลงทุนที่ดีกว่าด้วยเทคโนโลยีได้มากยิ่งขึ้น

โดยได้นำอัลกอริทึ่ม Jitta Ranking ที่ใช้ AI คัดเลือกหุ้นดีราคาถูก มากระจายความเสี่ยงจัดการลงทุนและปรับพอร์ตอัตโนมัติ ในหุ้นประเทศต่าง ๆ เช่น ไทย อเมริกา เวียดนาม ญี่ปุ่น จีน และฮ่องกง 

ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นเหนือตลาดถึง 2 เท่าหลังวิกฤติ โดยเฉพาะ Jitta Ranking หุ้นสหรัฐฯ ที่ทำผลตอบแทนแซงหน้าดัชนีไปเกือบเท่าตัว เฉลี่ย +40.83% ในขณะที่ S&P 500 ทำผลตอบแทนไปได้เพียง +24.73%

นอกจากนี้ยังเป็นผู้บุกเบิกการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะ ETF ที่เป็นการลงทุนในธีมเมกะเทรนด์ของโลกที่กำลังเติบโตสูง โดยมีเทคโนโลยี AI ในการบริหารจัดการเลือกและลงทุนอัตโนมัติที่เรียกว่า Thematic Optimize 

และยังมีแผนการลงทุน Global ETF ที่เน้นจัดพอร์ตกระจายในสินทรัพย์ทั่วโลกตามทฤษฎีรางวัลโนเบล Modern Portfolio Theory เหมาะกับการลงทุนในทุกช่วงตลาด และยังสร้างผลตอบแทนได้สม่ำเสมอตามระดับความเสี่ยงที่เลือกได้อีกด้วย

และในปี 2567 นี้ เพื่อเป็นการเรียกได้ว่าปลดล็อกอุปสรรคใหญ่ของคนไทย จึงได้พัฒนา Jitta Card มาแก้ปัญหาด้านพฤติกรรมการใช้จ่ายเงิน การไม่มีเงินออม และขาดความรู้ด้านการลงทุน รวมถึงการไม่มีวินัยที่ดีพอ Jitta Card จึงเป็นเทคโนโลยีการเงินปรากฏการณ์ใหม่ จ่าย-ออม-ลงทุน แบบไม่รู้ตัว 

โดยผู้ใช้งานสามารถใช้จ่ายเงินผ่านแอปหรือบัตร Visa Card ได้อย่างสะดวกสบายทั่วโลก ทุกการใช้จ่ายระบบจะเก็บเงินทอน (Round up) ไว้ในกระเป๋าเงินออมให้โดยอัตโนมัติ รวมถึงมีโบนัสเงินออมหรือ Cashback จากการช็อปออนไลน์กับร้านค้าที่เป็นพันธมิตร

ซึ่งเงินออมทั้งหมดจะถูกส่งต่อไปยังกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ผู้ใช้ได้เลือกนโยบายการลงทุนไว้ เป็นการจัดการเงินในชีวิตประจำวันที่ไม่ต้องฝืน ทำได้ทันที สร้างวินัยการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ให้เราได้มีพอร์ตการลงทุนที่เติบโตในระยะยาวตั้งแต่เยาว์วัย

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับบทความนี้ที่ได้พามาดู การตลาด Jitta แก้วิกฤตการเงินคนไทย ออมและลงทุนได้อัตโนมัติ ถือเป็นการให้ความสำคัญกับการพัฒนาแพลตฟอร์ม สรรหาเทคโนโลยีอัตโนมัติ เพื่อตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาที่คนไทยต้องเจอ เป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสุขภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งและเรียบง่ายได้ในทุก ๆ มิติของชีวิต

ทั้งนี้เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง 12 ปี จิตตะ ได้มีแคมเปญเพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีวินัยในการลงทุน โดยนักลงทุนสามารถสะสมยอดการลงทุนเพื่อรับของที่ระลึกคอลเลคชันพิเศษ J12 ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม – 15 พฤษภาคม 2567 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/jittawealth และ Jitta Card (Beta) เปิดให้ทดสอบใช้งานแล้ว ผู้สนใจสามารถลงชื่อเพื่อขอใช้งานได้ที่ www.jittacard.com

หวังว่าทุกคนจะได้ความรู้ดี ๆ และประโยชน์กลับไปไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ และสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook  Instagram  Twitter  และ Youtube ได้เลย

Fern Panassaya

เฟิร์น Junior Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *