Technology & Digital Solution for Business เรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจจากบริษัท Tech Enabler ในแบบ G-Able
วันนี้ผมจะมาเล่าให้ทุกคนได้อ่านเกี่ยวกับ Technology & Digital Solution กันครับ เพราะเห็นว่า เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็พยายามปรับตัวให้อยู่กับโลก Digital มากขึ้น เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้ต่อได้ ซึ่งค่อนข้างตอบโจทย์กับผู้บริหารองค์กรและนักธุรกิจในยุคนี้มากเลยครับ
แต่จุดสังเกตหนึ่งคือ หลายบริษัทยังเข้าใจผิดกันอยู่ว่า การปรับตัวนั้นเป็นเรื่องของการทำการตลาดที่ขยับขยายไปอยู่บน Online
ซึ่งจริง ๆ แล้วการปรับตัวสู่โลก Digital ยังมีเรื่องของการนำ Technology & Digital Solutions มาใช้ที่ธุรกิจควรทำความเข้าใจและนำมาประยุกต์ใช้ให้มากขึ้น เพื่อประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้แบรนด์ของเราได้ครับ
Technology & Digital Solution for Business
การนำ Technology & Digital Solutions เข้ามาใช้ ถ้าว่ากันตรง ๆ ในสมัยนี้ค่อนข้างไม่ใช่เรื่องใหม่แล้วครับ แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่หลายแบรนด์ยังไม่ค่อยให้ความสำคัญอยู่ดี ซึ่ง Technology เหล่านั้นก็มีให้เราได้เลือกใช้มากมายเลยครับ แล้วแต่เลยครับว่าเรามีปัญหาอะไรที่ต้องการได้รับการส่งเสริมหรือแก้ไขบ้าง
ในวันนี้ผมเลยจะขอพูดถึง Digital Business Solution พื้นฐานที่คิดว่ามีความจำเป็นและมีความสำคัญอันดับต้น ๆ ที่จะมาช่วยเหลือการทำธุรกิจของทุกคนได้ง่ายที่สุดมาแชร์ครับ
1.Data Management (A.I, Analytics, Visualization)
ในยุคนี้เราคงจะหนีไม่พ้นการเอา Data มาใช้ในในการทำธุรกิจอย่างจริงจังมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ปัญหาคือหลายแบรนด์ยังไม่ค่อยรู้ว่า ตัวเองมี Data ในส่วนไหนมาให้ใช้ได้บ้าง หรือ จะจัดการ Data ที่กระจัดกระจ่ายทั่วไปหมดทั้งองค์กรอย่างไรดี
นอกเหนือจากนี้การต้องมานั่งดูข้อมูลดิบทั้งหมดนั้นก็คงจะเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เราสามารถเห็น Hint ที่น่าสนใจที่จะนำไปสู่การวางกลยุทธ์ทางธุรกิจให้ตอบโจทย์ลูกค้าและธุรกิจของเราได้
การนำ Digital Technology มาใช้ในการวางระบบ Infrastructure หรือ โครงการสร้างการจัดการข้อมูล จะช่วยเข้ามาช่วยวางให้จัดเก็บข้อมูลของธุรกิจมีความง่ายมากขึ้นและที่สำคัญคือทุกจัดเก็บอยู่ในที่เดียวกันเพื่อให้กลายมาเป็นฐานข้อมูลที่สามารถนำมาใช้งานได้จริง
ร่วมกับการดึงข้อมูลเหล่านั้นมา Visualization อย่างการขึ้นเป็นแผนภูมิ หรือ กราฟ ที่จะช่วยให้เราสามารถอ่านและทำความเข้าใจข้อมูลเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น
ซึ่งในส่วนตรงนี้ก็จะมีเรื่อง Automotation หรือการจัดการแบบอัตโนมัติเข้ามาใช้สนับสนุนให้คนในองค์กรมีเวลาไปทำสิ่งสำคัญเพื่อองค์กรในเรื่องอื่น ๆ ได้ด้วยครับ
2.Cloud & Data Center
จากข้อ 1. เมื่อเราได้เก็บ Data มาแล้ว สิ่งที่ตามมาคือ พื้นที่ในการเก็บข้อมูลเหล่านั้นครับ เพราะถ้าเราเก็บ Data ไว้แค่ในที่ ๆ เดียว หรือ คอมพิวเตอร์เครื่องแค่เดียว
ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาคือ การเข้าถึงข้อมูลเพื่อนำมาใช้ของคนในองค์กรที่เข้าถึงได้ยาก ทำให้ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยครับ แม้ว่าเราจะมีการจัดการข้อมูลที่ดี
ดังนั้นความจำเป็นที่สุดในการนำ Digital Technology มาใช้ในส่วนของ Cloud ก็คือการทำให้ข้อมูลเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น มีขนาดที่เหมาะกับบริษัทของเราครับ นอกเหนือจากนี้ การรวมข้อมูลไว้ในจุดเดียวยังช่วยให้การรักษาความปลอดภัยขององค์กรของคุณที่ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วยครับ
3.CRM >> End-to-end Technology & Digital Solution for Customer Relationship Management
ส่วนนี้จะเริ่มเป็นเรื่องของการนำ Data และ Technology ที่เรามีทั้งหมดมาสร้างประโยชน์ในทางตรงที่จะสร้างประโยชน์กับธุรกิจของเราแล้วครับ
Customer Relationship Management หรือเรียกอีกอย่างก็คือ การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ถ้าว่ากันในกรณีที่ธุรกิจของเราเริ่มเติบโตขึ้น เราอาจจะไม่สามารถโฟกัสหรือไล่ตอบลูกค้าได้อย่างละเอียดเหมือนแต่ก่อน
ดังนั้นเมื่อเรามี Data Base ของลูกค้า และระบบการจัดการที่ดีแล้ว การนำ Technology เข้ามาช่วยในส่วนนี้จะช่วยให้เราสามารถทำ CRM ได้อย่างต่อเนื่องและยังคงมีประสิทธิภาพอยู่ได้ครับ
ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามที่พบบ่อยจากลูกค้า ไปจนถึงการส่ง Special Promotion เพื่อสร้าง Retention Purchase และที่สำคัญในบางกรณีเรายังสามารถนำเสนอ Promotion โดยแบ่งตาม Customer Segement แบบอัตโนมัติได้อีกด้วยครับ
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนและง่ายมากขึ้น ทุกคนสามารถไปดูตัวอย่างได้จากการไปลอง Search Google ด้วย Keyword ว่า MarTech ทำ CRM ก็ได้ครับ
- Cybersecurity
เรื่องนี้เป็นส่วนสำคัญที่หลายธุรกิจมักมองข้ามไปเหมือนกันครับ (รัฐบาลเองก็ด้วย …)
นั่นคือ เรื่องของการรักษาความปลอดภัยของ Data ที่เรามี เพราะแน่นอนว่าข้อมูลสำคัญเหล่านี้นอกจากจะมีมูลค่ากับการทำธุรกิจของเราแล้ว ยังเป็นข้อมูลส่วนตัวของธุรกิจและลูกค้าของเราด้วย
ซึ่งถ้าหากข้อมูลเหล่านี้ถูกโจมตี หรือ ถูก Hack ทำให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูลออกไป ความเสียหายที่เกิดขึ้นแบบว่ากันตามจริงก็แทบจะประเมินค่าไม่ได้ที่ธุรกิจของเราจะต้องรับผิดชอบเลยครับ
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องพื้นฐานที่ผมคิดว่าทุกแบรนด์ควรให้ความสำคัญ และถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้รีบที่จะเตรียมตัวเองให้มีความพร้อมให้ดีครับ อาจจะไม่ต้องทั้งหมดนี้ก็ได้ หรือไม่ต้องในสเกลใหญ่มาก แต่เลือกให้เหมาะกับธุรกิจของทุกคนดูครับ
ส่วนตัวผมค่อนข้างมั่นใจว่าในอนาคตจะมีโจทย์ทางธุรกิจที่ยากยิ่งขึ้นกว่าปัจจุบันนี้อีกและสิ่งเหล่านั้นจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจของทุกคนผ่านโจทย์เหล่านั้นได้
อย่างไรก็ตามผมเข้าใจว่า เรื่องเหล่านี้สำหรับในบางธุรกิจยังเป็นเรื่องใหม่ ที่ยังต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจค่อนข้างนานพอสมควรเลยทีเดียวครับ เพราะจากประสบการณ์ที่เคยได้สัมผัสการปรับตัวเหล่านี้จะมีคำศัพท์เทคนิคด้าน IT ผุดขึ้นมามากมายเลยครับ
เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่ระดับผู้บริหารที่ต้องมีความเข้าใจเท่านั้น พนักงานในระดับ Operation ก็ต้องมีความเข้าใจและสามารถใช้สิ่งเหล่านี้ได้อย่างคล่องแคล่วด้วยจึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุดที่เพิ่มโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ให้กับบริษัทได้
ซึ่งเมื่อเกิด Painpoint ย่อมก่อให้เกิดบริการหรือธุรกิจครับ
G-Able เป็นหนึ่งในธุรกิจให้บริการด้าน Technology & Digital Solutions for Business ที่สามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้กับธุรกิจในการปรับตัวของธุรกิจในยุค Digital นี้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้ครับ โดยสิ่งที่น่าสนใจของแบรนด์นี้ คือ การพยายามทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นสำหรับธุรกิจมากที่สุด
G-Able : Good, Great .. Greatness
G-Able เป็นธุรกิจที่วางตัวเองเป็น Tech Enabler หรือนักสร้างความเป็นไปได้ในการนำ Technology & Digital Solutions ให้กับธุรกิจ
ซึ่งแบรนด์ก็สามารถให้บริการได้อย่างรอบด้านเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Cybersecurity, Digital Business and Application, Cloud and Data Center Modernization, Data & Analytics และ Managed Tech services และอื่น ๆ อีกมากมายเลย
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในตลาดให้กับผู้ประกอบการ เหล่าผู้บริหาร หรือคนทุกคนที่อยู่ในตำแหน่งที่เป็นผู้มีความต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น
อย่างที่ผมได้บอกครับไปว่า การปรับตัวทางธุรกิจโดยเอา Digital เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จะตามมาด้วยเรื่องทาง Techical และศัพท์เทคนิคด้าน IT มากมายที่ต้องใช้ความพยายามและความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เพื่อนำมา Apply ให้สร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจของเราได้มากที่สุด
สำหรับใครที่ไม่ได้คลุกคลีในเรื่องฝั่งนี้เลย ก็จะเป็นสิ่งที่ลำบากพอสมควรในการทำให้สิ่งนี้สำเร็จได้ครับ แม้ว่าจะจ้าง Specialist มาเป็นพนักงานภายในบริษัทเลยบ้างก็อาจจะเป็น Cost ที่สูงเกินไปสำหรับบางธุรกิจ
ซึ่งเดิมที G-Able เป็นธุรกิจเฉพาะทางที่ทำเกี่ยวกับด้าน IT และ Technology ที่มีประสบการณ์ที่แก้ปัญหาให้ลูกค้าถึง 33 ปีที่แบรนด์มองเห็นปัญหาเหล่านี้มามากมายเลยครับ
แล้วต่อมาแบรนด์ก็เริ่มปรับตัวเองเข้าสู่ยุค Digital เช่นกัน โดยมีการเพิ่มเรื่องของ Digital Solution เข้ามาเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับหลายธุรกิจ
นั่นทำให้แบรนด์มีความเข้าใจในความยากและอุปสรรคที่ธุรกิจต้องเจอเป็นอย่างดีเมื่อต้องมีการนำ Digital Technology มาปรับใช้กับธุรกิจ
G-Able เลยเลือกที่จะวาง Brand Positioning ตัวเองในการเป็น Tech Enabler หรือผู้สร้างความเป็นไปได้ให้กับกลุ่มธุรกิจ เพื่อบ่งบอกแบรนด์ที่กำลังต้องการพาธุรกิจของตัวเองให้ไปต่อหรือไปไกลมากยิ่งขึ้น
มีความกล้าและมั่นใจที่จะสร้างความแข็งแรงและโอกาสให้กับธุรกิจของตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่ามันจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้ครับ
ทางแบรนด์เอง ก็มีความพยายามในจุดยืนนี้เสมอมาผ่านผลงานต่าง ๆ ที่พยายามทำให้ง่ายและทำให้เป็นไปได้ให้มากที่สุด หากใครนึกไม่ออก ตัวแอปพลิเคชัน หมอพร้อม ก็เป็นผลงานของ G-Able ที่ได้เป็นหนึ่งในทีมงานที่นำ Digital Solution & Practice ที่ทางแบรนด์มีเข้ามาเพื่อช่วยร่วมพัฒนาแอปตัวนี้ด้วย
ไม่ว่าจะเป็น Business Intelligence ที่เข้าไปช่วยจัดการข้อมูลจากแต่ละหน่วยงานให้สามารถอัพเดทและแสดงผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมไปถึงเรื่องของการทำ Data Analytic Dashboard ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการวางระบบไอทีและสร้างระบบวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้การบริหารจัดการภาครัฐในการวางแผนติดตามข้อมูลจำนวนผู้ป่วยในแต่ละพื้นที่ได้แม่นยำและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วยครับ
ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา แบรนด์ได้มีการทำ Branding Campaign เพื่อตอกย้ำให้ทุกคนที่ทำหน้าที่ตามหาโอกาสและสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม ได้รับรู้ว่า
การดำเนินธุรกิจหรือการดำเนินงานของทุกคนจะสามารถสร้างโอกาสและความเป็นไปได้ทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปจัดการเรื่องยุคยากทาง Technology ก็สามารถมุ่งสู่ความเป็นไปได้ของธุจกิจในยุค Digital เติบโตได้ในหลายมิติอย่างไร้ขีดจำกัด
หาก Technology เหล่านั้นถูกคิดและวางแผนอย่างถูกต้อง และเข้าใจธุรกิจเป็นอย่างดี
G-Able จะร่วมเข้ามาสร้างผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบทวีคูณจาก Good. Great. ไป จนถึง Greatness. ที่อยากเชิญชวนให้ทุกคนมาตามหา G ต่อไปของคุณด้วยตัวคุณเอง
นำไปสู่คำว่า “Possible.Simple.”
สำหรับใครที่สนใจ Technology & Digital Solutions for Business และคิดว่า G-Able สามารถช่วย Provide การแก้ปัญหาที่ธุรกิจของทุกคนกำลังเจออยู่ เพื่อการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และเตรียมรับมือกับทุกๆสถานการณ์ในการแข่งขันทางธุรกิจในโลก Digital ในปัจจุบัน
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook >>>https://facebook.com/gable.th
และ Website >>> https://bit.ly/3ARcV01
แล้วเจอกันบทความหน้านะครับทุกคน
ขอบคุณครับ
