Case Study: เปิดกลยุทธ์ พลิกเกมธุรกิจให้ข้ามผ่าน Covid-19 จาก AP Thailand

ตั้งแต่ช่วงปี 2020 ต่อเนื่องมาจนเดือนสุดท้ายของปี 2021 บอกได้เลยครับว่าไม่ว่าธุรกิจไหนก็ล้วนได้รับผลกระทบทั้งนั้น บางธุรกิจทนคลื่นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่ไหว ปรับตัวไม่ได้จนต้องล้มหายตายจากไปหลายราย ไม่เว้นแม้กระทั่งธุรกิจไซส์ใหญ่อย่างอสังหาริมทรัพย์ก็โดนผลกระทบไปด้วยเช่นกัน

น่าแปลกว่าถึงจะได้รับผลกระทบจากพิษ Covid-19 แต่ปีนี้ก็ยังเป็นอีกปีที่แข็งแกร่งของ AP Thailand แถมยังมีการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวที่มั่นคงในปีหน้าด้วย วันนี้เราลองมาวิเคราะห์กันดูว่า AP Thailand เขาใช้กลยุทธ์ไหน หรือมีวิธีการอย่างไรถึงได้ยังคงยืนหนึ่งท่ามกลางภาวะ Ripple Effect อย่างนี้ได้

สร้างโอกาสด้วยการกระจายความเสี่ยง

ในปีที่วิกฤติยังคงวนเวียนอยู่ไม่หายไปไหน AP Thailand ก็ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ที่เป็นอย่างนี้ได้นอกจากจะต้องพึ่งพาความพร้อมของทีมงานแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือกลยุทธ์ที่ดี ซึ่งในครั้งนี้ AP Thailand ใช้วิธีบริการความเสี่ยงในการบริหารจัดการพอร์ตสินค้าพร้อมขาย ให้กระจายไปในหลากหลายทำเล เพื่อสร้างโอกาสและความได้เปรียบในการแข่งขันที่มากขึ้น  

โดยในปี 2021 AP มีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 24 โครงการ เป็นมูลค่าประมาณ 27,550 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแนวราบจำนวน 22 โครงการ มูลค่าประมาณ 19,650 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมจำนวน 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 7,900 ล้านบาท และเมื่อรวมกับโครงการอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการขาย ทำให้ปัจจุบันเอพี มีโครงการกระจายอยู่ทั่วประเทศ มากถึง 120 โครงการ  มูลค่าพร้อมขายกว่า 196,000 ล้านบาท 

ซึ่งในช่วงสิ้นปี 2021 AP Thailand จะสามารถทำยอดขายจากอสังหาริมทรัพย์ในเครือได้มากถึง 35,800 ล้านบาท และคาดว่าปิดปี 2021 จะสามารถสร้างยอดโอนได้สูงกว่า 40,000 ล้านบาท 

จะเห็นได้ว่าแม้ภาวะล็อกดาวน์จะส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมาแต่ AP Thailand ก็ยังคงสร้างผลการดำเนินงานที่โดดเด่น นอกจากนี้ยังสามารถดูแลพนักงาน รวมถึงบริหารจัดการกระแสเงินสด และการรักษาสัดส่วนหนี้สิ้นต่อทุนที่ปี 2021 ต่ำเพียง 0.56 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2020 ที่ 0.71 อีกด้วย

เลือกใช้กลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ “คนหลงบ้าน”

ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุค Covid-19 นั้นทำให้ความหมายและความสำคัญของ “บ้าน” นั้นเปลี่ยนไปจากเดิม จากที่หลายคนมองว่าบ้านเป็นเพียงที่อยู่อาศัย กลับถูกยกระดับให้เป็นพื้นที่ที่เป็นได้ทั้งคาเฟ่ ห้องเรียน ห้องทำงาน ห้องไลฟ์ขายของ สตูดิโอ หรือแม้กระทั่งฟิตเนสย่อมๆ

ซึ่งทาง AP Thailand ก็ไม่พลาดในการจับเทรนด์นี้ ก็เลยส่ง 2 กลยุทธ์สำคัญมาใช้เพื่อมัดใจคนหลงบ้าน

1. โมเดลบ้านที่ดีที่สุด

กลยุทธ์นี้เป็นการเอา Insight จริงของผู้บริโภคมาวิเคราะห์และต่อยอดเป็นโมเดลบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อาศัย เช่น การปรับแปลนบ้านหน้ากว้างให้สามารถเพิ่มมุม Work from Home หรือ เรียนออนไลน์พร้อมรับแสงธรรมชาติได้ในเวลาเดียวกัน เป็นต้น

2. ใช้นวัตกรรมบ้านที่เข้าใจชีวิต 

เป็นการนำเอาเทคโนโลยีมาผสานเข้ากับการออกแบบพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนรวมโดยภายในบ้านหนึ่งหลังนั้นจะมีรายละเอียดการออกแบบที่ตอบสนองความต้องการทั้งในเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกสบาย

ซึ่งจาก 2 กลยุทธ์ที่ AP Thailand ส่งมา บวกกับเทรนด์คนหลงบ้านนั้น อาจเป็นอีกหนึ่ง Factor ที่ทำให้คนหันมาซื้อบ้านเพื่อขยับขยายเพื่อให้มีพื้นที่มากพอสำหรับทุกคนในบ้านเพื่อใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ได้หลากหลายมากขึ้น ส่งผลให้ดีมานด์บ้านเดี่ยวเอพีแรงไม่ตก โดยยอดขายที่เกิดขึ้นกว่า 60% ถือเป็นยอดขายที่มาจากสินค้ากลุ่มบ้านเดี่ยว

WORK FROM ANYWHERE จะไม่ใช่แค่เทรนด์อีกต่อไป

ข้อมูลจาก Morgan Stanley บริษัทด้านการเงินระดับโลก ได้ระบุว่าอีก 7 ปีข้างหน้า ครึ่งหนึ่งของแรงงานในสหรัฐฯ จะเป็นฟรีแลนซ์ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดคะเนของปีเตอร์ เลเวลส์ (Pieter Levels) สตาร์ทอัพ โปรแกรมเมอร์ และดีไซเนอร์ชาวดัตช์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ nomadlist.com ที่เปรียบเสมือนเข็มทิศการเดินทางไปทั่วโลกสำหรับชาว Digital Nomad ในปัจจุบัน ที่ว่าภายในปี 2035 จะมีคนทำงานอิสระที่เรียกตัวเองว่า Digital Nomad หนึ่งพันล้านคน จากข้อมูลปี 2019 ที่มีอยู่จำนวน 25 ล้านคน 

ถึงแม้ว่าข้อมูลนี้จะไม่ใช่ข้อมูลของคนไทยโดยตรง แต่ข้อมูลชุดนี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของคนรุ่นใหม่ที่สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ (Work from anywhere) ซึ่งการทำงานในลักษณะนี้จะกลายเป็น norm ปกติของชีวิตในอนาคต ถึงแม้วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคจะเริ่มคลี่คลายไปแล้วก็ตาม ดังนั้น การออกแบบพื้นที่อย่างชาญฉลาดจะกลายเป็นจุดขายใหม่ที่ดึงดูด Next Generation ที่มุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จได้อย่างดีที่สุด ทั้งเรื่องการทำงาน และด้านชีวิตส่วนตัว  

ผสานชีวิตวิถีใหม่ให้เข้ากับการอยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัว

ทุกวันนี้ผู้เล่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้นก็มีให้เห็นมากมายหลายแบรนด์ ทั้งแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่ แต่ละแบรนด์ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แต่สิ่งที่ทำให้ AP Thailand สามารถยืนหนึ่งในใจผู้บริโภคได้เพราะ AP ไม่ได้ตะบี้ตะบันขายแค่โครงการอสังหาฯ แต่พยายามออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกบ้านจริงๆ 

อย่างการเปิดตัว LIFE พระราม 4-อโศก คอนโดมิเนียมดีไซน์ใหม่ ที่ผสานแนวคิดการออกแบบสเปซในชีวิตวิถีใหม่ ให้เข้ากับชีวิตการอยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัว ด้วยจุดต่างของโครงการที่มีครบหมดแบบไม่จำเป็นต้องเลือกกับ CHOOSE  LIFE CHOOSE EVERYTHING โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลาง 5 ชั้น กว่า 8,635 ตารางเมตร หรือ 5.39 ไร่  ที่ได้รับการออกแบบให้เป็นสวรรค์ของคนเมืองรุ่นใหม่ รองรับไลฟ์สไตล์ในทุกรูปแบบจะ WORK – PLAY – CHILL – PEACE ไม่ต้องเลือกเพราะได้หมดในที่เดียว  

หรือทาวน์โฮมแบรนด์ บ้านกลางเมือง หรือพลีโน่ ที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบทั้งภายในและภายนอก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “พลิกแนวคิดชีวิตแนวตั้ง”  โดดเด่นด้วย 3 จุดขาย ได้แก่

1. พลิกมิติเปิดมุมมองที่กว้างขึ้น ด้วยบ้านหน้ากว้างที่กว้างสุดถึง 11.5 เมตร 

2. พลิกฟังก์ชันใหม่ เพื่อรองรับการ work from home ได้อย่างไร้ขีดจำกัด 

3. พลิกประสบการณ์อิสระการอยู่อาศัย ด้วยการจัดวางตัวบ้านในมิติใหม่ที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวเหมือนอาศัยอยู่บ้านเดี่ยว  

ถึงต้องรักษาระยะห่างแค่ไหน แต่ยอดขายก็ไม่มีตก

อีกหนึ่งปัญหาสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงการแพร่ระบาดนี้ก็คือ การเข้าเยี่ยมชมโครงการ อย่างที่เรารู้กันว่าการเข้าชมโครงการหรือบ้านตัวอย่างนั้นมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เพราะบ้านนั้นเป็น High Involvement Product ที่ต้องใช้ข้อมูลและความคิดในการไต่ตรองก่อนตัดสินใจซื้อจากสถิติ

ข้อมูลในปีนี้ลูกค้าคอนโด AP กว่า 85% สอบถามข้อมูลหรือนัดหมายเยี่ยมชมโครงการผ่านดิจิตอลแพลตฟอร์มต่างๆ ของ AP เพิ่มมากขึ้น 

แต่ถึงแม้ว่าในเวลาที่ต้องรักษาระยะห่างกันอย่างนี้ AP ก็ยังจัดการได้ดี ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ในการเยี่ยมชมโครงการได้แบบไม่มีสะดุดด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกอย่าง ONE CLICK NEW HOME โซลูชันใหม่กับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเครือ AP ที่ได้รับการพัฒนาขึ้น เพื่อส่งตรงประสบการณ์เสมือนเดินทางไปยังชมโครงการจริง ทั้งพื้นที่ส่วนกลาง ห้องจริง วิวจริง พร้อมบรรยากาศกลางวันและกลางคืน ด้วยความละเอียดสูงสุดแบบ 360°  ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการนำเสนอสินค้าผ่านประสบการณ์โลกดิจิตอลเสมือนจริง 

พัฒนานวัตกรรมที่เข้าถึงได้ในทุก Generation 

เมื่อลูกค้ามีความต้องการที่ต่างกันไป Challenge ที่น่าสนใจก็คือ เราจะสร้างนวัตกรรมที่ใช้งานได้จริง บนพื้นฐานความต้องการและเข้าถึงได้ง่ายให้กับในทุก Generation ได้อย่างไร?

ซึ่งในฝั่งของ AP Thailand เองก็มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ตอบรับกับการใช้วานของลูกบ้านให้ได้มากที่สุด ด้วยการใช้ดิจิตอล เซอร์วิส แพลตฟอร์ม “SMART WORLD ชีวิตที่เลือกได้” ในการบริหารคุณภาพชีวิตหลังการอยู่อาศัยที่ AP พัฒนาให้เป็นแอปพิเคชันเดียวที่เอ็มพาวเวอร์ให้การใช้ชีวิตในบ้านเป็นเรื่องง่าย แบบที่เลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละคน  ด้วยกว่า 100 บริการ จาก 24 ฟังก์ชัน ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดยผสมผสานวิธีคิดภายใต้หลัก Design Thinking เข้ากับการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เสถียรและเข้าถึงได้ทุก Generation  

โดยในตอนนี้ SMART WORLD มีผู้ใช้บริการแล้วกว่า 80,000 ยูสเซอร์ และมียอดผู้ Active User เฉลี่ย 48,000 ยูสเซอร์ต่อเดือน ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมบริการด้าน Property Management ที่โดดเด่นอีกบริการหนึ่งของ AP

ภูมิใจ แต่ไม่นิ่งนอนใจในการเป็นที่ 1

การก้าวขึ้นสู่การเป็นที่ 1 นั้นไม่ใช้เรื่องง่าย แต่ที่ยากกว่าก็คือการรักษาตำแหน่งไว้ให้ได้เสียมากกว่า และถึงแม้ว่า AP Thailand จะขึ้นแท่นเป็นที่ 1 แต่ก็ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยแนวคิดที่ว่าเมื่อไหร่ที่เราหยุด เท่ากับเรากำลังถอยหลังไป 1 ก้าวแล้ว เมื่อกติกาโลกเปลี่ยนไปตลอดเวลา ถ้า AP ไม่ทำงานแบบ Go Beyond ก็จะไม่สามารถหา Next Normal ที่จะเป็นความได้เปรียบทางธุรกิจได้

และด้วยการพัฒนาแบบไม่หยุดนิ่งนี้ส่งผลให้ AP Thailand ได้รับรางวัลที่เปรียบเสมือนการการันตีถึงเสียงตอบรับที่ดีทั้งจากลูกค้า พันธมิตรและสื่อมวลชน เช่น Hall of Fame Award แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่คนไทยเชื่อถือที่สุด ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ซึ่ง AP นั้นถือเป็นรายแรกในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับรางวัลนี้

นอกจากนี้ยังมีรางวัล Thailand’s Most Admired Company ด้านบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่คนไทยเชื่อถือที่สุด จากทีมวิจัย BrandAge สื่อการตลาดชั้นนำของไทย หรือรางวัล 2021 Thailand Real Estate Personality of the Year award รางวัลที่มอบให้บุคคลแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ประจำปี ซึ่งพิจารณาจากความเคลื่อนไหว ผลงาน ความสำเร็จ และเป็นผู้บริหารไทยท่านแรกที่ได้รับรางวัลนี้เป็นครั้งที่สอง  

ด้วย Passion ที่มาพร้อมกับกลยุทธ์ที่เฉียบขาด การทำความเข้าใจ Insight ลูกค้า และการพัฒนาที่ไม่เคยหยุดนิ่ง บวกกับประสบการณ์ความเก๋าเกมส์ที่ผ่านมาแล้วหลายวิกฤต จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม AP Thailand จึงสามารถก้าวผ่านมาได้ครั้งนี้มาได้อย่างสวยงาม

ถึงแม้ว่าคุณไม่ได้อยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ แต่นักการตลาดเองก็สามารถนำกลยุทธ์ของ AP Thailand ไปปรับใช้ได้ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณเข้าใจลูกค้า รู้ว่าลูกค้ากำลังต้องการ หรือมองหาอะไร และพัฒนาสินค้า และบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ Pain Point ของลูกค้าให้ได้มากที่สุด คุณก็สามารถขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ในใจลูกค้าได้เช่นกัน

สำหรับใครที่สนใจอยากศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการตลาดในแง่มุมอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถคลิกอ่านได้ ที่นี่

นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถติดตามเรื่องราวการตลาดที่น่าสนใจได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนค่ะ