เคยได้ยินไหมครับว่าอะไรที่่ได้มายากนั้นจะดูมีความหมายมากขึ้นเสมอ Case Study วันนี้ผมเอาตัวอย่างโฆษณา ที่เอาหลักจิตวิทยาในเรื่องของความมาใช้ในการดึงความสนใจของคน ตามมาดูกันครับว่าจะหายากสักแค่ไหน แล้วความหายากนั้นสามารถดึงใจคนได้จริงไหม… แต่เตือนไว้ก่อนนะครับว่าอย่าพบาดสักบรรทัด เพราะระวัง! จะหาไม่เจอ ใช้หลักจิตวิทยาเพื่อสร้างโอกาสในแง่การตลาด Ad ชุดนี้จะไม่ทำคุณเสียเวลาชีวิตมากมายนัก เพราะเขาให้เวลาคุณแค่ 15
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดได้รับความนิยมจากคนทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะเมนูยอดฮิตอย่าง “พิซซ่า” จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นเซนร้านพิซซ่านั้นเติบโตกันอย่างรวดเร็วและผุดขึ้นกันราวกับดอกเห็ด นั่นจึงเป็นสาเหตุให้การแข่งขันในตลาดค่อนข้างร้อนแรง ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องงัดกลเม็ดเด็ดมาช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดี เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกอยากกลับมาซื้อซ้ำในครั้งถัดไป ไม่เพียงแข่งขันด้วยตัวสินค้าแต่ต้องแข่งขันในแง่ประสบการณ์ของลูกค้าด้วย อย่างที่บอกไปว่าตลาดการแข่งขันของธุรกิจอาหารประเภทนี้นั้นค่อนข้างสูง จะเห็นได้จากการที่ร้านพิซซ่าสมัยนี้ไม่ได้แค่รับประกันส่งถึงที่ภายใน 30 นาทีอีกแล้ว แต่ยังรับประกันความพึงพอใจทุกรูปแบบ ให้เปลี่ยนถาดใหม่ได้ทันทีฟรีไม่มีเงื่อนไขด้วย เรียกได้ว่าพยายามอุดรอยรั่วอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ลูกค้าได้รับอาหารที่มีคุณภาพ
สำหรับธุรกิจอากหารการแก้ปัญหาร้องเรียนของลูกค้าในแง่คุณภาพของสินค้านั้นค่อนข้างเป็นเรื่องยากและน่าปวดกหัวไม่น้อย เพราะในบาวครั้งคนเราก็ไม่สามารถทำอาหารได้เหมือนเดิมเป๊ะๆ ในทุกๆ จาน ทาง Domino’s Pizza ประเทศออสเตรเลีย จึงพยายามนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้และพัฒนาให้สามารถช่วยทางร้านจัดการปัญหานี้ได้ แต่จะทำได้อย่างไร และใช้เทคโนโลยีไหนมาเป็นตัวช่วยนั้น มาลองติดตามกันในบทความนี้ครับ เลือกใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาอย่างแม่นยำและตรงจุด ปัญหาการร้องเรียนของลูกค้าอันดับหนึ่งบองลูกค้า Domino’s
วันนี้ #การตลาดวันละตอน นำอีกหนึ่ง Case Study ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการวางกลยุทธ์การตลาดด้วยการศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคมาฝากกันครับ บอกเลยว่าเป็นเคสที่สามารถแทรกซึมและทำให้ผู้บริโภคเปิดประตูรับแบรนด์ได้แบบเต็มใจและไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลย มาดูกันครับว่าเขาทำได้อย่างไร Manulife ออกแบบกระถางต้นไม้เสริมดวงให้ชีวิตยืนยาว เมื่อบริษัทประกันชีวิต Manulife ที่ประเทศสิงค์โปรมีจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องการปกป้องและดูแลชีวิตของผู้คน เลยไม่หยุดอยู่แค่สินค้าอย่างประกัน แต่ยังทำวัตถุที่จับต้องได้ของแบรนด์ให้เข้าไปอยู่ในบ้านของคนด้วย
รู้หรือไม่ว่าทุกวันนี้เราถูกบริษัทอย่าง Google, Facebook, YouTube และบริษัทเทคโนโลยีด้านข้อมูลอื่นๆ มากมายเก็บข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตของเราทุกวันๆ เพื่อเอาไปทำการตลาดต่อ หรือเอาไปขายให้กับนักการตลาดต่ออยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้น ในสิ่งเดียวกัน ทำไมเราถึงไม่เลือกเอา data เราไปบริจาคให้องค์กรการกุศลเอาไปขายแทนล่ะ? Donate 4.0
ปัจจุบันผู้บริโภคนั้นให้ความสนใจในตัวโฆษณาน้อยลงมาก บางคนอาจรำคาญจนถึงขั้นเลือกที่จะข้ามหรือหลีกเลี่ยงการชมไปเสียอย่างนั้น ทำให้แบรนด์ต่างๆ จำเป็นต้องหากลยุทธ์ในการทำการตลาดเหมาะจะใช้กับการสร้างโฆษณา เพื่อให้คนกลับมาสนใจในสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ซึ่ง Contextual Marketing ก็เป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์ที่น่าสนใจไม่น้อย วันนี้ #การตลาดวันละตอน เลยยกตัวอย่างเคสที่ใช้กลยุทธ์นี้ในการทำโฆษณาให้น่าสนใจมาฝากกันครับ จับกลยุทธ์ Contextual Marketing
ผมว่าหนุ่มๆ หลายคนโดยเฉพาะคุณพ่อบ้านต้องเคยเจอเหตุการณ์เหล่านี้กันมาบ้าง ที่กำลังนั่งเล่นแบบเมามันอยู่ดีๆ แต่กลับถูกประกาศิตให้ไปทำงานบ้านซะเดี๋ยวนั้น! ใจนึงก็อยากลุกไปทำ แต่ตัวดันติดพันอยู่กับเกมซะนี่ วันนี้ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปครับ เพราะทาง Xbox ได้ไปล้วง Insight แล้วจัดแคมเปญแก้ปัญหาให้หนุ่มๆ เล่นเกมยาวๆ ได้แบบหมดห่วง ล้วงลึก
Video Pre-roll Ads ที่เราคุ้นเคยกันดีก็คือการรับชมโฆษณาก่อนจะถึงตัวคอนเทนต์จริงที่เราต้องการรับชม ซึ่งตัว YouTube Pre-roll Ads ผู้ชมสามารถที่เลือกได้ว่าจะ Skip หรือรับชมจนจบก็ได้ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะดูไม่ค่อยจะจบเท่าไหร่นัก ทำให้หลายๆ แบรนด์พยายามปรับตัว Pre-roll
เวลาเข้าไปดู YouTube คนส่วนใหญ่ก็มักจะกดข้ามโฆษณาที่ขึ้นมาคั่นกันรัวๆ เลยใช่ไหมครับ วีฝันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังถึงไอเดียการทำให้คนหยุดดู Pre-Roll Ads. จนจบ ไม่กดเลื่อน กดข้ามมาฝากกันครับ เปลี่ยน Pre-Roll Ads.เป็นการโหวตให้ศิลปินหน้าใหม่ YouTube Pre-Roll
การตลาด ที่เราจะเล่าให้ฟังนี้ หนอนหนังสือ สำนักพิมพ์ และโดยเฉพาะนักเขียนหนังสือ นี่คือเคสการตลาดที่คุณไม่ควรพลาด ปัญหาหนักใจสำหรับนักเขียนหน้าใหม่ ในประเทศโคลอมเบีย โดยเฉลี่ยแล้วประชากรอ่านหนังสือถึงคนละ 2.2 เล่มต่อปี แต่ปัญหาก็คือคนส่วนใหญ่มักจะเลือกหนังสือที่ชื่อคุ้นเคย ก็เลยกลายเป็นหนังสือคลาสสิกเก่าแก่ที่ขายดีอยู่แล้วก็ยิ่งขายดียิ่งขึ้นไปอีก ปัญหาหนักเลยไปตกอยู่ที่บรรดานักเขียนหน้าใหม่ในประเทศที่แม้จะเขียนออกมาได้ดีแต่ก็ไม่มีใครเลือกอ่าน เพราะชื่อหนังสือไม่คุ้นเอาเสียเลย