หนึ่งแพลตฟอร์มที่หลายแบรนด์มักใช้เมื่ออยากทำ Influencer Review หรือเพื่อเพิ่ม Awareness ก็คือ Instagram โดยเฉพาะในยุคที่กลุ่ม Micro-influencers มาแรงมาก ทำให้การจ้างอินฟลูตัวเล็กๆ นั้นยิ่งเพิ่มขึ้นแบบแพร่หลายสุดๆ เหมือนตอนนี้หันไปทางไหนก็มีรีวิวแล้ว เพราะมันไม่ได้มทีแบรนด์ใหญ่เท่านั้นที่จ้าง แต่ยังมีแบรนด์เล็กๆ แบรนด์ออนไลน์อีกที่เลือกใช้ตัวเล็กเหล่านี้ ซึ่งแน่นอนว่าเวลา Influencer ลงโพสต์ก็จะลงรูปและแค่ Tag Brand หรือใส่ #Ad เท่านั้น แต่ในปี 2020 ไอจีเค้าจะออกเครื่องมือตัวใหม่ที่จะทำให้การจ้างอินฟลูต้องเป็นการลงแบบ Sponsored Post หรือแบบ Paidpartnership เท่านั้นค่ะ สามเหตุหลักของการที่ Instagram มุ่งมั่นมากในการทำเครื่องมือตัวนี้ก็คือ เค้าต้องการเพิ่ม Transparency ให้กับแพลตฟอร์มค่ะ ยิ่งมีแรงกดดันจาก The
Search Results for: Review
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมาบริษัท MyCloudFulfillment ได้จัดงานแถลงข่าวบนหัวข้อ The Future of Digital Commerce ที่ทำให้เราเห็นกาเปลี่ยนแปลงของภาพรวมตลาดออนไลน์หลังจากวิกฤตโควิด-19 ในไทยค่ะ เริ่มตั้งแต่อัตราการเติบโตของยอดขายบน Online Commerce ที่ทำให้เห็นว่าประเทศไทยของเรานั้นมีกำลังการซื้อสูงพอๆ กับประเทศอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเชียงใต้อย่าง Indonesia แต่ด้วยระดับ Internet Penetration ที่น้อยกว่ามาก ยิ่งตอกย้ำให้เราเห็นได้ว่า ประเทศไทยนั้นยังมีโอกาสที่ตลาดออนไลน์จะสูงขึ้นอีกเยอะในอนาคตนั่นเองค่ะ โดยบริษัท MyCloudFullfillment ก็ได้แชร์ข้อมูลหลังบ้านของตัวเอง ที่พวกเค้าได้ทำการเปรียบเทียบการเติบโตของยอดขายของสินค้าจากธุรกิจต่างๆ พบว่าธุรกิจที่ Perform ได้ดีที่สุดช่วง COVID19 คือกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มค่ะ ที่คนแห่กันมาซื้อผ่านออนไลน์แทน อันดับ 2 ก็คือกลุ่ม Home
ทุกวันนี้หันไปทางไหนก็มีแต่ Content มากมายเต็มไปหมด เพราะนอกจากแบรนด์จะทำ Content ของตัวเองแล้ว ผู้บริโภคก็ทำ Creator ก็ทำเหมือนกัน จนเกิดเป็นกระแส User Generated Content หรือ UGC ที่แบรนด์อยากลุกขึ้นมา กระตุ้นให้คนพูดถึง บอกต่อแบรนด์กันเยอะๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็หนีไม่พ้นความต้องการของแบรนด์ที่อยากให้คนติด Branded Hashtags เข้าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นแฮชแท็กชื่อแบรนด์ แฮชแท็กชื่อแคมเปญ แฮชแท็กชื่อสินค้าอีก ทำเอาคนเหนื่อยหน่าย ไม่อยากจะติดแท็กค่ะ
อีกหนึ่งเครื่องมือที่นักการตลาด หรือแม้กระทั่งเจ้าของธุรกิจ SMEs ต่างๆ ห้ามพลาดเลยคือฟีเจอร์ใหม่ของ Facebook ค่ะ นั่นก็คือตัว Facebook In-App Shop ที่จะทำให้การซื้อของบน Facebook นั้น สะดวกสบายขึ้นบน App หลักของ Facebook เลย อีกอันก็คือตัว Instagram Shopping ที่สามารถทำได้ขณะ LIVE แล้ว ก่อนหน้านี้ Facebook และ Instagram เองก็มีปรับ เพิ่มหลากหลายลูกเล่นใหม่ๆ มากมายเพื่อช่วยผู้ประกอบการช่วง COVID19 วันนี้ เค้าก็ยังพัฒนาต่อ เพื่อรองรับเทรนด์การซื้อของออนไลน์ที่มีไหลเข้ามามากกว่าที่เคย ซึ่งในอเมริกาเนี่ย Facebook ก็ได้ทำการ Test ตัวฟีเจอร์ใหม่ Shop ไปแล้วนะคะ
จากที่ปกติการขายออนไลน์เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว พอมี COVID19 เข้ามา เหมือนมีหนึ่ง accelerator สำคัญ ในการ Force และยกระดับการขายออนไลน์ให้กลายเป็น Norm ไปซะอย่างงั้นเลย เรียกได้ว่าช่วง COVID19 น้อยแบรนด์มากๆ ที่จะไปโยกเอาตัวเองมาอยู่ในโลกดิจิตอล แถมยังไม่พอ มากกว่าการขายแค่ดิจิตอล เห็นที่จะเป็นเรื่องของการขายแบบ Social Commerce ที่มีทั้งการพูดคุยบนออนไลน์หรือแชท ไปพร้อมๆ กับการขายของไปในตัว โดยเรื่องของ Social Commerce หรือ Social Media
หลาย ๆ ประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการเก็บตัวอยู่บ้าน บริษัทต่างๆ ก็เริ่มมองหาหนทางที่จะทำตลาดกับลูกค้าในรูปแบบที่สอดรับกับวิถีใหม่ ขณะที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง แต่บริษัทต่างๆ ยังต้องตัดสินใจว่าควรจะลงโฆษณาเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับจากช่วงเศรษฐกิจถดถอยก่อนหน้านี้ทำให้เราทราบว่าการระงับ หรือยุติการโฆษณาไม่ใช่ทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับแบรนด์ต่างๆ ที่พยายามฟันฝ่าวิกฤตในครั้งนี้อย่างแน่นอน ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยเมื่อปี 2551 จอห์น
ปีที่ผ่านๆ มา เรียกได้ว่ามี Influencers หน้าใหม่โผล่ขึ้นมา จนแบรนด์เอย เอเจนซี่เอย เรียกใช้ไม่ถูกเลย ไหนจะมีสื่อโซเชียลใหม่ๆ ที่ขึ้นมาอีก ก็กลัวว่าจะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำหรือเปล่า ทั้งนี้เลยทำให้ธุรกิจอย่าง Influencer Platform เกิดขึ้น
เคยสังเกตไหมวะว่า ตัวเราเองเนี่ย Shop ออนไลน์มาก็หลายร้าน แต่เวลาจะซื้อของชิ้นถัดไปบนออนไลน์ทีไร ก็ยังต้องมองหา Review หาคน Comment อะไรต่างๆ นาๆ ถึงจะตัดสินใจซื้อ แถมบางร้านเข้าไป ยังกลับคลิกออก กดกากบาทแล้วไปหาร้านอื่นแทนด้วย ฮั่นแน่… งั้นลองเปลี่ยนหมวกกลับมาเป็นนักการตลาดกันค่ะ แล้วลองคิดดูว่า เว็บ E-commerce ของคุณหรือในการดูแลของคุณนั้น
ในช่วง Quarantine ที่ผ่านมา สิ่งนึงที่เราหลายๆ คนสามารถสัมผัสได้ก็คือ ผู้คนมากมายต่างหลั่งไหลเข้าไปในแอปโซเชียลอย่าง TikTok กันมากขึ้น จนหลายๆ คนเริ่มกลายเป็นดาวติ๊กต่อกกันหมดแล้วใช่ไหมคะ? ซึ่งวันนี้เพลินก็มีอีกหนึ่ง Insight ดีๆ จาก Adweek มาแชร์กัน เพราะเค้าบอกว่า นอกจากคนจะเข้าไปเล่นติ๊กต่อกมากขึ้นแล้ว คนยังสามารถเข้าถึงเหล่า ‘ดาว TikTok’ หรือ TikTok Influencers ได้มากกว่า Instagram
ชั่วโมงนี้ หันไปทางไหนก็เจอแต่คนเล่น TikTok ถึงแม้เราจะไปอยู่บนแพลตฟอร์มอื่นก็แล้ว คลิปสั้นจาก TikTok ก็ยังโผล่เข้ามาใน Instagram Facebook Twitter และอื่นๆ อยู่ดี ทำให้นักการตลาดหลายๆ คนเล็งจะทำแคมเปญ Challenge ต่างๆ บนติ๊กต่อกกันเป็นจำนวนมาก วันนี้เพลินเลยจะมาแชร์เรื่อง TikTok Algorithm ให้ฟังกันก่อน ว่าเจ้าระบบหลังบ้านของแอปเค้าทำงานยังไง จะได้อุดรูรั่ว เพิ่มยอดกระแสความฮิตได้ถูกค่ะ ก่อนอื่นถ้าคุณคิดว่า TikTok นั้นทำงานแบบ Personalization ถูกต้องแล้วค่ะ