5 Influencer Marketing Trends ที่นักการตลาดควรรู้

5 Influencer Marketing Trends ที่นักการตลาดควรรู้

ปีที่ผ่านๆ มา เรียกได้ว่ามี Influencers หน้าใหม่โผล่ขึ้นมา จนแบรนด์เอย เอเจนซี่เอย เรียกใช้ไม่ถูกเลย ไหนจะมีสื่อโซเชียลใหม่ๆ ที่ขึ้นมาอีก ก็กลัวว่าจะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำหรือเปล่า ทั้งนี้เลยทำให้ธุรกิจอย่าง Influencer Platform เกิดขึ้น เพื่อช่วยแบรนด์เลือกหา Influencers หลากหลายระดับให้ตรงความต้องการมากขึ้น วันนี้ก็เลยเพลินจะมาแชร์ Influencer Marketing Trends ที่นักการตลาดไม่ควรพลาดให้ฟังกัน ว่าเราควรจะ เลือกหรือ Treat พวกเค้ายังไงบ้างคะ

1. เลือกใช้ Influencers Hub Platform

ปกติเวลาแบรนด์จะเลือกใช้ Influencer ไม่จ้างเอเจนซี่ ก็ต้องนั่งหาเองใช่ไหมเอ่ย? ใครน่าสนใจ มี Followers มียอด Likes เพจเยอะๆ ก็ติดต่อ DM หรือ Inbox เข้าไปหา ขอส่งของไปให้ใช่ไหมคะบ้าง ถามเรทรีวิวบ้าง กว่าจะได้มา 10 คน 20 คน นี่ทำเอาปวดหัวไป 7 วัน แถมหลายๆ ครั้งยังไม่รู้ด้วยว่าจริงๆ แล้ว ยอด Follower หรือข้อมูลหลังบ้านของ Account ของเน็ตไอดอลคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เคยซื้อ Followers หรือว่าซื้อ Likes มาบ้างหรือเปล่า

ดังนั้นการ Invest ลงในแพลตฟอร์มอย่าง Influencer Hub ที่รวบรวมเหล่านักรีวิวเอาไว้ให้แล้วเนี่ย จึงเป็นอะไรที่นอกจากจะสะดวกสบายแล้ว ถ้าเลือกแบบมีระบบ modeAI อย่างของ Motive Influence ด้วย ก็จะสามารถจับ Fraud หรืออะไรที่มันแปลกๆ ปลอมๆ ออกไปด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Fake Engagement หรือ Fake Followers ที่ถูกซื้อมา Boost แบบ 1 วันก่อนส่ง Report อะไรทำนองนั้น เพราะฉะนั้นข้อดีของ Motive Influence คือ เราจะได้เห็นว่า ใครหนอที่เป็น Influencer จริงๆ บ้าง ซึ่งบางทีเน็ตไอดอลคนนั้นอาจจะมี Follower แค่หลักพัน แต่มีคน Engagement rate อยู่ที่ 50% ของ Followers ทั้งหมดก็ได้ 

2. เลือกใช้ Influencer ที่ทำ Video Content ได้

อย่างที่หลายๆ คนน่าจะทราบกันดีว่า Video Content นั้นเป็นอะไรที่ ​Boom มากในวันนี้ นอกจากคนจะชอบเสพเนื้อหาเชิง Video แล้ว เหล่า Social Media ต่างๆ ก็พร้อมใจกันดัน Video Content เพิ่มด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรทำในปีนี้ หากคุณอยากใช้ Influencer Marketing ก็คือ การมองหา Influencers ที่สามารถทำ Video Content ได้ด้วยนั่นเองค่ะ 

กลับกันถ้ามองในมุมของ Influencers เอง ก็ควรจะปรับตัว หันมาทำเนื้อหาเชิงวิดิโอมากขึ้นเหมือนกัน ไม่ว่าจะอยู่บนแพลตฟอร์ม YouTube / TikTok / IG TV หรือ Facebook ก็ตาม เพราะวันนี้ทุกๆ ช่องทางก็หันมา Invest กับเหล่านัก Content เพิ่มขึ้นแล้ว ซึ่งหากแบรนด์หรือเอเจนซี่อยากได้ Influencers lists ที่ทำวิดิโอแล้วได้ Engagement ดีๆ ก็สามารถ Customize หา Creators ดีๆ ได้ใน Motive Influence เช่นกันค่ะ

3. โฆษณาก็บอกว่าโฆษณา

เดี๋ยวนี้คนออนไลน์ต้องการความโปร่งใสมากขึ้นค่ะ ถ้าแบรนด์กับ Influencer ยังมานั่งหลอกให้ดูคลิปหรืออ่าน Content ไป 3 นาที แล้วแอบมาขายของเนี่ย ระวังคนคอมเม้นต์ตำหนิได้เลย กลับกันหากคุณบอกว่า นี่เป็น Sponsored Content นะตั้งแต่แรก คนที่ยอมดูเนี่ยแหละ จะกลายเป็น Potential Target ชั้นยอดของคุณเลย เพราะเค้ามี Intention ความต้องการอยากได้ อยากซื้อจริงๆ แล้ว ยิ่งใครดูจบคลิปหรือดูมากกว่า 1 นาที เราก็เตรียมยิง Retargeting ขายของกลับไปได้เลยค่ะ เพราะฉะนั้นเรื่องของ Transparency จึงสำคัญมากในวันนี้ อย่าง Content นี้ เราเองก็ยืดอกพูดเลยว่าเป็น Sponsored Content เช่นกันค่ะ

4. สร้าง Creative Content ไม่ใช่ Ads

มีประโยคสุดฮิต ที่ดังมากในปีที่ผ่านมาอย่าง ‘คนไม่ได้ไม่ชอบโฆษณา คนแค่ไม่ชอบโฆษณาที่น่าเบื่อ’ อะ ถ้าคิดกลับกันจากนักการตลาดไปเป็นผู้บริโภคบ้าง เราเองก็ไม่อยากเสพเนื้อหาที่มันเป็น Ads จ๋าๆ ใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นหากคุณทำงานร่วมกับ Influencers ละก็ คุณก็ต้องยกหน้าที่ Creative ให้กับเจ้าตัวเองด้วย อย่าไปควบคุมหรือเขียน Description ให้เค้าจนตัวตนของ Influencers นั้นเปลี่ยนไปค่ะ

ซึ่งข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสเน่ห์ของ Motive Influence ด้วยเช่นกัน เพราะที่แพลตฟอร์มของ Motive Influence เค้าเน้นสร้าง Content ที่มีคุณภาพ เน้นเอกลักษณ์ความเป็นตัวเองของเหล่า Influencers แต่ละคนที่มีใน Platform ทำให้เหล่า Influencers สามารถ Interact กับ Followers ของพวกเค้าเองได้ตามสไตล์ที่พวกเค้ารู้กันค่ะ

5. หมดยุคดูแต่จำนวน Followers และจำนวน Page likes

ข้อสุดท้ายที่สำคัญมากๆ ก็คือ แบรนด์ควรหยุดดูเฉพาะจำนวน Followers หรือ Page Likes ได้แล้วในการทำ Influencer Marketing เพียงเพราะคิดว่ามันคือ Brand Exposure ที่คุ้มค่า อย่างที่บอกไปก็คือ Investment ที่คุ้มค่านั้น ไม่ได้ดูจากจำนวนผู้ติดตามอย่างเดียว แต่ต้องดูจาก Factor อย่าง Engagement Rate ที่คำนวณทั้ง Likes Comment Share กับจำนวน Followers ค่ะ ทั้งนี้อย่างที่บอกคือ แบรนด์ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับการคำนวณสิ่งเหล่านี้เอง เพราะเดี๋ยวนี้เค้ามีระบบ AI ฉลาดๆ ที่สามารถทำงาน และคำนวณ ดักจับ Fraud ได้อย่างแม่นยำแล้วผ่าน Influencer Hub ของ Motive Influence ค่ะ

ทำความรู้จักกับ Motive Influence สั้นๆ

Motive Influence - Influencer Marketing Trends

Motive Influence เนี่ย จริงๆ เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มตรงกลาง ช่วย Influencers หาแบรนด์แล้วก็ช่วยแบรนด์หารีวิวเวอร์ที่แท้จริง โดยวิธีการก็คล้ายกับแพลตฟอร์ม Influencer อื่นๆ เลยค่ะ โดยที่ Motive Influence เน้นให้เหล่า Natural Sharer ได้มาลงทะเบียนตาม Persona ของตัวเอง แล้วหากมีสินค้าหรือแบรนด์ที่เกี่ยวข้องเข้ามา ก็จะทำการ Pick up ขึ้นมาร่วมกิจกรรมกับแบรนด์ แต่อย่างที่บอกว่า จุดเด่นข้อดีของเค้าคือ จุดเด่นข้อดีของเค้าคือแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยแรงบันดาลใจ อีกทั้งยังใช้ modeAI ที่ทำให้แบรนด์สามารถรู้ได้ว่า ใครที่ใช้แล้วคุ้มกับเงิน หรือใครที่ใช้แล้วคุ้มค่ามากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ค่ะ

ตัวอย่าง Case study ของ Motive Influence:

Motive Influence - Influencer Marketing Trends
  1. C-Vitt: จัดกิจกรรมเปิดตัวเครื่องดื่มสูตรน้ำตาลน้อยจาก โดยแบรนด์ต้องการสื่อสารให้ผู้บริโภคตระหนักว่าวิตามิน C มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อายุเท่าไหร่ หรือมีไลฟ์สไตล์อย่างไรก็ตาม Motive Influence ก็เลยได้รวบรวมเหล่า Micro Influencers คุณภาพ กว่า 100 คน ครอบคลุมตามประเภทไลฟ์สไตล์ ทั้งกลุ่มคนชอบออกกำลังกาย นักเดินทาง นักศึกษา หรือพนักงานออฟฟิศช่วยรีวิว กระจาย Awareness จนประสบความสำเร็จค่ะ
Motive Influence - Influencer Marketing Trends
  1. Thai Vietjet Airlines: จัดกิจกรรมที่ต้องการประกาศให้ผู้บริโภครับรู้ว่า สายการบินได้มีการเปิดเส้นทางบินใหม่สู่กระบี่จากกรุงเทพฯ แล้วในราคาที่คุ้มค่าแก่ผู้บริโภคทุกคน Motive Influence ก็ได้จัด Micro Influencer ที่ชื่นชอบเดินทางท่องเที่ยวมาร่วมโปรโมทเส้นทางบินใหม่นี้ ผ่านการเล่าเรื่องที่หลากหลายทำให้สร้าง Awareness ได้เป็นอย่างดี เช่น ถ่ายรูปคู่กับหมวก ถ่ายรูปคู่กับตุ๊กตา รวมถึงเต้นประกอบเพลงจาก Thai Vietjet Air ด้วยค่ะ

ทั้งหมดนี้ก็คือ Influencer Marketing Trends ที่หากแบรนด์ไหนกำลังจะส่งของให้ Reviewer หรือ Influencers ช่วยรีวิวก็อย่าลืมนำไปปรับใช้ และพิจารณาดูนะคะ ส่วนใครที่สนใจบริการ modeAI ของ Motive Influence ก็สามารถเข้าไปที่ >> https://www.motiveinfluence.com/?utm_source=EverydayMarketing&utm_medium=advertorial

Sponsored Content 

Plearn Wisetwongchai

Marketing Strategic Planner ในเครือการตลาดวันละตอน | A Creator สาวพลัสไซส์ @Fabfatkid | A Travel Lover ที่หมดเงินเกือบ 80% ไปกับการเดินทางแบบแมสๆ | An Instagrammer @theplearn ที่ชอบเล่น Story เป็นชีวิตจิตใจ | สุดท้ายคือ Data Researcher ทั้ง Social และ Search Data etc. ค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน