ใกล้จะหมดปีเข้ามาทุกทีแล้ว นักการตลาดหลายคนอาจกำลังวุ่นอยู่กับการปิดจ๊อบปีนี้ และเตรียมความพร้อมสำหรับแผนใหม่ปี 2022 กันอยู่ใช่ไหมคะ นุ่นเดาว่าหนึ่งในความวุ่นวายนั้นก็จะต้องมีการดูรายงานเทรนด์ที่เกี่ยวข้องประจำปีเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มต่าง ๆ ร่วมด้วยแน่นอน ถ้าจะมองเทรนด์ที่ใหญ่และอิมแพคกับตลาดก็คงหนีไม่พ้น ‘เรื่องกิน’ วันนี้นุ่นเลยเลือกนำส่วนที่น่าสนใจของ Food Trends 2021 จาก
Case Study : นักการตลาดใช้ Social Data เพื่อเจาะหา Pain Point ของลูกค้าได้ หนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่ได้ผลดีมากคือ แบรนด์ต้องพยายามหา Pain Point ของลูกค้าให้เจอ
Social Customer Service หรือ ฝ่ายบริการลูกค้าโซเชียลมีเดีย คอยให้การสนับสนุนลูกค้าทุกรูปแบบผ่านแอคเคาท์โซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของแบรนด์ ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ชัดเจนเลยคือ Twitter Account ของเหล่าแบรนด์ดังใช้มอนิเตอร์ทวีตที่กล่าวถึงบ้านและเข้าไปดูแลลูกค้าที่อาจมีปัญหาระหว่างการใช้งานสินค้า เช่น SCB @scb_thailand,
ช่วงนี้นักการตลาดคงจะ Work From Home กันใช่ไหมล่ะคะ การที่จะต้องสร้างสรรค์งานอะไรก็ตามภายในห้องสี่เหลี่ยมเดิม ๆ คงอึดอัดไม่น้อย ยิ่งถ้าสภาพแวดล้อมเป็นห้องเดียวกับที่เราใช้พักผ่อนด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ควบคุม Work-Life balance ได้ยาก ทำให้หลายคนไม่สามารถสร้างแผน content
เวลาเราจะตัดสินใจซื้ออะไรซักอย่างหรือทำอะไรซักอย่าง แน่นอนว่าเราก็อยากที่จะดูแล้วว่า ‘คนอื่นๆ ที่ซื้อหรือใช้สิ่งนี้อยู่ เค้ามีความคิดเห็นยังไงกันบ้าง?’ ใช่ไหมคะ เพราะ Social Proof เหล่านี้มันเป็นเหตุผลประกอบการตัดสินใจที่ดีมากอย่างนึงเลยทีเดียว แต่นอกเหนือจากรีวิวบนเว็บไซต์พวกนี้แล้ว ยังมีอีกหลายๆ วิธีที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้าและบริการของเราเพิ่มโดยที่เราไม่ได้พูดออกมาเองฝ่ายเดียวแต่มีลูกค้าที่ใช้งานแล้วพูดให้ แล้วเราแค่หยิบจับมันมา Stir ต่อ มาขยี้ต่อเท่านั้นเอง หลักการง่ายๆ ของการใช้ Social Proof ก็ตามความหมายดิบของมันเลยค่ะ การสร้างหลักฐานความน่าเชื่อถือจากสังคมหรือลูกค้าเก่าและลูกค้าที่ใช้งานจริงอยู่
จาก กระแสตลาดกัญชา ฟีเวอร์ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่ไม่ว่าอะไรก็เอามามิกซ์กับกัญชาก็ขายดีไปหมดทุกอย่าง แถมยังทำให้ราคาสูงขึ้นด้วย เพราะว่าคนแห่กันไปซื้อ ไปลอง จนหลายธุรกิจเริ่มทยอยออกสินค้าที่ผสมกัญชารวมถึงกัญชง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะสมุนไพรชนิดนี้ สามารถใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมยา อาหารเครื่องดื่ม
ประโยคที่บอกว่า ‘COVID19 เข้ามาเปลี่ยนวิถีการตลาดที่รู้มาตลอดชีวิต’ เห็นทีจะจริงมากโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ ไวรัสแพร่รพบาดขึ้นเป็นเวฟๆ แบบนี้ ดังนั้นวันนี้เรามาดูกันค่ะว่า Social Media Marketing แบบไหนที่เราควรจะเปลี่ยนบ้าง เมื่อโควิดดูจะแพร่ระบาดแบบไม่ลดละ แถมแวคซีนเราก็เหมือนจะไม่ได้ฉีดเสียที เมื่อคนไม่ค่อยกล้าช้อป กล้าออกข้างนอก แบรนด์ควรทำตัวแบบไหนละที่นี้? ต้องบอกว่าช่วงนี้เหมือนระลอก 3 ของไทยเราไหมนะ? แถมยังดูรุนแรงกว่าเวฟที่ผ่านๆ มาด้วย ทั้งดารา
วันนี้นุ่นจะมาแชร์บทความที่เล่าถึง 5 ทริคในการแบ่ง Social Audience Segmentation ได้ดี ปรับใช้ได้กับหลายแบรนด์แน่นอนค่ะ โดยการแบ่ง Audience Segmentation แบบดั้งเดิมนั้นส่วนใหญ่อาจมุ่งเน้นไปที่สี่ด้าน ได้แก่ demographic geographic
ในปี 2020 อย่างที่เราทุกคนรู้กันว่าชีวิตเราทุกคนล้วนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ตั้งแต่เจ้าเชื้อไวรัสโควิด19 แพร่ระบาดออกไปทั่วโลก เราไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้เหมือนเคย เราต้องเปลี่ยนมาเรียนและทำงานแบบออนไลน์ภายในไม่กี่วันทั้งที่เคยพยายามทำมาหลายปีแต่ไม่เคยสำเร็จผลพร้อมใจเท่าครั้งนี้ และนอกจากการแพร่ระบาดของเจ้าเชื้อไวรัสโควิด19 เรายังเจอกับปัญหามลพิษทางอากาศขั้นสูงสุดในหลายพื้นที่บนโลกในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน (บ้านเราก็ PM 2.5) เราได้เจอกับปัญหาโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา (แต่ก็ฟื้นฟูได้ทันตาพอต้องล็อคดาวน์โลกทั้งใบ) เราได้เห็นการประท้วงเพื่อเรียกร้องสิทธิต่างๆ
คำถามที่นักการตลาดหลายคนอยากรู้ และเจ้าของธุรกิจทุกรายสงสัย นั่นในเทรนด์การตลาดในปีหน้า 2021 เราควรจะทำเรื่อง Branding อย่างไรบน Social media ที่เปลี่ยนไปไวเหลือเกิน วันนี้ผมมีคำตอบให้ ซึ่งแปลมาจากบทความชื่อ Discovering The Active