Case Study ถอดรหัส Twitter Marketing Campaign : PEPSI x BLACKPINK
Case Study – Twitter Marketing campaign ที่นุ่นจะนำมาถอดทริคสำคัญในวันนี้ เป็นแคมเปญ PEPSI x BLACKPINK ที่ใช้ Twitter เป็นช่องทางนึงในการสร้าง Awareness ได้ดีเลยล่ะค่ะ นุ่นอยากจะลองวิเคราะห์ภาพรวมว่าส่วนตัวมองเห็นอะไรบ้าง แล้วนำแชร์ให้นักการตลาดอ่านในบทความนี้ค่ะ
หลายแบรนด์พยายามใช้ Twitter เพื่อสร้างการรับรู้ เจาะกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งก็มีหลายแบรนด์สามารถทำได้สำเร็จในปีที่ผ่านมา PEPSI เป็นแบรนด์นึงที่ประสบความสำเร็จค่ะ แต่ไม่ใช่แค่เพราะได้ Brand Ambassador สุดฮอตระดับโลกอย่างวงเกิร์ลกรุ๊ป Blackpink เท่านั้นนะคะ แบรนด์มีกลยุทธ์ที่หลากหลายในการโปรโมทและมีเป้าหมายของแคมเปญที่ชัดเจน
Blackpink เป็นจุด Lead ให้แต่ละคอนเทนต์มีความสอดคล้องไปกับสินค้าและแบรนด์ PEPSI คิดถูกในหลายๆมุมค่ะ และเป็นสิ่งที่ SMEs แบรนด์เล็กใหญ่ต้องเก็บเป็นทริคนึงเลย ว่าถ้าจะใช้เงินก้อนมหาศาลไปกับอะไร ทุกอย่างในแคมเปญควรล้อไปด้วยกันเพื่อให้คุ้มค่ากับงบ สื่อสารให้ตรงกลุ่มเป้าหมายของแคมเปญ อย่างแคมเปญนี้คือ “Go all in for what you love” มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นให้เหล่า Gen Z กล้าแสดงออกและผลักดันขอบเขตแห่งความเป็นไปได้ โดยเจาะตลาดใหญ่ระดับเอเชียและแปซิฟิก
โดยบทความนี้จะเป็นการถอดทริคการทำแคมเปญการตลาดอ้างอิงกับรายงานของ Sprinklr เกี่ยวกับ Customer Experience Management (CXM) ยูสเซอร์บนทวิตเตอร์นะคะ ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยค่ะ
PEPSI มี Best Practices สำหรับทำ Customer Care บน Twitter
ซึ่งจะแบ่งให้นักการตลาดเข้าใจง่ายๆ 3 ข้อค่ะ
- สร้างความประทับใจให้ลูกค้าด้วยความเอาใจใส่ของแบรนด์ (Impress your audience with your attentiveness)
แบรนด์ใหญ่ๆ มีการตอบกลับข้อความ หรือที่เราเรียกว่า reply mentions บนทวิตเตอร์ เร็วขึ้น 3 เท่า และมีการตอบกลับทวีตมากกว่าแบรนด์ทั่วไปบน Twitter ถึง 8 เท่าค่ะ แน่นอนค่ะว่าไม่ใช่ทุกแบรนด์จะมีทรัพยากร ทีจะซัพพอร์ตผ่านโซเชียลตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เริ่มจากเวลาทำงานปกติของฝ่ายดิจิที่พอมีเวลาว่าง งานไม้ล้นโต๊ะก็ได้ค่ะ
ที่จริงๆ แล้วหลายบทความของนุ่นจะเขียนไว้เสมอว่าสำคัญมาก เหมือนเรามีพนักงานในร้านดีดีเลยก็ว่าได้นะคะ Sprinklr ยังรายงานอีกว่าแบรนด์เหล่านี้จะได้รับการกล่าวถึงเพิ่มขึ้น 10 เท่า เพราะรู้ว่ายังไงแบรนด์จะมาตอบ รู้สึกว่าแบรนด์คอยรับฟังความเห็นของเรา เราสามารถนำ Data พวกนี้ไปต่อมูลค่าให้แบรนด์ได้เกินกว่าค่าจ้างแอดมินแน่นอนค่ะ
2. Act human, gain followers.
แบรนด์ควรเชี่ยวชาญและให้ความสำคัญกับ personalized customer support มากที่สุด หมดยุคมานั่งพิมพ์แบบพิธีการให้ยุ่งยาก ถ้าแบรนด์ไหนอยากจะลองเพิ่มความเฟรนลี่ใกล้ชิดกับลูกค้า ลองให้แอดมินตอบ comment แบบภาษาง่ายๆดูนะคะ
3. ทำคอนเทนต์ให้เข้ากับ Nature ของทวิตเตอร์
PEPSI ค่อยๆเผยดีไซน์ของสินค้า โดยใช้ลูกเล่นง่ายๆสร้าง engagement โดยแทบไม่ต้องจ่ายเงินซื้อโฆษณา อย่างทวีตนี้ให้แฟนคลับทายกันสนุกสนานว่าดีไซน์ต่อไปจะเป็นของใคร
กดเมนชั่น: โรเซ่
กดเฟบ: ลิซ่า
กดรีทวีต: เจนนี่
หลายแบนด์อาจจะยังใช่วิธีซื้อเทรนด์แฮชแท็กเพื่อเสริมการโปรโมท แต่แป๊ปซี่เลือกใช้มิชชั่นให้คนปั่นแท็กตามเป้าที่กำหนด จึงจะเผยดีไซน์ให้ชมกันเร็วๆ
วิธีนี้ถ้านักการตลาดไม่ได้มี Presenter หรือผู้ที่มีฐานแฟนคลับในทวิตเตอร์ก็ต้องยอมรับว่าใช้ลูกเล่นนี้ได้ยากกว่าก็จริง ด้วยความปราบเซียนขอแพลตฟอร์มที่ทวิตเตอร์ คาดเดาไม่ได้ว่าทวีตไหนจะแมส จะเลือกการปรับระดับลงมาเป็นการใช้ Influencer บนทวิตเตอร์ก็ได้ แต่ต้องเลือกให้ดีนะคะ เพราะบางแอคเคาท์คนติดตามเยอะก็จริง แต่มาจากการด่าคนอื่น แบบนี้ถือว่าไม่ใช่แอคเคาท์คุณภาพจะทำให้แบรนด์เสียภาพลักษณ์เปล่าๆ
อย่าง Yves Rocher เองก็มีแคมเปญ #พี่เห็นผมมั้ย ช่วงต้นปี 2563 เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ใช้ Influencer ได้อย่างฉลาด ทั้งสร้างการรับรู้ รีวิว และได้ Data กลับมามากมายเช่นปัญหาผมร่วงของคน ที่อาจไม่เคยป่าวประกาศบน facebook
นี่ก็เป็นทริคเล็กๆที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม จากตัวอย่างการทำ Twitter Marketing Campaign: PEPSI x BLACKPINK ที่นุ่นเลือกหยิบมาแชร์ในวันนี้ค่ะ จริงๆแล้วยังมีกลยุทธ์อีกมากเลยในการส่งเสริมแคมเปญให้ปัง และนุ่นเคยเขียน สรุป 4 เทคนิคสำคัญ ทำ Marketing Campaign บน Twitter 2021ให้ปังพลุแตก ไว้ด้วย นักการตลาดคนไหนอยากจะย้อนกลับไปอ่านคลิกที่ชื่อบทความได้เลยนะคะ
อย่าลืมติดตามการตลาดวันละตอน ผ่านทาง
Twitter : @EverydayMKT https://twitter.com/EverydayMKT
Blockdit : การตลาดวันละตอน http://bit.ly/EveryDayMarketingBlockdit
source : www.campaignasia.com partners.twitter.com www.socialmediatoday.com
