Personalized Website จาก First-Party Data เพิ่ม Conversion Rates ได้ง่ายๆ

Personalized Website จาก First-Party Data ดีๆ ก็เพิ่ม Conversion Rates ได้ง่ายๆ จากรายงาน The Stage of Personalization 2021 พบว่าแบรนด์กว่า 80% เริ่มใช้ First-party data ในการสร้าง Customer Experience แบบ Personalization บ้างแล้ว

และในการทำ Personalization อย่างหนึ่งที่ได้ผลดีมาก นั่นก็คือการ Personalized Website ปรับหน้า Landing Pages ให้รู้ใจ ให้ตรงตามความสนใจหรือพฤติกรรมที่เคยทำมาก่อนหน้า

เช่น ถ้าลูกค้าเข้ามาดูสินค้าหน้านั้นบ่อย (เกินสองครั้ง) แต่ละครั้งใช้เวลาเกิน 2 นาที คราวหน้าถ้าลูกค้าคนเดิมเข้ามา ต้อง Personalized เว็บไซต์หน้าแรก Landing Pages เอาเนื้อหาสินค้าชิ้นนั้นมาโชว์ตั้งแต่ส่วนไฮไลท์หน้าแรก

ส่วนช่องคอนเทนต์ย่อยๆ ก็ควรต้องปรับให้เป็นที่เกี่ยวกับสินค้าชิ้นนั้นเป็นหลัก เช่น 5 ข้อดีของการมีสินค้าตัวนี้ในชีวิต หรือ รวมฟีดแบคความประทับใจจากผู้ใช้งานจริง เป็นต้น

ซึ่งทั้งหมดนี้เราต้องแบ่งกลุ่มผู้อ่าน หรือ Audience ในเว็บออกเป็นเลเวลที่แตกต่างกัน เช่น Just browsing ไปจนถึง Ready to purchase เพื่อจะได้ Personalized Website ให้ตรงกับใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราอาจเริ่มต้นจากแบบนี้ได้

4 แนวทางการเริ่มต้น Personalized Website จาก First-Party Data

1. Personalized Content 

แนะนำสินค้าหน้าแรกของเว็บเรา ให้ตรงกับข้อมูลการค้นหาของผู้ใช้ในอดีต เช่น ถ้าผู้ใช้คนนี้เคยค้นหารองเท้าวิ่ง ไซส์ 43 สีแดง ยี่ห้อ Nike เมื่อกลับมายังเว็บเราอีกครั้ง เราต้องเอาสินค้าที่ใกล้เคียงกันขึ้นมาแสดงในหน้าแรกให้มากที่สุด 

อาจยึด Attribute เรื่องสี กับไซส์ เป็นหลัก แล้วอาจปรับเปลี่ยนตรงแบรนด์อื่นๆ เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อให้เห็นความหลากหลายของสินค้าที่ผู้ใช้สนใจ เพื่อกระตุ้นให้เกิด Conversion เร็วขึ้น

2. Personalized Pricing

แทนที่จะโชว์ราคาตั้งต้นของสินค้าเรา ก็เปลี่ยนมาแสดงราคาที่ Personalization โดยดู Location based Data ว่าจากสถานที่ที่ผู้ใช้เข้าเว็บเรามาดูสินค้า ราคารวมค่าส่งจะเป็นเท่าไหร่ แล้วถ้าสินค้าเราขายไปทั่วโลก มีลูกค้าจากต่างชาติเข้ามาซื้อบ้าง ก็ควรปรับการแสดงค่าเงินให้ไม่ใช่บาท แต่ต้องแปลงเป็นสกุลเงินของประเทศลูกค้าที่เข้ามาครับ

3. Personalized Recommendation

เอาประวัติการซื้อของลูกค้าในอดีตมาวิเคราะห์หา Average Basket Size ที่ลูกค้าคนนั้นชอบซื้อ แล้วเอามาจัดกลุ่มทำ Customer Segmentation แบ่งกลุ่มลูกค้าธรรมดา กับลูกค้าชั้นดีกระเป๋าหนัก Biggest Spenders เพื่อจะได้ทำ Personalized Recommendation แนะนำสินค้าหายากราคาแพงได้ถูกคน แล้วอัตรา Conversion ก็จะเพิ่มตาม

4. Personalized Description

การ Personalization ขั้นกว่าคือการลงไปในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างการปรับ Product’s Description รายละเอียดของสินค้าแต่ละหน้าโดยดูจากพฤติกรรมการซื้อ การค้นหา และก็พื้นที่ของลูกค้าครับ

ทั้งหมดนี้คือ 4 แนวทางเริ่มต้น Personalized Website ปรับ Landing Pages หน้าแรกที่ลูกค้าเห็นให้ตรงกับใจแบบไม่ยากเกินไป ซึ่งการจะทำได้ต้องประกอบด้วยระบบเก็บข้อมูล Web Analytics หลังบ้านที่ละเอียดเป็นรายบุคคลให้ได้ จากนั้นก็ต้องเอาไปทำ Segmentation จาก Historical Data ในอดีต แล้วก็ต้องมีการทำ A/B Testing เว็บไซต์ด้วยเครื่องมืออย่าง Optimize ของ Google เพื่อเก็บข้อมูลมาทำให้ดีขึ้นครับ

สรุป Personalized Website หน้าแรก Landing Pages ช่วยเพิ่ม Conversion อย่างไร

จากรายงานของ Postclick พบว่านักการตลาดกว่า 70% เริ่มต้นทำ Personalized Landing Pages กับลูกค้าที่เข้ามาผ่าน SEO หรือ SEM แล้ว และก็พบว่าอัตรา ROI เพิ่มขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับการไม่ทำ แถมยังช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกกว่า 10% ด้วยครับ

เพื่อนๆ นักการตลาดในการตลาดวันละตอนน่าจะพอเป็นแนวทางการทำ Personalization จาก First-Party Data หน้าเว็บไซต์เราแล้วใช่ไหมครับ จริงๆ ใครที่ทำแอปก็สามารถเอาไปประยุกต์ต่อยอดได้ ทั้งหมดนี้คือการเรียนรู้สิ่งที่ลูกค้าน่าจะชอบโดยดูจากพฤติกรรมในอดีต ที่เหลือคืออยู่ที่ Marketing Idea ของแต่ละคน ว่าจะต่อยอดจาก Data ที่เห็นอย่างไรครับ

อ่านบทความชุด Personalization ในการตลาดวันละตอนต่อ > https://www.everydaymarketing.co/tag/personalization/

Source: https://segment.com/recipes/personalize-landing-pages-to-visitor-interests/