[Data 101] Big Data คืออะไร? เรื่องสำคัญของนักการตลาดที่ไม่อยากตกงานต้องรู้

[Data 101] Big Data คืออะไร? เรื่องสำคัญของนักการตลาดที่ไม่อยากตกงานต้องรู้

Big Data คืออะไร? สำคัญอย่างไร? และมีตัวอย่างการใช้งานแบบไหนบ้าง? ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราก้าวเข้าสู่ยุคของ Big Data อย่างเต็มตัว ซึ่งทุกสิ่งรอบตัวเราล้วนเกี่ยวข้องกับ Data ไม่มากก็น้อย ระบบช่วยพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์มือถือที่เราใช้กันจนเคยชินก็เกี่ยวกับ Big Data ข้อความการพิมพ์ของเราทุกคน หรือแม้กระทั่ง Facebook หรือโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ ก็คือแหล่ง Big Data ที่ใกล้ตัวเรามากๆ เพราะเราทุกคนต่างช่วยกันใช้และสร้างจนคำว่า Big Data น่าจะเล็กเกินไปแล้ว

วันนี้ผมเลยถือโอกาสมาเล่าผ่านบทความว่า Big Data คืออะไร? สำคัญอย่างไร? และมี case study หรือกรณีศึกษาการใช้งานแบบไหนบ้างให้เพื่อนๆ นักการตลาดและคนที่สนใจได้มาเรียนรู้ปรับพื้นฐานเรื่องนี้ไปพร้อมกัน เอาจริงๆ ผมก็ได้ถือโอกาสทบทวนความรู้ตัวเองไปในตัวผ่านการเล่าสู่กันฟังให้กับเพื่อนๆ นักการตลาดในการตลาดวันละตอนแห่งนี้ครับ

ถ้าพร้อมจะเรียนรู้เรื่อง Data 101 แล้วเชิญสั่งขนมหรือชาไข่มุกผ่าน Grab แล้วอ่านไปด้วยกันเลยครับ

Big Data คืออะไร?

แปลตรงตัวก็คือข้อมูลที่มีขนาดใหญ่หรือมีปริมาณเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นประเภท Structured data หรือ Unstructured data ก็ตาม ที่ไหลเข้ามามากมายมหาศาลในแต่ละวัน ซึ่งสิ่งสำคัญก็ไม่ใช่เรื่องของปริมาณหรือความ Big ของ Data เท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่แท้จริงคือเราเอา Data ที่มีมากมายไปทำอย่างไรต่อต่างหากครับ

เพราะ Insight หรือ Opportunity ที่เรายังไม่รู้หรืออาจจะเคยรู้แต่ไม่คิดว่าสำคัญนั้นมักจะซ่อนอยู่ใน Data แต่อยู่ถ้าเราปล่อยมันไว้เฉยๆ ไม่ได้ลงไปวิเคราะห์ทำความเข้าใจหาโอกาสที่ซ่อนอยู่ข้างใน ต่อให้มี Data มากมายแค่ไหนก็ไร้ค่า แถมยังสู้บริษัทเล็กๆ ที่มี Small data แต่รู้จักใช้ข้อมูลช่วยในการตัดสินใจว่าจะต้องปรับกลยุทธ์ธุรกิจในเดือนหน้าไปทางไหน จะต้องทำแคมเปญการตลาดในรูปแบบไหนถึงจะคุ้มค่า ROI หรือแม้แต่ควรจะทำ New Product Development อะไรจริงๆ ถึงจะตอบความต้องการในตลาดที่ซ่อนอยู่ได้อย่างถูกจุดกันแน่ครับ

สรุปง่ายๆ คือ Data ช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น หรือถ้าพูดให้เก๋ๆ ขึ้นก็คือ Data-Driven Decision นั่นเอง

หนุ่ย การตลาดวันละตอน

ซึ่งทุกวันนี้บริษัทต่างๆ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ต่างก็พยายามเอาจุดขายจุดแข็งใหม่ๆ เพื่อเอาชนะคู่แข่งในตลาด และเจ้า Big Data นี้เองที่เข้ามากลายเป็นเครื่องมือสำคัญของนักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจยุคใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจที่กำลังจะก้าวเข้ามาใหม่นั้นจะสามารถไล่ตามคนอื่นได้ทันไปจนถึงแซงหน้าขึ้นมาติด Top 10 ในตลาดได้ไม่ยากถ้ารู้จักใช้ Data ให้เป็นประโยชน์ครับ

เพราะการ Analyzed data หรือวิเคราะห์ข้อมูลจะทำให้เราสามารถสร้างสินค้าหรือบริการ หรือเอาง่ายๆ คือสร้างนวัตกรรม Innovation ได้อย่างแม่นยำจนทำให้การลงทุนหลายร้อยล้านที่คนอื่นไม่กล้าทำเพราะดูเสี่ยง กลายเป็นเรื่องที่เซฟมากเพราะ Data บอกได้ว่าลูกค้าในตลาดกำลังต้องการอะไร (อ่าน Case study การใช้ Data-Driven Content ของ Netflix ที่กล้าทุ่มทุนกว่า 100 ล้านเหรีญสร้างซีรีส์ House of Card ในปี 2012)

3 บทเรียน Netflix กับการใช้ Big Data สร้างเป็นซีรีส์ดัง House of Cards

และเจ้า Big Data นี่เองยังช่วยให้เราสร้าง New S-Curve ขึ้นมาใหม่ เพราะเราได้เห็น Insight & Opportunity ใหม่ๆ ที่จะนำไปสู่การออกสินค้าหรือบริการใหม่ๆ ได้ก่อนคู่แข่งรายได้เมื่อเราวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายๆ แหล่งเข้าด้วยกัน

เพราะถ้าเรามีข้อมูลจากหลากหลายช่องทางที่มากพอ เราก็จะยิ่งเข้าใจตลาดและลูกค้าได้หลากหลายมิติมากขึ้น เราจะสามารถรู้ได้ว่าสินค้าหรือบริการแบบไหนที่เป็นที่ต้องการในช่วงเวลาใด (อ่าน Case study ของการค้นพบสินค้าขายดีแบบลับๆ อย่างเบียร์กับผ้าอ้อม จนแค่จับมาวางใกล้ๆ กันก็ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 30% โดยไม่ต้องใช้งบการตลาดสักบาท)

ดังนั้นถ้าถามว่า Big Data คืออะไร? ก็สรุปได้ว่าข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาลมากเกินกว่าที่มนุษย์จะอ่าน เรียนรู้ หรือทำความเข้าใจทั้งหมดด้วยตัวเองได้ แล้วก็ต้องเป็น Data ที่สามารถเอามาวิเคราะห์หรือทำ Analysis เพื่อหาคุณค่าที่ซ่อนอยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็น Consumer Insight หรือ New Business Opportunity ที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน

ซึ่ง Concept ของ Big Data ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างไร แต่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนปี 2000 แล้วด้วยซ้ำ โดยในตอนแรกนั้นนิยามของ Big Data นั้นมีแค่ 3 V’s แต่ล่าสุดคือ 4 V’s of Big Data ซึ่งจะเอาไว้ขอเล่าให้ฟังต่อในครั้งหน้าครับ กับ Series Content ชุด Big Data 101 เรื่องดาต้าที่คนทำงานในศตวรรษที่ 21 ต้องรู้ (ถ้าไม่อยากตกงาน)

4V's of Big Data

สนใจหนังสือเรื่อง Data Thinking ทำธุรกิจอย่างฉลาดใช้ดาต้า โดยการตลาดวันละตอน > https://bit.ly/DataThinkingBook

Source

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน