รู้จัก Free Marketing ทำการตลาดแบบฟรีๆ ไม่ต้องใช้เงิน

​ทุกวันนี้การทำการตลาดมีอะไรที่ฟรีบ้าง เพราะว่าแบรนด์ไหนก็ไม่อยากเสียเงินในการทำการตลาดเยอะๆ หรอกจริงไหมคะ ยิ่งเป็นธุรกิจขนาดเล็ก มักจะมีงบประมาณการตลาดที่จำกัด ซึ่งก็ทำอะไรไม่ได้มากหรอก แต่วันนี้ปลื้มก็หาวิธีมานำเสนอ เผื่อเป็นตัวเลือกในการทำการตลาดแบบ Free Marketing ทำการตลาดแบบฟรีๆ โดยที่ไม่ต้องใช้เงิน หรือใช้เงินน้อยที่สุดค่ะ

สำหรับ Free Marketing ในวิกิพีเดีย อาจจะหมายถึงตลาดที่เปิดเสรี แต่ในที่นี้คือความหมายตรงตัวเลยค่ะ ก็คือการทำการตลาดแบบฟรีๆ นี่แหละ เป็นการทำการตลาดแบบประหยัดงบ ใช้เงินน้อยที่สุด และที่สำคัญคือถ้าหากผลลัพธ์ดีเท่ากับกำไรล้วนๆ เลยค่ะ

ซึ่งแนวคิดทำการตลาดแบบฟรีๆ เนี่ย จริงๆ แล้วมันก็มีหลายวิธี และปลื้มก็เชื่อว่าหลายแบรนด์ก็พยายามหาวิธีที่ฟรีก่อนอยู่แล้วแหละ เพราะผลลัพธ์เกิดออกมาไม่ดีก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย แต่วิธีแบบ Free Marketing ไม่ทำให้ผลลัพธ์เป็น 0 ได้อย่างแน่นอน มีแต่ได้มากกับได้น้อยเท่านั้นแหละค่ะ ดังนั้นปลื้มจะแบ่งแนวคิดออกเป็น 3 ประเภทนะคะ มาเริ่มที่แนวคิดแรกกันเลยดีกว่าค่ะ 

1. แนวคิดการตลาดฟรี และรวดเร็ว

ใครที่อยากทำ Free Marketing 100% แบบเห็นผล แถมรวดเร็ว วิธีเหล่านี้มีความน่าสนใจ เรามาดูกันค่ะ 

สร้างบัญชี Google My Business ฟรี

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในท้องถิ่น เช่น ร้านอาหาร ร้านตัดผม ร้านซ่อมรถ โรงแรมที่พัก รวมถึง ที่ตั้งบริษัท เป็นต้น ซึ่งข้อมูลธุรกิจบน Google จะกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดฟรีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด รายชื่อร้านที่แสดงไม่เสียค่าใช้จ่าย นี่ทำให้ธุรกิจของเราสามารถแสดงบน Google แผนที่ ส่วนท้องถิ่นของ Google Search และแผงความรู้ทางด้านขวาสำหรับการค้นหาแบรนด์นั่นเอง เท่ากับว่าแค่เสิร์จหาก็เจอเลย 

ปกติปลื้มเองก็ชอบไปเสิร์จหาร้านบน Google เหมือนกันนะคะ แบบอยากกินหมูกะทะอยากรู้ว่าร้านไหนใกล้เราบ้าง แล้วปิดกี่โมงไปตอนนี้จะทันไหมอะไรแบบนี้ จริงๆ มันเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเลยด้วยซ้ำ และที่สำคัญคือมันฟรี ใครที่ยังไม่ได้สร้างบัญชี Google My Business พลาดไม่ได้แล้วนะคะ 

แท็กแบรนด์บนโซเชียลมีเดีย

การแท็กลูกค้าของเรา หรือผู้กำลังแชร์แบรนด์ของเราอยู่ นึกถึงการีวิวเสื้อผ้าน่าจะทำให้เข้าใจขึ้นค่ะ เพราะมันสามารถขยายการเข้าถึงแบบออร์แกนิกของธุรกิจของเราไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ ช่วยให้เราเพิ่มจำนวนผู้ติดตาม และอาจเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น เราควรขอให้ผู้ติดตามของเราแท็กมาหาเราบนโซเชียลมีเดียในโพสต์ของเขา หรือเราสามารถไปคอมเมนต์ใต้โพสต์นั้น อย่างไรแล้ววิธีนี้ก็ไม่ได้ทำให้เสียเงินเลยนะคะ 

นอกจากนี้ เรายังขออนุญาตใช้รูปของลูกค้าของเราในการรีโพสต์บนพื้นที่ของแบรนด์ เพื่อดึงคนเข้ามาอีกครั้ง เราก็จะได้ทั้งคอนเทนต์รีวิวจากลูกค้าจริง แถมลูกค้าของเราอาจจะรู้สึกว่าแบรนด์ให้ความสำคัญกับเขาอีกด้วยค่ะ วิธีนี้คล้ายๆ การจ้างรีวิว แต่เพียงเราใช้ลูกค้าเราจริงๆ ดูเป็นแบรนด์ที่จริงใจขึ้นมาทันทีเลยค่ะ 

ใช้แฮชแท็ก

วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่คุ้นชินค่ะ เชื่อว่าในหลายแบรนด์น่าจะใช้วิธีนี้กันอยู่แล้ว ซึ่งมันก็เป็นกลวิธีในการทำการตลาดแบบฟรีอีกวิธีหนึ่ง ที่สามารถขยายการเข้าถึงของเราได้คือการรวมแฮชแท็กไว้ในโพสต์โซเชียลมีเดียไม่ว่าจะบน Instagram / Facebook / Twitter และ TikTok เองก็ตาม หากแบรนด์ไหนโพสต์แล้วไม่ได้ติดแฮชแท็กอย่าลืมกลับไปติดเลยนะคะเพราะมันไม่ได้เสียเงิน แล้วไม่ได้ผิดอะไร ติดได้เลย แต่สำหรับแบรนด์ที่ติดอยู่แล้วนะคะ ปลื้มแนะนำแบบนี้ว่าไม่ควรติดเยอะจนเกินไป เพราะมันจะทำให้โพสต์ดูรก ติดแค่เฉพาะสำคัญก็พอค่ะ

2. แนวคิดการตลาดฟรีที่ต้องใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

กลยุทธ์ต่อไปนี้ยังคงฟรี แต่ต้องใช้เวลาและความพยายามเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ข่าวดีก็คือว่า ยิ่งต้องใช้ความพยายามมากเท่าไร กลยุทธ์ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น และความสำเร็จก็จะยิ่งยั่งยืนมากขึ้นด้วยค่ะ

ทำ Local SEO

ส่วนที่ดีที่สุดเกี่ยวกับอัลกอริธึมของ Google คือออกแบบมาเพื่อแสดงเนื้อหาที่แม่นยำ มีคุณภาพสูง และมีความเกี่ยวข้องมากที่สุดสำหรับคำค้นหาที่ระบุ จึงเป็นระดับการใช้และช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่ได้

Local SEO นั้นฟรี แต่อาจต้องใช้เวลา ดังนั้นให้เริ่มตอนนี้และค่อยๆ ดำเนินต่อไป เมื่อเวลาผ่านไปอาจได้ผลลัพธ์มหาศาล ต่อไปนี้คือสิ่งที่ต้องทำ Local SEO คือเพิ่มคำหลักตามสถานที่เช่น ร้านเบเกอรี่สยาม โดยเราต้องตั้งให้กับชื่อ หัวเรื่อง และใส่เนื้อหาของหน้าเว็บไซต์หลักของเราลงไป จากนั้นมันจะแสดงรายการในที่เก็บข้อมูลออนไลน์ เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลของเราตรงกันในทุกแพลตฟอร์มแล้วหรือไม่

และสามารถเผยแพร่หน้าบล็อกโพสต์ได้เฉพาะสำหรับบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงที่เราให้บริการ

พัฒนาแผน Email Marketing

การตลาดผ่านอีเมลเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการดึงดูดผู้เข้าชมใหม่ๆ ให้มีส่วนร่วมกับธุรกิจของเรา รวมทั้งรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบันของเราด้วย และแม้ว่าการตลาดผ่านอีเมลจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ยังเป็นหนึ่งใน วิธีที่น่าเชื่อถือที่สุดในการได้รับผลตอบแทนที่น่าประทับใจ เพราะการที่ลูกค้าให้อีเมลเรา ก็เป็นไปได้ว่าเขายินดีที่จะรับข่าวสารของแบรนด์ แต่เราเองก็ต้องแน่ใจว่ากลุ่มเป้าหมายของเราใช้อีเมลอยู่ตลอด อยากเป็นพนักงานออฟฟิศหลายบริษัท ปลื้มก็คิดว่าคนเหล่านี้ยังใช้อีเมลกันอยู่นะคะ 

แนวคิดการตลาดผ่านอีเมลที่ง่ายและน่าสนใจ 

• รับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์รายใหม่เพื่อสมัครรับจดหมายข่าวของเราโดยเสนอเนื้อหา เป็นของขวัญ/คูปองหรือส่วนลดสำหรับการสมัคร
• ค่อยๆ รักษาสมาชิกของเราทางอีเมลจนกว่าพวกเขาจะพร้อมจะเป็นลูกค้าที่จ่ายเงิน
• เริ่มแคมเปญอีเมลส่งเสริมการขายด้วยบริการการตลาดผ่านอีเมลฟรี เช่น MailChimp เป็นต้น

รางวัลธุรกิจ

อุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีรางวัลทางธุรกิจที่คุณสามารถคว้าได้ โดยเราสามารถใส่รางวัลเหล่านั้นบนเว็บไซต์ของเราได้ เพราะป้ายรางวัลแบบนี้จะสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือ และทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้นะคะ พรุ่งนี้ถ้าแบรนด์ไหนได้รับรางวัลมาก็เอามาโชว์ซะหน่อยนะคะ อยากเก็บไว้เฉยๆ อย่างน้อยๆ ก็ทำประโยชน์จากรางวัลเหล่านี้ได้

ถ้าหากไม่มีรางวัลอะไรเลยสามารถทำใช้อะไรแทนได้บ้าง ปลื้มมองว่าไม่ใช่แค่รางวัลที่สามารถทำให้ดูมีความน่าเชื่อถือได้อย่างเดียว ใบรับรอง ไม่ว่าจะเป็น อย. ตรารับรองเพื่อสุขภาพต่างๆ ก็สามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้เช่นกันค่ะ

เปลี่ยนพนักงานให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์

สำหรับธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมาก การบอกต่อเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญในการเพิ่มยอดขาย มีการวิจัยแสดงให้เห็นว่าลูกค้ามีแนวโน้มที่จะซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการมากขึ้นหากพวกเขาได้รับรู้จากคนใกล้ตัว ดังนั้นลองจินตนาการถึงการบอกต่อของเพื่อนหรือคนในครอบครัว 

แน่นอนว่าเรามีพนักงานที่มีความรู้และข้อมูลของสินค้าเป็นอย่างดี เราสามารถส่งเสริมให้พวกเขาเป็น Brand Ambassador ของบริษัทได้ ยิ่งไปกว่านั้นจะทำให้คนนอกเห็นว่าของที่แบรนด์จำหน่ายหรือบริการดีจริงพ่อแม้แต่พนักงานของเขายังอยากได้หรือใช้บริการเลย รายการบอกต่อของพนักงานนี่แหละค่ะ จะทำให้คนที่ใกล้ชิดกับเขา นึกคนที่ใกล้ตัวเขาเริ่มรู้จักแบรนด์และรู้สึกอยากใช้ตาม 

แต่ในกรณีนี้พนักงานต้องจริงใจกับแบรนด์พอสมควรเลยค่ะ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วการบอกต่ออาจจะไม่เป็นผล มิหนำซ้ำอาจทำให้คนรอบตัวของเขารู้สึกที่ไม่ดีกับแบรนด์ไปด้วย ซึ่งจุดนี้แบรนด์ต้องทำให้พนักงานรักองค์กรเสียก่อน ถ้าทำได้แล้วไม่ต้องเสียเงินจ้างใครมารีวิวสินค้าเลยค่ะเพราะคนที่ใกล้ชิดกับแบรนด์จะเป็นคนแนะนำบอกต่อได้เองค่ะ 

โพสต์วิดีโอที่เป็นประโยชน์

วิดีโอเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสำหรับผู้บริโภคในตอนนี้ และแม้ว่าเราจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากในการผลิตวิดีโอระดับมืออาชีพที่ผลิตและอัปโหลดไปยัง YouTube แต่ในปัจจุบันเราถ้าหากไม่ต้องเสียเงินมากในการจ้างมืออาชีพ การทำตลาดวิดีโอแบบ DIY ก็น่าสนใจนะคะ เพียงแค่ใช้อุปกรณ์ส่วนตัวและแอปโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน เช่น Instagram / Facebook และ TikTok ก็ได้แล้วค่ะ 

วิดีโอคอนเทนต์ที่เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ขายสินค้า ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้ เครื่องมือช่างต่างๆ สามารถใช้วิธีการสาธิตเพื่อเชื่อมไปถึงผู้ชมของเรา ตัวอย่างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ คือ ทำวิดีโอแนะนำและวิธีใช้ / สาธิตสินค้า / เบื้องหลังการทำงานธุรกิจ /สัมภาษณ์พนักงานหรือผู้เชี่ยวชาญ และ ASMR เป็นต้นค่ะ

3. แนวคิดการตลาดที่ต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

กลยุทธ์นี้แอบใช้งบนิดหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเกินคาดอย่างแน่นอนค่ะ

ลองทำการตลาดแบบกองโจร

โดยการตลาดแบบกองโจรเน้นความคิดสร้างสรรค์มากกว่างบประมาณ และกลยุทธ์มักจะมีราคาถูกและใช้งานง่าย บางไอเดียอาจจะไม่ต้องใช้เงินเพิ่มเลยก็ได้ ซึ่งการทำการตลาดแบบกองโจรปลื้มเคยเขียนไว้แล้วสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยค่ะ จะได้เห็นภาพที่กว้างขึ้นว่าการตลาดกองโจรสามารถทำแบบไหนได้บ้าง และมีวิธีไหนที่น่าสนใจ ที่เราสามารถนำมาปรับใช้กับแบรนด์ตัวเอง 

นำเสนอสิ่งที่น่าสนใจ แม้ขาดทุน แต่สุดท้ายเราจะได้กำไร

นำเสนอสิ่งที่น่าสนใจในความหมายของคุณก็คือทำอะไรที่แปลกกว่าคู่แข่งหรือสินค้าที่ใกล้เคียงกับเรา ปลื้มขอยกตัวอย่าง เป็นตลาดนัดวันคืนก็แล้วกันค่ะ เพราะปลื้มเคยไปตลาดนัดที่หนึ่งมา ปกติเขาก็จะได้ค่าที่จอดรถ กับค่าแผงของแม่ค้าที่มาขายตลาด ส่วนลูกค้าที่มาก็จะเสียแค่ค่าจอดรถ ซึ่งตลาดเขาเปลี่ยนค่าจอดรถเป็นคูปองมูลค่า 40 บาท ให้ไปซื้อสินค้ากับแม่ค้าในตลาดแทน แล้วให้แม่ค้าเอาคูปองมาแลกเป็นเงินสดทีหลัง

ถ้าถามว่าเจ้าของตลาดนัดได้อะไร ข้อ 1. เลยคือเขาได้ใจทั้งลูกค้าที่เข้าตลาดมาแน่นอนค่ะ เพราะไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เสียเงินค่าที่จอดรถ 2. แถมช่วยแม่ค้าขายของอีกด้วย เพราะยังไงเนี่ย คูปองนั้นก็ใช้ได้แค่กับตลาดนี้เท่านั้น และข้อดีมีเงินหมุนเวียนในตลาดอย่างแน่นอนเพราะแม่ค้ายังไงก็ได้ขายของ 3. แม่ค้าอยู่ตลาดนี้แล้วแฮปปี้ ขายของสนุกทุกวัน ทำให้ใครก็อยากมาขายของที่นี่ พอมีคนอยากขายของที่นี่เยอะขึ้นถูกไหมคะ ข้อ 4. ก็จะทำให้ลูกค้าอยากมาที่ตลาดนี้เพราะว่ามีของขายเยอะที่เดียวจบแบบนี้ 

อันนี้เรียกว่า Free Marketing แบบตั้งใจนะคะ แล้วก็มีตัวอย่างเคสที่ไม่ตั้งใจมาฝากด้วย ใครรู้จักร้านก๋วยเตี๋ยวเรือชามละ 50 สตางค์ จังหวัดเชียงราย ที่เป็นกระแสไหมคะ ซึ่งอันนี้เป็น Free Marketing ที่เกิดขึ้นจากลูกค้าถ่ายลงวิดีโอลง TikTok พร้อมกับถ้วยเล็กๆ ที่ใส่ทั้งลูกชิ้น เส้น กากหมู และบอกว่าถ้วยนี้ 50 สตางค์ ทั้งที่จริงๆ แล้วร้านนี้ไม่ได้ขายราคานี้นะคะ ทางร้านบอกว่ามันเป็นถ้วยกากหมู ที่ลูกค้าเอาไปทำคอนเทนต์เอง 

อาจจะเป็นเพราะวิกฤตช่วงของแพงหลายอย่างขึ้นราคา แม้แต่ร้านขายกับข้าวหลายร้านก็ขึ้นราคาตาม แต่พอมีคนบอกว่าร้านนี้ขายก๋วยเตี๋ยวเรือชามละ 50 สตางค์ ก็เลยกลายเป็นที่สนใจของใครหลายๆ คน จนเกิดกระแสขึ้น จากร้านที่ไม่เคยขายราคานี้มาก่อน แน่นอนว่าเขาคงไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป เขาตัดสินใจที่จะทำชาม 50 สตางค์นี้ขึ้นมาจริงๆ 

ซึ่งตรงนี้เขาก็ไม่ต้องจ้างใครมารีวิวเลยนะคะเพราะไม่ว่าจะเป็นเหล่า Youtuber หรือ TikTokger ต่างๆ ก็อยากจะมาทำคอนเทนต์ที่ร้านเขาอยู่แล้ว แถมคนเหล่านี้ยังช่วยกระจายการรับรู้ได้มากขึ้นอีก แต่อย่างไรก็ตามก๋วยเตี๋ยวเรือชามละแค่ 50 สตางค์ มากินที่ร้านเป็นพันคนก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้กำไรอยู่ดี เพราะแค่ลูกชิ้น 1 ลูกก็เกิน 1 บาทแล้วค่ะ แต่เขาทำให้คนพันคนมาที่ร้านเขาได้ถึงแม้จะอยู่ถึงเชียงรายก็คุ้มอยู่เด้อ ในด้าน Marketing

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับ Free Marketing  ที่แบรนด์สามารถทำการตลาดแบบไม่ต้องใช้เงินเลย หรืออาจจะใช้เงินเพียงนิดหน่อยเท่านั้นเอง ซึ่งแต่ละกลยุทธ์ก็ล้วนแต่ทำให้เกิดการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นไม่มาก็น้อยอย่างแน่นอน ปลื้มเชื่อว่าอย่างนั้นและหวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับนักการตลาดที่เข้ามาอ่านด้วยนะคะ ยุคสมัยนี้อะไรประหยัดงบได้ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีค่ะ

สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ

Source : https://www.wordstream.com/blog/ws/2020/12/09/free-and-low-budget-marketing-ideas