6 เทคนิค เขียน Headline อย่างไรให้ Hook คนอ่านได้ ในหมัดแรก
เคยได้ยินไหมคะว่า “ชื่อดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ Headline นั้นเป็นสิ่งแรกที่คนอ่านจะเห็นเมื่อเข้ามาอ่านบทความของเรา ลองคิดดูว่าถ้าชื่อบทความเราแป้ก ถึงเนื้อหาเราจะปัง แต่คนไม่กดเข้ามาอ่านก็พังอยู่ดี จริงไหมคะ? เพราะฉะนั้น Headline จึงควรมีความน่าสนใจมากพอที่จะดึงดูดให้คนอยากอ่านต่อ
วันนี้แบมก็เลยมีสูตรสำเร็จของการคิดหัวข้อให้สามารถดึงดูดใจคนอ่านได้ในครั้งแรกมาฝาก จริงๆ นี่อาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนรู้อยู่แล้ว บางเทคนิคก็อาจจะเคยใช้อยู่เป็นประจำ แต่บอกเลยว่าที่ตัวอย่างที่เรายกมาให้ถือเป็นไม้ตายกันตันที่คิดไม่ออกบอกไม่ถูกเมื่อไหร่ก็สามารถหยิบมาใช้ได้เสมอ มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
เขียน Headline อย่างไรให้คนสนใจอยากกดอ่าน
1.ความผิดพลาดที่ไม่ควรมองข้าม
เทคนิคแรกเป็นการเขียน Headline โดยการหยิบเอาเรื่องใกล้ตัว หรือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่คนไม่ค่อยได้ใส่ใจ และอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด หรือความเสียหายขึ้นได้ในภายหลัง
ยกตัวอย่างเช่น
- 6 ยา 3 วัย กับอันตรายที่ควรรู้ (คีย์เวิร์ดหลักก็คือคำว่าควรรู้)
- บุหรี่มือสาม ภัยเงียบที่ทำลายสุขภาพแบบไม่รู้ตัว (คีย์เวิร์ดหลักก็คือคำว่าภัยเงียบ)
- 7 โรคร้ายที่แฝงมากับหน้าฝน (คีย์เวิร์ดหลักก็คือคำว่าแฝง)
2.ปัญหาที่เกิดขึ้นจาก…พร้อมวิธีแก้ไข
วิธีนี้ถือเป็นท่าเบสิกที่หลายๆ คนหยิบมาใช้กันบ่อยๆ เพราะเนื่องจากช่วยเรียกความสนใจคนอ่านได้เป็นอย่างดีเข้าใจง่าย และไม่ซับซ้อนแล้ว การตั้งหัวข้อในลักษณะนี้ยังช่วยให้ตอบคำถามได้อย่างตรงจุดอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น
- ทำอย่างไร? เมื่อหมึกหกใส่เสื้อขาว
- เมื่อคนหมดใจ ทำอย่างไรถึงมูฟออน
- มีบล็อกแต่ไม่เวิร์ก? ออกแบบบล็อกอย่างไรไม่ใช้คนมองข้าม
3.วิธีป้องกันจาก…
เทคนิคการเขียนในลักษณะนี้ส่วนใหญ่มักจะมีคีย์เวิร์ดคือคำว่า ระวัง เตือนภัย หรือป้องกัน เป็นต้น
ยกตัวอย่างเช่น
- เช็กให้ชัวร์ก่อนซื้อหน้ากากอนามัยออนไลน์
- กันไว้ดีกว่าแก้ กับวิธีดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วงหน้าฝน
- 7 วิธีป้องกันตนเองช่วงวิกฤตฝุ่นพิษ PM 2.5
4.เทคนิคใช้งาน…ให้ดีกว่าเดิม
การเขียน Headline โดยพูดถึงเทคนิคใช้งานบางอย่างให้ดีกว่าเดิม อันนี้เป็นการเพิ่มความแอดวานซ์เข้าไป พูดถึงสิ่งที่เค้าใช้อยู่เป็นประจำ แต่เป็นการแนะนำวิธีการอื่นๆ ที่ง่ายขึ้น ดีขึ้น คุ้มค่าขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น
- ดูกราฟอย่างไรให้คุณรู้ทันหุ้น
- ใช้ตู้เย็นอย่างไรให้ประหยัดไฟกว่าที่เคย
- บริหารเวลาอย่างไรให้คุ้มค่ามากที่สุด
5.เปรียบเทียบระหว่าง A กับ B
วิธีนี้เป็นการเปรียบเทียบ มักจะใช้กับของที่อยู่ในประเภทที่ใกล้เคียงกัน ว่าแบบไหนกันแน่ที่ดีกว่า หรือเหมาะกว่า ส่วนมากวิธีเขียนแบบนี้คนอ่านมักจะชอบ เพราะมันทำให้เขารู้สึกว่าตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น
- Inbound Marketing vs Outbound Marketing การตลาดแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ
- ไขควงเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกัน ไขข้อข้องใจไขควงแบบไหนเหมาะกับงานของคุณ
- ประกันแบบไหนเหมาะสมกับช่วงวัยของคุณ
6.สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนจะ…
การพูดถึงสิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนจะทำอะไร หรือตัดสินใจเลือก หรือซื้ออะไรสักอย่าง ส่วนใหญ่กลุ่มเป้าหมายก็จะเป็นคนที่อยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจซื้อไปแล้ว เพราะฉะนั้นการเขียนก็ควรจะเป็นแบบตรงประเด็นไปเลย
ยกตัวอย่างเช่น
- 10 สิ่งที่คุณต้องทำก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ
- Wedding Checklist งานแต่งทั้งที ต้องไม่มีพลาด
- 6 ข้อควรรู้เมื่อจะซื้อบ้านหลังแรก (คู่มือสำหรับมือใหม่ที่อยากมีบ้าน)
และนี่ก็คือ 6 เทคนิคเขียน Headline ให้สามารถมัดใจคนอ่านได้ในบรรทัดแรก อย่างที่แบมบอกไปในช่วงแรกของบทความว่าถึงแม้เราเขียนเนื้อหาดีแค่ไหน ถ้าชื่อไม่เตะตาโดนในก็ไม่สามารถดึงดูดให้คนคลิกเข้ามาอ่านได้ แต่ในทางกลับกันถึงแม้ว่าชื่อเราจะปังแค่ไหนถ้าเนื้อหาไม่ดี ไม่ตอบโจทย์คนอ่าน ก็สามารถทำให้พังจนคนกดออกได้เช่นกัน
ถ้าเพื่อนๆ อยากศึกษาการเขียนคอนเทนต์เพิ่มเติม แบมขอแนะนำอีก 2 บทความนี้เลยค่ะ Checklist! เริ่มเขียนอย่างไรให้ได้คอนเทนต์คุณภาพ และ 3 วิธี การวางโครงสร้าง Content ทำยังไงให้รู้เรื่อง เข้าใจง่าย น่าสนใจ อ่านจบแล้วลองเอาไปปรับใช้และฝึกเขียนดูนะคะ รับรองว่าทั้งชื่อบทความและเนื้อหาต้องเตะตาตรงใจคนอ่านอย่างแน่นอนค่ะ
ในบทความหน้าแบมจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะคะ