5 กลยุทธ์ทางการตลาด จากครีเอเตอร์ยอดนิยมของ TikTok
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาแแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นอย่าง TikTok ได้สร้างหลายปรากฏการณ์ จนทำให้ตัวเลขผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มผู้ใช้งาน Gen Y และ Gen Z
ซึ่งแบมเชื่อว่าจนถึงตอนนี้แบรนด์ส่วนใหญ่ต้องเคยได้ทดลองใช้ หรืออย่างน้อยก็ต้องพิจารณาแพลตฟอร์ม TikTok ลงในกลยุทธ์โซเชียลมีเดียของด้วยอย่างแน่นอน เนื่องจากการมีส่วนร่วมที่แพร่หลาย แถมยังมีอัลกอริธึมที่ไม่เหมือนใคร และความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับกระแสวัฒนธรรมนับไม่ถ้วน
วันนี้แบมเลยเลยรวมเอากลยุทธ์การทำการตลาดด้วย TikTok จากครีเอเตอร์ TikTok ชั้นนำหลายคนที่เคยใช้เพื่อทำให้แอคเคาน์ของตัวเองโดดเด่น และดึงดูดผู้ชมมาแบ่งปันกัน
กลยุทธ์การตลาดของ TikTok #1: เผยแพร่เนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ
TikTok เองก็เหมือนกับแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆ ที่ถ้าเราอยากจะสร้าง Awareness ของแบรนด์ให้คนรู้จักในวงกว้างแล้วล่ะก็จำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาและต้องเผยแพร่เนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ หากคุณต้องการให้ผู้ใช้ที่แอคทีฟเหล่านั้นมีเห็นคอนเทนต์รวมถึงมีส่วนร่วมกับวิดีโอของคุณ
ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์เครื่องดื่ม DTC Poppi ที่มีคนดูมากที่สุดถึง 29.8 ล้านวิว โดยเนื้อหาในวิดีโอนั้นจะเป็นการที่ผู้ก่อตั้งแบรนด์มาอธิบายถึงเส้นทางในการเริ่มต้นธุรกิจของเธอ ซึ่งถึงแม้วิดีโอนี้จะไปไกลถึงระดับไวรอลแล้ว แต่ทางแบรนด์ก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น Poppi ยังคงเผยแพร่เนื้อหาที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่องซึ่งเน้นที่ผลิตภัณฑ์ของตน อธิบายวิธีการทำงาน และแชร์ตัวอย่างการออกรสออกชาติ
กุญแจสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ Poppi มียอดดูนับล้านอาจเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการโพสต์เนื้อหาบน TikTok เฉลี่ยวันละ 1 วิดีโอเป็นประจำ นั่นหมายความว่าแบรนด์นี้จะมีเนื้อหาที่แสดงบน TikTok อย่างน้อยเจ็ดครั้งต่อสัปดาห์เลยทีเดียว
ซึ่งการเผยแพร่เนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ ย่อมช่วยทำให้ผู้ใช้งานมีโอกาสที่เห็นเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกันค่ะ นักการตลาดและแบรนด์เองก็สามารถนำกลยุทธ์นี้ไปทำตาม โดยลองสร้างเนื้อหาที่สื่อถึงความเป็นแบรนด์ในแง่มุมต่างๆ และเผยแพร่เป็นประจำวันละ 1 วิดีโอดูนะคะ รับรองว่าจะช่วยสร้าง Awareness ให้กับแบรนด์ได้อย่างแน่นอน
กลยุทธ์การตลาดของ TikTok #2: สร้างความบันเทิง
ถ้าเป้าหมายของแบรนด์คุณคือการเข้าถึงกลุ่มGen Z แล้วล่ะก็ แบมแนะนำให้ลองปรับเนื้อหาให้มีบรรยากาศของความบันเทิงเพิ่มมากขึ้นอีกสักหน่อย เพราะจากการศึกษาพบว่า 65% ของชาว Gen Z นั้นมักจะใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิง และเมื่อลองพิจารณากลุ่มผู้ใช้ TikTok ประมาณ 44% ก็เป็นกลุ่มที่มีอายุระหว่าง 18-24 ปี ดังนั้นการสร้างเนื้อหาที่อยู่ภายใต้ความบันเทิงอาจเป็นวิธีที่ดีในการดึงดูดผู้ใช้งานเหล่านี้นั่นเองค่ะ
ลองมาดูตัวอย่างจากแพลตฟอร์มการเรียนรู้ภาษาชื่อ Duolingo ที่ได้สร้างสรรค์เนื้อหาการเรียนที่จำเจผ่านการนำเสนอของนกฮูกสีเขียว ซึ่งเป็นมาสตอตประจำของแบรนด์ โดยการนำเสนอด้วยวิธีการนี้นั้นสามารถสร้างความบันเทิง สร้างภาพจำของการเรียนภาษาที่ไม่น่าเบื่อ และเรียกความสนใจจากกลุ่มผู้ใช้งานได้ดีทีเดียว
กลยุทธ์การตลาดของ TikTok #3: เจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
การสร้างคอนเทนต์วิดีโอบน TikTok นั้น เราไม่จำเป็นจะต้องจับกลุ่มเป้าหมายที่ Mass เสมอไป แต่เราอาจจะใช้กลยุทธ์การเจาะเป้าหมายเฉพาะกลุ่มไปเลย เช่น กลุ่มทาสแมว กลุ่มแม่บ้าน หรือกลุ่มพนักงานออฟฟิศ เป็นต้น ซึ่งการเจาะจงเฉพาะกลุ่มแบบนี้จะทำให้เราได้ผู้ติดตามที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเรามากขึ้น
ยกตัวอย่างคอนเทนต์จากครีเอเตอร์ที่ได้รับความนิยมอย่าง Emma Chieppor หรือที่รู้จักในชื่อ “Excel Dictionary” บน TikTok ที่เธอใช้เพื่อสร้างเนื้อหาในการแชร์เคล็ดลับและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำ Excel
เริ่มต้นจากการ WFH ในช่วงโควิด-19 ที่เธอต้องพยายามสอนตัวเองให้เก่งเรื่อง Excel เนื่องจากไม่มีเพื่อนร่วมงานคอยช่วยเหลือ เมื่อเธอเชี่ยวชาญขึ้นแล้ว เธอก็เลยเริ่มต้นแบ่งปันทุกสิ่งที่เธอเรียนรู้ผ่าน TikTok ที่ในแบบที่เข้าใจได้ง่ายขึ้น
หลายคนอาจจะคิดว่าเนื้อหาเรื่อง Excel นี้อาจจะฟังดูน่าเบื่อ แต่ช่อง Excel Dictionary ของ Emma Chiepporนั้นกลับมีผู้ติดตามกว่า 2 ล้านคน และ #ExcelTips นั้นก็มียอดเข้าชมมากกว่า 646 ล้านครั้ง
เป็นอย่างไรบ้างคะ จากตัวอย่างเราจะเห็นได้ชัดเจนว่าเนื้อหาเฉพาะกลุ่มนี้โดนใจใครหลายๆ คน สำหรับการทำเนื้อหาแบบเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มนั้น ทางแบรนด์จะต้องรู้จักตัวเองก่อนว่าเป้าหมายของเราเป็นใคร ไม่เพียงแต่ต้องรู้ว่าเราแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไรเท่านั้น
แต่แบรนด์ยังต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความต้องการเฉพาะของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้คุณสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ตอบสนองพวกเขาในแบบที่ถูกจุด ตรงใจ และไม่ซ้ำกับใครในตลาด
กลยุทธ์การตลาดของ TikTok #4: ให้ความรู้แก่ผู้ชมของคุณ
หลายคนอาจจะมองว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นวนเรื่องความบันเทิงเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วคอนเทนต์วิดีโอที่เกี่ยวกับการศึกษา หรือการให้ความรู้นั้นได้รับการมีส่วนร่วมค่อนข้างสูงเลยที่เดียว โดยแฮชแท็ก #HowTo นั้นมีผู้ชมมากกว่า 52 พันล้านครั้ง และ #TipsAndTricks มีผู้ชมมากกว่า 16 พันล้านครั้ง
ถ้าหากคุณกำลังคิดว่าจะทำคอนเทนต์ให้ความรู้ในรูปแบบไหนดี ลองมาดูตัวอย่างจากแบรนด์ Sugardoh ที่ให้ความรู้เรื่องวิธีการ เทคนิค รวมถึงคำแนะนำในการแว็กซ์ที่บ้านด้วยตัวเองอย่างถูกวิธี เพื่อให้ลูกค้าสามารถแว็กซ์ขนได้อย่างสะอาดหมดจด และเจ็บน้อยที่สุด โดยให้ TikTok ช่วยตอบคำถามที่ลูกค้าสงสัยในแบบที่เห็นภาพได้ทันที
ถ้าแบรนด์ไหนอยากผลิตคอนเทนต์ประเภท How to ลองเนื้อหาเกี่ยวกับการตอบคำถามหรือข้อกังวลทั่วไปของผู้ชมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรืออุตสาหกรรมของคุณ หรืออาจจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับเคล็ดลับ ข้อควรระวัง หรือข้อแนะนำในการใช้สินค้าก็ได้เช่นกัน
แต่ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะเลือกคำถามไหนมาตอบดี แบมแนะนำให้เข้าไปดูคอมเมนต์ในช่องทางต่างๆ แล้วลองดูว่าคำถามไหนที่ถูกถามซ้ำบ่อยๆ ก็ลองเลือกหยิบมาคำเป็นคอนเทนต์ดูได้ค่ะ
กลยุทธ์การตลาดของ TikTok #5: ใช้เอฟเฟกต์ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์
สิ่งที่ทำให้ TikTok แตกต่างจากโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มอื่นๆ นั่นก็คือ การสามารถสร้างคอนเทนต์ได้จากเอฟเฟกต์ที่หลากหลาย
บางคนอาจจะมองว่าเอฟเฟกต์นั้นไม่ได้ส่งผลอะไรต่อแบรนด์ในแง่การทำการตลาดมากนัก แต่จริงๆ แล้วเอฟเฟกต์เหล่านี้ถือเป็นการช่วยเพิ่มยอดการเข้าชมวีดีโอได้ดีมากทีเดียวค่ะ
ลองนึกภาพตามดูนะคะว่าถ้าเราเป็นลูกค้าแล้วเห็นวีดีโอที่มีเอฟเฟกต์เจ๋งๆ คุณก็คงอยากกดเข้าไปดูแล้วลองใช้ตามจริงไหมคะ เพราะฉะนั้นแบรนด์เองก็ควรใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้ในการเพิ่มยอดเข้าชทวิดีโอ หรือจะทำเป็นเอฟเฟกต์เฉพาะของคุณเองก็ย่อมได้เช่นกัน
อย่างแบรนด์ Maybelline เลือกสร้างสรรค์แคมเปญโปรโมตลิปสติกจิ้มจุ่มตัวใหม่อย่าง SUPER STAY P-INK Edition ด้วยไอเดียการใช้เอฟเฟกต์เปลี่ยนสีลิป ที่นอกจากจะสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ติดตามแล้ว ยังทำให้ผู้บริโภค สามารถทดลองสีลิปได้ครบทั้ง 12 เฉดแบบไม่ต้องออกจากบ้าน ทำให้ผู้บริโภค รู้สึกว่า การเลือกสีลิปสติกที่ใช่และเหมาะกับตัวเองเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิมด้วย
และทั้งหมดนี้ก็คือ 5 กลยุทธ์ในการทำ tiktok Marketing ที่จะช่วยยกระดับแบรนด์ของคุณ ให้ดึงดูดและน่าจดจำกับผู้ติดตามเดิม แถมยังช่วยเพิ่มผู้ติดตามใหม่ๆ ได้ด้วย
ที่สำคัญไม่ว่าคุณจะเลือกใช้กลยุทธ์แบบไหนก็จะต้องมีการติดตาม วัดผล รวมถึงวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่ได้อยู่เสมอ เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนรูปเนื้อหาที่เหมาะสมกับแบรนด์และผู้ติดตามให้มากที่สุด
ส่วนใครที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การทำตลาดในรูปแบบอื่นๆ แบมแนะนำให้ไปอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ในบทความหน้าแบมจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะคะ