วิเคราะห์สงครามส่วนลด Grab และ foodpanda
สงครามส่วนลดระหว่าง Grab และ foodpanda ส่งผลให้บริษัท Delivery Hero ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ foodpanda แพลตฟอร์ม Food delivery รายใหญ่ ได้มีการยืนยันการเจรจาที่จะขายธุรกิจในเอเชียบางส่วน โดยมูลค่าของข้อตกลงอยู่ระหว่างการเจรจา
แหล่งที่มา : Daily Guardian
บริษัท GRAB ของสิงคโปร์จะเป็นผู้เข้าซื้อกิจการของ foodpanda ทั้งในประเทศ สิงคโปร์, กัมพูชา, สปป.ลาว, มาเลเซีย, เมียนมา, ฟิลิปปินส์ และไทย ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าประมาณ 4 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 1000 ล้านยูโร แต่ปัจจุบันทาง GRAB ยังไม่ออกมายืนยันข้อมูลดังกล่าวข้างต้น
เมื่อได้มีข่าวนี้ออกมาทำให้หุ้นของบริษัท Delivery Hero ปรับตัวเพิ่ม 13.5 % หลังมีข่าวที่จะขายกิจการบางส่วนในเอเชียออกไป ซึ่งปัจจุบันบริษัทมุ่งเน้นไปที่การทำกำไรเพื่อรักษาการเติบโตของธุรกิจ เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดน้อยลงตั้งแต่ช่วงเกิด COVID-19
Delivery Hero คืออะไร
บริษัทจัดส่งอาหารที่เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมอาหารออนไลน์ ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในทุกทวีปด้วยการให้บริการการส่งอาหารออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันและ เว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถสั่งอาหารจากร้านอาหารท้องถิ่นและร้านรายการโปรดได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Delivery Hero
แหล่งที่มา : GrundErszene
บริษัทกำลังเจรจาขายกิจการบางส่วนในอาเซียนให้ Grab โดยธุรกิจของ Delivery Hero ดำเนินงานภายใต้แบรนด์ foodpanda ในหลายประเทศในเอเชีย รวมถึงสิงคโปร์, กัมพูชา, สปป.ลาว, มาเลเซีย, เมียนมา, ฟิลิปปินส์, ไทย
ส่วนแบ่งการตลาดของแอป Delivery ในไทยเป็นยังไงบ้าง
เมื่อพิจารณาส่วนแบ่งตลาดแอปพลิเคชั่น Food delivery จะเห็นได้ว่า Grab มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด โดยครอบครองสัดส่วนมากถึงร้อยละ 54 ในขณะที่แอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้แก่ LINE MAN Wongnai อันดับ 2 ครองส่วนแบ่ง 24% และ Foodpanda อันดับ 3 ครองส่วนแบ่ง 16% อันดับที่ 4 คือ Robinhood ครองส่วนแบ่งตลาด 6%
กลยุทธ์ของ Delivery Hero เป็นยังไง
1.การขยายตัวในตลาด Delivery Hero มุ่งเน้นการขยายตัวในตลาดการจัดส่งอาหารออนไลน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการเปิดและ รวมกิจการในพื้นที่ที่มีโอกาสในการเจริญเติบโตเช่น การซื้อส่วนหนึ่งของบริษัทอื่นหรือเจาะตลาดใหม่
2. การสร้างพันธมิตร บริษัทนี้อาจจะทำการร่วมงานกับร้านอาหารท้องถิ่นและร้านอาหารรายใหญ่เพื่อเพิ่มสินค้าและบริการในแพลตฟอร์มของพวกเขา นอกจากนี้ยังมีการร่วมงานกับบริษัทอื่น เช่น บริษัทชั้นนำในด้านการจัดส่ง หรือเทคโนโลยี
แหล่งที่มา : PYMNTS
3. พัฒนาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์ม Delivery Hero การลงทุน เพื่อให้บริการการส่งอาหารออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพและความสะดวกสบายสำหรับลูกค้าและร้านอาหาร
4. การปรับตัวตามความต้องการของลูกค้า Delivery Hero ใส่ใจในการฟังความคิดเห็นและความต้องการของลูกค้าเพื่อปรับปรุงบริการและสินค้าของพวกเขาให้ตรงกับความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้า
5. ความยั่งยืนและความรับผิดชอบสังคม Delivery Hero อาจมีความรับผิดชอบทางสังคมและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน เช่น การลดการปล่อยคาร์บอน และการสนับสนุนโครงการสังคมที่ดี
โดยทั่วไปแล้วกลยุทธ์ของ Delivery Hero เน้นการขยายตัวและการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดการจัดส่งอาหารออนไลน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในทุกทวีป
กลยุทธ์ของ Grab เป็นอย่างไร
แหล่งที่มา : Maketeer
- การขยายบริการ Grab มุ่งหวังที่จะเป็นสุดยอดแอป โดยนำเสนอบริการที่หลากหลายนอกเหนือจากการเรียกรถโดยสาร ซึ่งรวมถึง GrabFood สำหรับบริการส่งอาหาร, GrabExpress สำหรับบริการจัดส่ง, GrabPay สำหรับการชำระเงินผ่านมือถือ และ GrabFinancial สำหรับบริการทางการเงิน
- ความเป็นผู้นำตลาด Grab กำลังแข่งขันกับบริษัทเรียกรถโดยสาร ทั้งในประเทศและต่างประเทศในประเทศไทย เพื่อสร้างตัวเองให้เป็นผู้นำในตลาดบริการเรียกรถร่วมกัน โดยทางบริษัทมีการเสนอโปรโมชั่น และ สิ่งจูงใจต่างๆ เพื่อดึงดูดทั้งผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ และผู้ขับขี่รถยนต์
- บริการส่งอาหารGrabFood เป็นหนึ่งในบริการที่โดดเด่นของ Grab ในประเทศไทย บริษัทมุ่งเน้นไปที่การขยายความร่วมมือด้านร้านอาหารและเครือข่ายการจัดส่งเพื่อจัดหาตัวเลือกอาหารที่หลากหลายให้กับลูกค้า
- บริการทางการเงิน GrabPay เป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์ของ Grab โดยมีเป้าหมายเพื่อการชำระเงินดิจิทัล และ บริการทางการเงินแก่ผู้ใช้งาน
- ความร่วมมือในท้องถิ่น Grab สร้างความร่วมมือกับธุรกิจ ร้านอาหาร และร้านค้าปลีกในท้องถิ่น
- ความปลอดภัย และ คุณภาพ การดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร และผู้ขับขี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของบริษัท Grab มีการฝึกอบรมผู้ขับขี่เพื่อรักษาคุณภาพการบริการในระดับสูง
- เทคโนโลยีและนวัตกรรม Grab ลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับบริการ ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของแอป การพัฒนาโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อการปรับเส้นทางให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และ การสำรวจเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ
- ความยั่งยืน Grab มีการสำรวจทางเลือกต่างๆ ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การแนะนำการใช้ยานพาหนะไฟฟ้า และ การส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ผลประกอบการเปรียบเทียบบริษัท บริษัท เดลิเวอรี่ ฮีโร่ (ประเทศไทย) จำกัด (Foodpanda) และ บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด (Grab)
บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด
แหล่งที่มา : Creden.co
บริษัท เดลิเวอรี่ ฮีโร่ (ประเทศไทย) จำกัด
แหล่งที่มา : Creden.co
หากเปรียบเทียบระหว่าง 2 บริษัท Delivery สำหรับ Grab Taxi และ Delivery Hero ทางผู้อ่านอาจจะสามารถสังเกตได้ถึงอัตราการเติบโตของบริษัท Delivery Hero นั้นมีการเติบโตที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
โดยสาเหตุที่ Delivery Hero ขายกิจการ ก็คือ Delivery Hero มีการเติบโตลดลงตั้งแต่เกิดการ Lock Down จาก COVID-19 ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดปกติเนื่องจากคนไม่สามารถออกมาใช้ชีวิตได้ปกติแถมห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่ต่าง ๆ ก็จำกัดจำนวนคนเข้าทำให้คนต้องอยู่บ้านและเลือกสั่งบริการ Delivery
ดังนั้นการมี Growth Rate ที่ต่ำในช่วง COVID-19 จึงเป็นสิ่งที่ไม่ปกติสำหรับบริษัท Delivery เพราะหากเทียบกับ Grab แล้วจะเห็นได้ว่ามีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นมาก หรือหากจะมองอีกแง่หนึ่งคือทาง Delivery Hero โดนแย่งลูกค้าในตลาดหรือ Grab สามารถวางแผนกลยุทธ์ที่ดึงดูดลูกค้าได้ดีกว่านั่นเอง
สรุปทำไม Delivery Hero ถึงเลือกขายกิจการให้ Grab
จากการวิเคราะห์บริษัท Delivery ที่อยู่ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีบริษัทที่อยู่ในตลาดไม่กี่รายที่สามรถซื้อกิจการของ foodpanda ได้ ได้แก่ Grab และ Goto โดยหากดูจากมุมมองทางการตลาดแล้ว Grab น่าสนใจมากที่สุด
หาก GRAB สามารถเข้าซื้อกิจการของ foodpanda ได้ อาจทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้น สามารถกำหนด หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ รวมถึงสามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้ และกำไรของบริษัทได้อีกด้วย ดังนั้นหากซื้อกิจการสำเร็จ ทาง foodpanda มารวมกับ Grab ส่วนแบ่งการตลาดก็จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 70%
ดังนั้นเมื่อเกิดการขายกิจการเรียบร้อย ในประเทศไทยก็จะเหลือบริษัทเกี่ยวกับ Food Delivery ดังนี้
- Grab 70%
- LINE MAN 24%
- อื่น ๆ 6% (Robinhood ,Shopee Food , True food)
จึงแสดงให้เห็นชัดเลยว่าเมื่อมีบริษัทลดลง ทำให้ผู้ให้บริการมีอำนาจต่อรองกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น สามารถกำหนดราคาให้สูงกว่าเดิม ค่าบริการก็จะมีราคาแพงขึ้น โดยมีผลมาจากตัวเลือกในการใช้บริการลดลงหรือเรียกง่าย ๆ ก็คือไม่มีให้เลือกนั่นเอง ผู้บริโภคอย่างเราก็ต้องยอมรับและใช้บริการที่ราคาสูงจากสงครามนี้
เมื่อมาดูในมุมมองของทาง GRAB เอง บริษัทก็จะมีฐานลูกค้ามากขึ้น ข้อมูล ลักษณะนิสัยการใช้จ่าย การวิเคราะห์ การเก็บสถิติ มีมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน บริษัทอื่นที่อยู่ในส่วนแบ่งการตลาดก็จะเกิดการแข่งขันสูงมากขึ้น เนื่องจาก GRAB มีอำนาจในด้านข้อมูลและการเป็นผู้นำตลาดที่สามารถเล่นในเรื่องของส่วนลดหรือการดึงดูดลูกค้า
Reference
อ้างอิง1, อ้างอิง2, อ้างอิง3, อ้างอิง4, อ้างอิง5, อ้างอิง6,อ้างอิง7, อ้างอิง8, อ้างอิง9, อ้างอิง10