ส่อง Lifestyle คน Gen Y พร้อม How to ทำการตลาดแบบไหนให้ตอบโจทย์

กลุ่มคน Generation Y (Gen Y) เป็นคนที่เกิดในช่วงค.ศ 1981-2000 โดยกลุ่ม Gen Y นี้ถือว่าเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลสุดๆ ต่อตลาดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะว่าเป็นกลุ่มที่เป็นวัยทำงาน มีกำลังซื้อสูง และเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่เกือบ 1 ใน 3 ของประเทศเลยทีเดียว วันนี้แบมก็เลยมีไลฟ์สไตล์พร้อมคำแนะนำดีๆ ในการสื่อสารให้ถึงใจคน Gen Y มาฝากกันค่ะ

ทำความรู้จัก Gen Y 

ก่อนที่เราจะไปดูวิธีการทำการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มคนใน Gen นี้เราต้องเข้าใจพฤติกรรมของชาว Gen Y ก่อนว่าคนกลุ่มนี้นั้นเติบโตมากับยุคที่อินเทอร์เน็ตกำลังแพร่หลาย ทำให้คน Gen Y มีพฤติกรรมเหล่านี้

• ชอบเข้าสังคม 

สังคมที่ว่านี้ก็คือสังคมออนไลน์ โดยมีการโพสจ์หรือแชร์เรื่องราวเพื่อแสดงตัวตนที่แตกต่าง

• คุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยี 

เนื่องจากเป็นยุคแรกๆ ที่เทคโนโลยีเข้ามา จึงมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และปรับตัวให้ทันเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้มากกว่าคน Gen อื่นๆ

• ตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเป็นหลัก

มีการค้นหาข้อมูลออนไลน์มาพิจารณา เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย หรือประเมินความคุ้มค่า เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อสินค้าและบริการ

• ช่างเลือก

คน Gen Y นั้นมีมาตรฐานสูง แถมยังมีข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อใช้ในการตัดสินใจ จึงทำให้คน Gen Y นั้นมีนิสัยช่างเลือก หรือเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองเท่านั้น

• มีความรู้ความเข้าใจด้านการเงิน

คนกลุ่มนี้มีความต้องการสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงให้ได้เร็วที่สุด จึงมีการเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารเงิน และการลงทุนในรูปแบบต่างๆ

6 วิถีชีวิตสไตล์ Gen Y

แบมได้อ่านเจอบทความวิจัยที่นำเสนอถึงการตีความไลฟ์สไตล์และการเลือกบริโภคสินค้าผ่านสื่อออนไลน์เรื่อง “รูปแบบการดำเนินชีวิต การบริโภคสินค้าออนไลน์ การบริโภคสื่อดิจิทัล และการรับรู้ความเสี่ยงออนไลน์ของผู้บริโภคเจเนอเรชันวายบนโลกออนไลน์” ของ อาจารย์ ดร.ปภาภรณ์ ไชยหาญชาญชัย จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิยาลัย แล้วเห็นว่ามีการแบ่งชาว Gen Y ออกเป็น 6 ไลฟ์สไตล์ได้น่าสนใจทีเดียว มาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีคน Gen Y ในลักษณะไหน แล้วเราควรทำการตลาดอย่างไรกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างนี้ดี

1.กระต่ายน้อยแสนสุข (The Happy Bunnies) 

Gen Y สายนี้มักจะเป็นคนที่เลือกเสพความสุขในแบบที่ตนเองชอบ หรือชอบแสวงหาความสุขจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว แบบชิลๆ เช่น การเขียนบล็อก ทำคลิป ดูซีรีย์ ปาร์ตี้ ชอปปิง เป็นต้น นอกจากนี้คนในกลุ่มนี้มักมีแนวโน้มในการใช้สื่อออนไลน์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับคนในสังคมอย่าง คนในครอบครัว เพื่อน หรือคนสนิท ด้วย 

How to ทำการตลาดอย่างไรให้ปัง!

คนที่มีไลฟ์สไตล์แบบกระต่ายน้อยแสนสุขนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเป้าหมายของสินค้าฟุ่มเฟือย ร้านอาหาร สินค้าแฟชั่น และสินค้าที่เน้นคุณภาพ ถึงแม้ราคาสูงถ้าคุณภาพดี คนกลุ่มนี้ก็สู้ค่ะ เพราะฉะนั้นในมุมของการตลาดเราควรสื่อสารด้วยข้อความที่เน้นประโยชน์ในเชิงอารมณ์ และความเป็นที่สุด (The Best) เช่น ดีที่สุด สะดวกสบายที่สุด จะสามารถดึงดูดใจคนสไตล์นี้ได้มากกว่าค่ะ

2.นักเดินหน้าหาอนาคต (The Future Forwarders)

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นนักเดินหน้าหาอนาคต เพราะฉะนั้นเป้าหมายของคนกลุ่มนี้คือการมุ่งหน้าสร้างอนาคต ครอบครัว หรือ มุ่งมั่นหาความมั่นคงให้กับชีวิต ชอบการพัฒนาตัวเอง โดยจะเน้นในเรื่องของการวางแผนการเงินเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการออมเงิน ทำอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ซื้อประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และมีแนวโน้มในการใช้สื่อออนไลน์เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ หรือความมั่นใจของตนเอง

How to ทำการตลาดอย่างไรให้ปัง!

คนกลุ่มนี้นั้นเป็นกลุ่มเป้าหมายของประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันภัย ธนาคารที่มีโครงการเพื่อการลงทุน และสถาบันอบรม พัฒนาทักษะต่าง ๆ รวมถึงสินค้าสีเขียว (Green Product) โดยคีย์ของการสื่อสารควรเน้นในเรื่องของความมั่นคงของชีวิตเป็นหลัก

3.ชาวดาร์วิน (The Darwinians) 

สำหรับชาวดาร์วินนั้นจะเป็นประเภทที่ใช้ชีวิตบนพื้นฐานของความเป็นจริง พร้อมที่จะปรับตัว และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง จึงทำให้เป็นคนที่เข้าใจกระแสสังคม และปรับตัวตามเทรนด์ได้ดี มีแนวโน้มในการใช้สื่อออนไลน์เพื่อปลดปล่อยความเครียด หรือจากความเบื่อหน่ายในชีวิต

How to ทำการตลาดอย่างไรให้ปัง!

Gen Y สายนี้มักจะเป็นกลุ่มเป้าหมายของสินค้าที่อุปโภคบริโภคที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิต สำหรับการสื่อสารกับคนกลุ่มนี้เราต้องสื่อสารด้วยความจริงใจ บอกหมดไม่มีหมกเม็ด เป็นการแสดงข้อเท็จจริง ชี้ให้เห็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ที่สำคัญคือต้องไม่พยายามโน้มน้าวหรือชี้นำมากจนเกินไปด้วย

4.ชาวไซเบอร์ (The Cybernauts)

ไลฟ์สไตล์ของ Gen Y ที่เป็นชาวไซเบอร์นั้นมีพฤติกรรมที่เด่นชัดมากก็คือติดโซเชียล ชอบที่จะสื่อสาร และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในโลกออนไลน์ จะเห็นได้จากจะมีการ Call ไลน์ โพสต์รูป ไลก์ คอมเมนต์ แชร์ ติดตามเพจต่าง ๆ โดยมีแนวโน้มในการใช้สื่อออนไลน์เพื่อหลีกหนีจากความเครียด หรือจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในชีวิต

How to ทำการตลาดอย่างไรให้ปัง!

ชาวไซเบอร์เนี่ยส่วนใหญแล้วจะเป็นกลุ่มเป้าหมายของตลาด e-commerce เพราะฉะนั้นในด้านการตลาดควรเน้นการสื่อสารผ่านข่องทางออนไลน์เป็นหลัก โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ และอินสตาแกรม ควบคู่ไปกับการทำContent Marketing และควรใช้กลยุทธ์ Influencer Marketing เข้ามาช่วย โดยเลือก Influencer ที่มีความสนใจตรงกับสินค้าและบริการ จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และโน้มน้าวใจผู้บริโภคได้ดีขึ้น

5.สาวกศาสนา (The Religious Acolytes)

คนกลุ่มนี้จะเป็นคนที่มีศรัทธา มีใจรักในการรักษาวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมไทย ชอบเข้าวัด ทำบุญ อ่านเพจธรรมะ หรือติดตามเพจสุขภาพต่างๆ และมีแนวโน้มในการใช้สื่อออนไลน์เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ หรือความมั่นใจของตนเอง

How to ทำการตลาดอย่างไรให้ปัง!

สาวกศาสนานี้มักเป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์สินค้าไทย สินค้า OTOP การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยเราควรจะสื่อสารด้วยข้อความที่มีความน่าเชื่อถือ เน้นการอนุรักษ์ และสืบสานวัฒนธรรมไทย เป็นต้น

6.ชาววอลสตรีท (The Wall Streeteers)

บอกได้คำเดียวว่าเงินคือคำตอบของทุกสิ่งของชาววอลสตรีท เพราะนิสัยที่โดดเด่นของชาววอลสตรีทคือชอบความร่ำรวย จึงมีไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่เป็นการได้มาซึ่งความร่ำรวย เช่นการลงทุน หรือเล่นหุ้น โดยมีแนวโน้มในการใช้สื่อออนไลน์เพื่อ ต้องการที่จะได้ความรู้ ข้อมูล และมีความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ

How to ทำการตลาดอย่างไรให้ปัง!

คนที่มีไลฟ์สไตล์แบบชาววอลสตรีทนั้นเป็นกลุ่มเป้าหมายของสินค้าที่มีรายการส่งเสริมการขาย พวกโปรโมชันต่าง ๆ เราจึงควรสื่อสารด้วยข้อความที่เน้นย้ำในเรื่องความคุ้มค่าเป็นหลักนั่นเอง

.

การตลาดในปัจจุบันนั้นก้าวกระโดดไปไกล และเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามความต้องการของผู้บริโภค เพราะฉะนั้นการทำการตลาดอย่างการยิงโฆษณา หรือการทำแคมเปญแบบเดิมๆ อาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไหร่นัก ถ้าเราอยากมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด เราก็ต้องทำความรู้จัก ศึกษาความค้องการ ทำความเข้าใจ เพื่อให้รู้ใจกลุ่มเป้าหมายของเราให้มากขึ้น บอกเลยว่างานนี้ยิ่งรู้ลึกแค่ไหน ยิ่งได้ใจลูกค้ามากเท่านั้น

สำหรับใครที่สนใจอ่านบทความการตลาดแบบ Personalization ของการตลาดวันละตอนในแง่มุมอื่นๆ สามารถอ่านต่อได้ที่นี่ 

ในบทความหน้าแบมจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะคะ