ไอเดียการตลาดสุดเก๋ Zone Energy ผุดแคมเปญให้กำลังใจเด็กญี่ปุ่นในช่วงสอบ ‘Invisible Zone’
ไอเดียการตลาดสุดเก๋ Zone Energy ผุดแคมเปญให้กำลังใจเด็กญี่ปุ่นในช่วงสอบ ‘Invisible Zone’
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้จะพามาดูแคมเปญที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ ซึ่งมีชื่อว่า ‘Invisible Zone’ จากแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังอย่าง Zone Energy ที่นอกจากจะให้พลังทางร่างกายแล้ว ยังทำแคมเปญให้พลังทางจิตใจ~ ออกแบบสื่อกลางแจ้งได้อย่างสร้างสรรค์ และไม่ใช่ทุกคนที่จะมองเห็น… เอ๊ะ เป็นงง สำหรับใครที่กลัว ๆ ขอบอกก่อนว่าเรื่องนี้ไม่มีความหลอนแต่อย่างใดนะคะ เป็นแคมเปญน่ารัก ๆ ดี ๆ นี่เอง แต่แคมเปญนี้จะเป็นแบบไหนยังไง ต้องตามมาดูกันต่อค่าาา
Zone Energy แบรนด์เครื่องดื่มชูกำลัง ที่ไม่ได้ให้แค่กำลังกาย แต่ให้กำลังใจ~
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินหรือรับรู้กันมาบ้างแล้วเกี่ยวกับช่วงการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ในประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าเลื่องชื่อลือชาในด้านความตึงเครียดและความกดดันสูงมากกกกก
มีนักเรียนจำนวนมากมายถึง 600,000 คน ที่เข้าร่วมการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกปี ซึ่งก็คงมีความเครียดสูงกันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเรื่องอนาคตของตนเอง ดังนั้น Zone Energy แบรนด์เครื่องดื่มชูกำลัง จึงอยากแสดงการสนับสนุนคนกลุ่มนี้ จึงผุดไอเดียปิ๊งแคมเปญที่มีแต่เด็ก ๆ เหล่านี้เท่านั้นที่จะมองเห็น จึงผุดไอเดีย Invisible Zone แคมเปญ
จึงทำงานร่วมกับ Dentsu ในโตเกียว ใช้จอใหญ่มากมายที่สถานีรถไฟชิบุยะและอิเคะบุคุโระ ในโตเกียว นำมาใช้เพื่อแสดงข้อความต่าง ๆ เพื่อให้กำลังใจนักเรียน ระหว่างที่เด็ก ๆ เดินทางไปและกลับจากโรงเรียนในช่วงก่อนสอบ
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้คนปกติที่เดินทางผ่านไปผ่านมาเป็นประจำ แล้วเห็นหน้าจอโฆษณาตามสถานีต่าง ๆ ข้อความบนหน้าจอก็จะดูเหมือนจะไม่สามารถอ่านหรือตีความให้เข้าใจได้ แลดูเหมือนหน้าจอกำลังทำงานผิดปกติซะมากกว่า เหมือนทีวีเสีย
แต่สำหรับเด็ก ๆ นักเรียนทั้งหลาย ในการถอดรหัสปลดล็อกข้อความที่ซ่อนอยู่ นักเรียนสามารถใช้ ‘แผ่นสีแดง’ เป็นแผ่นพลาสติกโปร่งใสสีแดง (แผ่นนี้ทำให้ข้อความสีแดงหายไป ข้อความสีเขียวจะกลายเป็นตัวหนา) ซึ่งเป็นไอเท็มที่เด็กญี่ปุ่นมักพกไว้ใช้เป็นตัวช่วยในการทดสอบความจำขณะอ่านหนังสือสอบ และในแคมเปญนี้เด็ก ๆ ก็จะสามารถใช้แผ่นสีแดง มาถอดรหัสข้อความที่ซ่อนอยู่ในหน้าจอที่ดูสับสนงุนงงนี้ได้นั่นเอง
โดยตัวอย่างข้อความบนหน้าจอ ทำให้นักเรียนที่อยากรู้อยากเห็นได้ยืนยันในช่วงเวลาอันยาวนานของการเรียน ตัวอย่างข้อความบนหน้าจอ เช่น
- ชัยชนะของพวกคุณทุกคนที่ใช้แผ่นสีแดงในการศึกษา แม้แต่บนรถไฟ!
- จงใช้สิ่งนี้เป็นสัญญาณว่าคุณจะผ่านการสอบ
- อย่ายอมแพ้ จงสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง
ผลลัพธ์ของแคมเปญ ‘Invisible Zone’ นี้
- ได้รับการแสดงผลมากกว่า 23 ล้านครั้ง
- การมีส่วนร่วม 1.6 ล้านครั้งบน Twitter
- ได้รับการเผยแพร่โฆษณาฟรีมากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ครอบคลุมโดยสื่อ 283 แห่ง
ถอดบทเรียน Invisible Zone แคมเปญ ให้กำลังใจเด็กช่วงสอบ
สิ่งแรกเวลาต้องการจะทำโฆษณา หลาย ๆ คนคงนึกถึงการดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย แต่ Zone Energy ก้าวไปไกลกว่านั้น นอกจากจะเรียกความสนใจ ดึงดูดสายตา ไม่ว่าจะด้วยความงุนงงหรืออะไรก็ตาม แต่สามารถกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของนักเรียน และเปลี่ยนความสนใจนั้นให้เกิดเป็นการกระทำได้สำเร็จ เพราะการที่นักเรียนจะรับสารและตีความสิ่งที่แบรนด์จะสื่อออกมาได้ จะต้องหยิบ ‘แผ่นสีแดง’ ออกมาและสอดส่องเพื่อค้นพบด้วยตนเอง
เป็นแคมเปญที่แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของแบรนด์ ว่าเข้าใจถึงช่วงเวลาอันแสนตึงเครียดที่พวกเขากำลังเผชิญ และสนับสนุนทุกความยากลำบากในการเรียนการศึกษาที่พวกเขากำลังพยายามฝ่าฝันไปให้ได้อยู่ ซึ่งแน่นอนว่าแคมเปญนี้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และมีภาพจำต่อแบรนด์ที่น่าประทับใจ
อีกทั้งจำนวนของหน้าจอดิจิทัลอีกด้วย ที่ตั้งอยู่มากมาย ทำให้คนเห็นซ้ำ ๆ ตลอดทาง มีความ Consistency เพราะหากทุกคนลองนึกภาพว่ามีจอดิจิทัลที่ตั้งไว้หลบ ๆ อยู่แค่ 1 จอ หรือเพียง 2-3 จอ แน่นอนว่าคงง่ายต่อการมองข้ามมากแน่ ๆ เพราะในสถานีก็เป็นสถานที่ที่คนคงรีบใช้ชีวิตกัน คนที่เดินผ่านไปผ่านมาสัญจรแถวนั้นก็คงไม่ได้สนใจอะไร ยิ่งเด็กนักเรียนก็อาจจะดึงความสนใจไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่เมื่อมีหน้าจออยู่ทั่วทั้งสถานี ประกอบกับสิ่งที่อยู่บนจอดูผิด ๆ เพี้ยน ๆ เหมือนทำงานผิดพลาด ก็ยิ่งมีความโดดเด่นมากพอที่จะดึงดูดความสนใจของผู้คนได้
ถือเป็นการทำการตลาดที่ดีในช่วงเวลาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากช่วงเทศกาลการสอบนั้นมีมาทุกปี อย่างบ้านเราก็คงเห็นแบรนด์ Peptein ที่ทำแคมเปญสนับสนุนนักเรียนช่วงสอบมาตลอด เป็นต้น แคมเปญนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ มี Engagement มากมาย ใส่ไอเดียความคิดสร้างสรรค์เข้าไปเปิดแง่มุมใหม่ ๆ ในการทำแคมเปญการตลาด ให้กับเด็กนักเรียนในช่วงเทศกาลสอบของทุกปีได้อย่างแตกต่างและแปลกใหม่กว่าเดิม สำหรับใครที่อ่านแล้วได้แรงบันดาลใจหรือไอเดียใหม่ ๆ ก็สามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองกันได้นะคะ
และทุกคนสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram TwitterYoutube และ Blockdit ได้เลยค่า
