Give Registry ชวนซื้อของขวัญให้ผู้หญิงที่เพิ่งหนีออกจากบ้าน เพราะถูกสามีทำร้าย

Give Registry ชวนซื้อของขวัญให้ผู้หญิงที่เพิ่งหนีออกจากบ้าน เพราะถูกสามีทำร้าย

Give Registry แคมเปญ CSR แนวใหม่จากห้างสรรพสินค้าชื่อดัง Myer ที่ประเทศออสเตรเลีย ที่ชวนให้ลูกค้ามาซื้อของขวัญให้กับผู้หญิงที่เพิ่งออกจากบ้านมาเริ่มชีวิตใหม่ จากการที่หนีจากสามีที่ทำร้ายร่างกายเธอมานาน

แคมเปญ CSR ที่จะเล่าให้ฟังในวันนี้ จะทำให้คุณลืมทุก CSR ที่เคยเข้าใจมาโดยสิ้นเชิง เพราะนี่คือแคมเปญที่ไม่ได้ทำมาเพื่อช่วยป่า หรือช่วยสัตว์ แต่ทำเพื่อช่วยลูกผู้หญิงด้วยกันที่ถูกสามีทำร้ายร่างกายมานาน

Myer ห้างสรรสินค้าที่มีหลายสาขาทั่วประเทศออสเตรเลียพบว่า บรรดาผู้หญิงที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักนั้น มีบางคนในสังคมที่กำลังประสบปัญหาการเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังจากแยกทางหรือหนีออกจากบ้านเพราะถูกสามีทำร้ายร่างกายและจิตใจเธอมานาน จากการที่ต้องทะลักทุเลในการใช้ชีวิต เพราะพวกเธอนั้นมักจะเป็นฝ่ายที่หนีออกมา และพวกเธอก็มักจะมาด้วยเงินทองที่ไม่ได้มีติดตัวมามาก หรือบางคนแทบจะเรียกว่าขอแค่ได้ออกมาจากนรกนั่นแม้จะออกมาตัวเปล่าก็ยอม

จากปัญหานี้เลยผุดเป็นไอเดียและโอกาสขึ้นมาว่า ถ้าห้างเราเป็นห้างที่มีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้หญิง ถ้าอย่างนั้นเราก็ควรจะเป็นห้างที่มีจุดยืนเพื่อทำให้ชีวิตผู้หญิงดีขึ้นด้วยไปเลยซิ

Give Registry เลยเกิดขึ้น แคมเปญนี้เป็นการเล่นคำพ้องเสียงกับคำว่า Gift Registry ที่คนออสเตรเลียคุ้นเคย จากการที่เราแจ้งรายการสินค้าที่ต้องการไว้กับห้าง เพื่อให้เวลาใกล้วันเกิดหรือวันสำคัญของชีวิตนั้น เวลาที่เพื่อนหรือคนรอบตัวจะมาหาซื้อของเป็นของขวัญให้เรา เค้าก็แค่ไปถามกับทางห้างว่า เพื่อนเราคนนี้เค้าอยากได้อะไร ทางห้างก็จะบอกแล้วให้เราไปตัดสินใจเอาว่าจะซื้อที่ถูกหรือแพงให้

จาก Gife Registry การแจ้งรายการของที่อยากได้ไว้ กลายเป็นการที่ทางห้างแจ้งรายการที่ผู้หญิงที่เพิ่งหนีออกจากบ้านมาเริ่มชีวิตใหม่คนเดียวหรือกับลูกนั้นเค้าต้องการอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นที่นอน หมอน ผ้าห่ม หรือแม้แต่จาน ชาม แก้วน้ำก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นรายการที่ทางห้างสอบถามมาจากผู้หญิงที่เคยประสบปัญหาเดียวกันมาก่อน ว่าครั้งที่พวกเธอทนไม่ไหวและหนีออกจากบ้านมาเริ่มต้นชีวิตใหม่คนเดียวหรือกับลูกนั้น พวกเธอในครั้งนั้นต้องการอะไรเพื่อจะให้มีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ลำบากมากเกินไป

โดยแคมเปญนี้จะชวนให้คนทั่วไปเข้ามาซื้อของเพื่อมอบให้กับเหล่าผู้หญิงที่ถูกทำร้ายร่างกายให้กล้าออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยทางห้าง Myer ก็ประกาศว่า ทุกชิ้นที่คุณซื้อ ทางห้างจะซื้อชิ้นเดียวกันนั้นช่วยบริจาคอีกชิ้น เอาง่ายๆว่าคุณบริจาคเท่าไหร่ ห้างก็บริจาคเท่ากัน จน 6 เดือนผ่านไปสินค้าพร้อมบริจาคมอบให้กับผู้หญิงที่โชคร้ายเหล่านั้นมากกว่า 20,000 ชิ้นทีเดียวครับ

Give Registry Myer
Give Registry Myer

คนที่อยากจะช่วยเหลือพวกเธอเหล่านั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆ ตั้งแต่เข้าไปดูรายการสินค้าที่ตัวเองอยากช่วยซื้อเพื่อมอบให้พวกเธอที่หน้าเว็บไซต์ หรือจะมุ่งตรงเข้าไปที่หน้าร้านของห้าง Myer เลยก็ได้

โดยสินค้าที่อยู่ในรายการทั้งหมดจะเป็นแบรนด์ของห้าง Myer เพราะทางห้างเองก็ต้องการที่จะสร้างแบรนด์ไปในตัวผ่านแคมเปญนี้ ที่ต้องการทำให้คนรู้สึกดีที่ได้ของดีๆจากทางห้าง

ทางห้าง Myer เองก็ตั้งเป้าว่าจะบริจาคเงินกับแคมเปญนี้ปีละ 1 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เป็นเวลา 3 ปีต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงที่ต้องการหนีออกจากความรุนแรงในบ้านเพื่อมาเริ่มชีวิตใหม่

แคมเปญ Give Registry นี้ได้ใจคนอย่างมาก เพราะได้ earn media กลับมามากกว่า 1.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียครับ

สุดท้ายนี้คุณจะเห็นว่านี่ไม่ใช่แค่แคมเปญ CSR ธรรมดา แต่เป็นแคมเปญที่เข้ากับเทรนด์ใหม่ที่ผมเพิ่งอัพเดทให้คุณไป ในเรื่องของ Brand Democracy และ Social Issue ที่แบรนด์ในยุคใหม่จะต้องไม่ดูดายกับปัญหาในสังคม โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายตรงๆ เหมือนที่ Myer ทำแคมเปญนี้ตั้งแต่ปี 2016 ก่อนเทรนด์ด้วยซ้ำ

คำถามสำคุญที่ผมอยากจะถามคุณคือ แบรนด์ที่คุณดู หรือธุรกิจคุณในวันนี้ พร้อมที่จะลงมือทำอะไรบางอย่างเพื่อสังคมแล้วหรือยังครับ เพราะถ้ายังก็เท่ากับว่าคุณเลือกที่จะถอยหลังเรื่องแบรนด์ไปเรื่อยๆแล้วตั้งแต่วันนี้

Give Registry Myer

Source : http://www.welovead.com/en/works/details/a22wfqqDj

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน