Brand Democracy แบรนด์ Patagonia ยื่นฟ้อง Trump เพราะหั่นป่าสงวนแห่งชาติ

Brand Democracy แบรนด์ Patagonia ยื่นฟ้อง Trump เพราะหั่นป่าสงวนแห่งชาติ

ในยุคที่แบรนด์กลายเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองอย่างเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า Brand Democracy ที่ผู้คนในสังคมทุกวันนี้รู้สึกว่าภาคธุรกิจไม่อาจเอาแต่ขายของโดยไม่ใยดีกับสิ่งที่กำลังเป็นประเด็นในสังคมได้อีกต่อไป เพราะถ้าแบรนด์ใดเมินเฉยก็จะถูกคนติดป้ายว่าเป็น Ignorant หรือพวกไม่ใยดีกับสังคมโดยเฉพาะในประเด็นที่พวกเขาสนใจ จนทำให้เกิดทัวร์ลงได้ง่ายๆ พาลทำให้แบรนด์ที่พยายามสร้างมานานนับสิบปีด้วยงบการตลาดนับไม่ถ้วนหายวับไปกับตา

วันนี้เลยจะพามาดูอีกหนึ่งเคสแคมเปญการตลาดที่ของแบรนด์ Patagonia ที่ไม่ต้องรอให้ใครมาบอกว่าพวกเขาต้องวางตัวอย่างไรกับประเด็นในสังคม แต่แบรนด์นี้เลือกที่จะเป็นผู้นำในการนำพาผู้คนที่มีจุดยืนร่วมกันในเรื่องนี้ มาร่วมกันแสดงพลังให้สังคมรับรู้ถึงปัญหาเมื่อครั้งหนึ่งประธานาธิบดีอย่าง Donald Trump ประกาศเปิดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติสองแห่งให้เอกชนหรือคนที่สนใจเข้ามาลงทุน ด้วยแคมเปญการตลาดที่ชื่อว่า The President Stole Your Land

The President Stole Your Land เปลี่ยนหน้าแรกของเว็บขายของเอามาประจาน Trump แทน

Brand Democracy แบรนด์กับการเมือง เมื่อ Trump ประกาศเปิดป่าสงวนแห่งชาติ Patagonia จึงยื่นฟ้องด้วยแคมเปญ The President Stole your land
Brand Democracy แบรนด์กับการเมือง เมื่อ Trump ประกาศเปิดป่าสงวนแห่งชาติ Patagonia จึงยื่นฟ้องด้วยแคมเปญ The President Stole your land

เมื่อประธานธิบดีสหรัฐอย่าง Donald Trump ประกาศผ่านสื่อต่างๆ ว่าเขาจะทำการหั่นพื้นที่ป่าสำคัญแห่งชาติสองแห่งออกไปให้นักลงทุนเข้ามาพัฒนาพื้นที่แทน ถ้าพูดภาษาบ้านๆ ก็คือเปิดป่าสงวนขายเอาเงินเข้ารัฐให้นักลงทุนเข้ามาตัดไม้ทำลายต้นน้ำด้วยการสร้างโน่นนี่นั่นมากมายนั่นเอง

Patagonia เลยยอมไม่ได้เพราะถ้าป่าไม้ธรรมชาติหายไปนั่นย่อมกระทบทั้งธุรกิจการขายเสื้อผ้าและสินค้าสำหรับการเดินป่าชมธรรมชาติ ไปจนถึงไปสั่นคลอนอุดมการณ์ความเชื่อในเรื่องของการที่เราต้องอนุรักษ์ธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด

Patagonia จึงเปลี่ยนหน้าแรกของเว็บไซต์ของตัวเอง จากเดิมที่เอาไว้สำหรับให้ข้อมูลสินค้าที่ตัวเองมี และเอาไว้ขายของออนไลน์ พวกเขาเปลี่ยนหน้าแรกของเว็บให้กลายเป็นการให้ข้อมูลกับกลุ่มลูกค้าและไปถึงกลุ่มคนที่ห่วงใยในประเด็นที่ Trump เปิดป่าสำคัญสองแห่งให้นักลงทุนนี้ได้มารับรู้ข่าวสารและแง่มุมต่างๆ มากขึ้น

ตั้งแต่พื้นที่ธรรมชาติสองแห่งนี้ที่ Trump กำลังจะแบ่งขายให้นักลงทุนนั้นสวยงามและสำคัญต่อธรรมชาติอย่างไร ไปจนถึงพื้นที่เหล่านั้นจะกระทบต่อชีวิตสัตว์ป่า ไปจนถึงชนเผ่าพื้นเมืองเดิมที่ยังอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นมากขนาดไหน

แถมทางผู้ก่อตั้งแบรนด์ Patagonia ยังไม่หยุดแค่การเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์หรือโปรโมตออนไลน์ แต่เขายังเลือกที่จะทำโฆษณาความยาวหนึ่งนาทีออกอากาศทางทีวีเพื่อให้คนทั่งประเทศหันมาตระหนักถึงความสำคัญเร่งด่วนของเรื่องนี้ แถมยังมีการทิ้งท้ายให้คนส่งข้อความเข้ามายืนยันว่าจะเข้าร่วมกับการรณรงค์ครั้งนี้ด้วย เรียกได้ว่าทุ่มทุนทำโฆษณายาวเป็นนาทีและซื้อแอร์ไทม์โดยไม่ได้มีการพูดถึงสินค้าใดๆ หรือแบรนด์ของตัวเองเลย เพราะเนื้อหาทั้งหมดคือ “ธรรมชาติของเราก็เหลือแค่นี้ แล้วทำไมประธานธิบดี Trump ถึงจะต้องเปิดขายให้นักลงทุนเข้ามาทำลายด้วยล่ะ!? ออกมาร่วมกับเราดีกว่า ส่งข้อความแสดงเจตจำนงออกมาแล้วเราจะติดต่อกลับไป!”

ถ้าอยากรู้ว่ารายละเอียดของโฆษณาชิ้นนี้เต็มๆ เป็นอย่างไร กดดูที่ลิงก์ด้านล่างนี้ก่อนอ่านต่อได้เลยครับ

เห็นมั้ยครับว่าโฆษณาชิ้นนี้แบรนด์ Patagonia ไม่ได้มีการพูดถึงสินค้าหรือบริการตัวเองทั้งทางตรงและทางอ้อม มีแต่การบอกให้คนสนใจและใส่ใจต่อปัญหานี้ และก็เชิญชวนให้คนที่เห็นด้วยมาเข้าร่วมกับตัวเอง เป็นการทำโฆษณาที่ผิดหลักการทำธุรกิจอย่างสิ้นเชิง แต่แน่นอนว่าโฆษณาชิ้นนี้ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์อย่างมหาศาล ว่า Patagonia เป็นแบรนด์ของคนที่รักและใส่ใจในธรรมชาติอย่างมาก มากจนการทำหนังโฆษณาใดก็ไม่สามารถมีพลังได้สักครึ่งของครึ่งแคมเปญโฆษณารณรงค์ให้คนมาต่อต้านการตัดสินใจของ Trump ในครั้งนี้เลย

แน่นอนว่าหลังจากแคมเปญ The President Stole Your Land เผยแพร่ได้ไม่นานก็กลายเป็นข่าวแบบ Free PR กลายเป็น Viral ไปทั่วประเทศ เพราะสำนักข่าวชื่อดังทั้งประเทศหยิบไปเขียนต่อเล่าถึงมากมายไม่รู้จบ เพราะนี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของอเมริกาและการตลาดทั่วโลกก็ว่าได้ ที่มีแบรนด์ใจกล้าออกมาประกาศชวนคนมาร่วมฟ้องผู้นำของตัวเองด้วยกัน

ทั้งหมดที่ Patagonia ทำไปก็ไม่ใช่เพราะตั้งใจจะสร้างกระแสหรือโหนกระแสแต่อย่างไร แต่ทำไปเพราะหัวใจของ Patagonia เป็นแบบนั้นมาแต่ day 1 ที่สร้างธุรกิจนี้ขึ้นมา

Patagonia ธุรกิจเสื้อผ้าและอุปกรณ์เพื่อการเดินป่า แต่เป็นแบรนด์ที่ Cracy ในเรื่องอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างเข้าเส้น

Brand Democracy แบรนด์กับการเมือง เมื่อ Trump ประกาศเปิดป่าสงวนแห่งชาติ Patagonia จึงยื่นฟ้องด้วยแคมเปญ The President Stole your land
Brand Democracy แบรนด์กับการเมือง เมื่อ Trump ประกาศเปิดป่าสงวนแห่งชาติ Patagonia จึงยื่นฟ้องด้วยแคมเปญ The President Stole your land

ปกติแล้วเราจะเห็นแค่แบรนด์ที่รักษ์ธรรมชาติอย่างมากก็ไปปลูกป่า เก็บขยะ หรืออาจจะไปสร้างฝายให้ชาวบ้าน แต่ทั้งหมดนั้นก็เป็นการกระทำเพื่อสร้างภาพ PR แค่ชั่วครั้งคราวหรือถือว่าพรีอนุบาลมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่ Patagonia ทำครับ

เช่น Patagonia ประกาศบริจาคยอดขายทั้ง 100% ที่ได้ในวัน Black Friday (อารมณ์คล้าย 9.9 10.10 หรือ 11.11 ในบ้านเรา แต่ของอเมริกาไม่ได้จัดทุกเดือนแบบเอเซีย) ซึ่งปกติแล้วจะมียอดขายจำนวนมหาศาลเพราะคนต่อคิวรอซื้อของที่จะลดราคาแบบปีละครั้งเท่านั้น แถมยังไม่เท่านั้นทาง Patagonia ยังแบ่งยอดขาย 1% ของตัวเองทุกปีไปบริจาคให้กับหน่วยงานหรือองค์กรที่คอยดูแลธรรมชาติให้สวยงามหรืออุดมสมบูรณ์อยู่เสมอ

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะ Patagonia ต้องการสร้างภาพ แต่เป็นเพราะ Patagonia รู้ว่าธุรกิจตัวเองจะอยู่ไม่ได้ถ้าธรรมชาติที่สวยงามสมบูรณ์ค่อยๆ ร่อยหลอไปจนไม่เหลืออะไรให้คนเดินสำรวจ

เป็นอย่างไรครับกับประเด็นเรื่องแบรนด์กับการเมืองหรือ Brand Democracy หรือจะเรียกว่า Brand for People ก็ว่าได้ เราจะเห็นว่าเหตการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเราก็ไม่ต่างกัน เมื่อผู้คนเริ่มเรียกร้องให้ภาคธุรกิจหรือแบรนด์ต้องทำอะไรบางอย่าง ที่สำคัญที่สุดคือต้องคนอยากรู้ว่าคุณจะอยู่ข้างเดียวกับพวกเขาไหม

เมื่อหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ทั่วโลกกำลังประสบปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือในสายตาของประชาชน ดังนั้นในมุมของประชาชนที่อยู่ในฐานะลูกค้าของแบรนด์ต่างๆ จึงคาดหวังว่าภาคธุรกิจที่เต็มไปด้วยทรัพยากรและความสามารถนั้นจะเข้ามาร่วมเคียงข้างแก้ปัญหากับพวกเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้

คุณคงเห็นแล้วกับประเด็นที่หลายแบรนด์โดนแบนในบ้านเรา และไม่ใช่แค่แบรนด์เท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงบรรดาคนดังต่างๆ ที่เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่แบรนด์ใช้ในการเข้าถึงกลุ่มคนผู้ติดตาม Infleuncer จำนวนไม่น้อยถูกแบรนด์เพราะเลือกคนละข้างกับ Consumer หรืออาจจะถูกแบนเพราะถูกมองว่าเป็นพวก Ignorant ไม่ยอมทำอะไรสักอย่างร่วมกับ Consumer นั่นเอง

การตลาดในวันนี้ไปไกลกว่าที่ตำราใดเคยสอนเรามา แน่นอนว่านักการตลาดในวันนี้ต้องพร้อมจะมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น และมนุษย์ที่ว่าก็คือร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งกับประเด็นปัญหาต่างๆ ในสังคมที่กลุ่มลูกค้าสำคัญของคุณกำลังเผชิญอยู่

เมื่อผู้คนรู้ว่าเสียงโหวตของตัวเองอาจไม่มีค่ามากเท่าไหร่ในเกมการเมือง แต่ในเกมการตลาดเงินที่พวกเขาเลือกใช้แทนการโหวตนั้นสำคัญต่อแบรนด์ต่างๆ และภาคธุรกิจมาก อย่าได้ประมาทพลังของ People ที่พร้อมจะเทใจและเทเงินมาเป็น Consumer ของคุณแต่อย่างไรครับ

อ่านบทความการตลาดกับการเมืองหรือ Brand Democracy ในการตลาดวันละตอนต่อ > https://www.everydaymarketing.co/?s=democracy

Brand Democracy แบรนด์กับการเมือง เมื่อ Trump ประกาศเปิดป่าสงวนแห่งชาติ Patagonia จึงยื่นฟ้องด้วยแคมเปญ The President Stole your land

Source
https://www.retaildive.com/news/patagonias-first-tv-ad-gets-political-as-national-monuments-decision-looms/503142/
https://edition.cnn.com/2017/12/04/politics/utah-monuments-trump-weir/index.html
https://www.retaildive.com/news/patagonia-the-president-stole-your-land/512279/
https://www.washingtonpost.com/news/morning-mix/wp/2017/12/05/the-president-stole-your-land-patagonia-rei-blast-trump-on-national-monument-rollbacks/
https://www.nytimes.com/2018/05/05/business/patagonia-trump-bears-ears.html

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *