Viral Content Strategy ถอดไอเดีย 3 แบรนด์ดังจากงาน DSME2023

Viral Content Strategy ถอดไอเดีย 3 แบรนด์ดังจากงาน DSME2023

สวัสดีค่าผู้อ่านทุกท่าน หลังจากที่ได้มีโอกาสไปงาน Digital SME Conference Thailand 2023 หรือ DSME 2023 ในปีนี้ บอกเลยว่าได้รับความรู้แบบแน่น ๆ จุก ๆ จัดหนักจัดเต็มมากค่ะ แต่เรื่องราวที่จะเลือกนำมาสรุปและแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันในวันนี้ คือหัวข้อ ‘How to Make Great Content Standout’ โดยคุณตุลย์ ชนินทร์ นาคะรัตนากร Burger King, คุณอาร์ม กานต์ชนิต สุรินทร์สภานนท์ Goodsunday Coffee Bar และคุณคิง อลังการ โสลิกี จากร้านเนื้อแท้ ที่ได้มาเล่าเรื่องราว แชร์มุมมองและเผยเทคนิคการใช้ Viral Content Strategy กับการทำธุรกิจ

แชร์เทคนิค Viral Content Strategy จากปาก 3 แบรนด์ดัง ทำคอนเทนต์ยังไงให้ไวรัล

เอาล่ะค่ะไม่รอช้า เรามาดูเคล็ด(ไม่)ลับจากปากแบรนด์ดังทั้ง 3 แบรนด์ กันเลยดีกว่าว่าเขามีเบื้องลึกเบื้องหลัง และแนวคิดที่กว่าจะออกมาเป็นคอนเทนต์นึงให้ทุกคนได้ชมกัน มีที่มาที่ไปและมุมมองในการทำคอนเทนต์อย่างไรกันบ้าง ให้ออกมาดังทะลุพลุแตกทั่วโซเชียลขนาดนี้ ในแบบฉบับ Burger King, Goodsunday Coffee และเนื้อแท้ ค่ะ

Burger King คิดคอนเทนต์จาก Insight แล้วจึงเล่นตามกระแส

ทางคุณตุลย์ได้เปิดเผยว่า Content ของ Burger King ที่ทุกคนได้เห็นกัน เป็นการทำงานโดยวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า หรือลงตามที่ Plan เอาไว้นั่นเอง แต่จะประกอบกับการเล่นกับกระแส Real Time ด้วย

อีกทั้งยังมีการศึกษา Insight ของผู้บริโภค แล้วจึงนำข้อมูลมาทำคอนเทนต์ เพื่อให้สามารถทำคอนเทนต์ได้ตรงจุดตรงใจกับที่ผู้บริโภคอยากเห็นนั่นเอง อย่างแคมเปญ Real Cheese ที่วันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักหรือไม่เคยเห็น อีกทั้งยังดังไปถึงช่องข่าวต่างประเทศมากมาย ซึ่งแรกเริ่มเกิดมากจากการที่ Burger King เชื่อว่าเบอร์เกอร์ที่ดีที่สุดคือเบอร์เกอร์ที่ลูกค้าเลือกเอง สมกับสโลแกน Have it your way ที่ลูกค้าสามารถเลือกครีเอทเบอร์เกอร์ของตัวเองได้เลยว่าอยากกินอะไร มากน้อยแค่ไหน

ซึ่งแน่นอนว่าคนไทย ชอบทานชีสกันมากกกกก (ผู้เขียนเองก็เป็น Cheese Lover ค่า) ทาง Burger King ก็ได้รู้ Insight ความชอบของคนไทย ซึ่งชีสมาแรงแซงโค้งตามที่คิด เรียกได้ว่าติด Top 5 ของที่คนไทยชอบ จึงนำมาเน้นย้ำในคอนเทนต์ Real Cheese นั่นเอง คนจึงอินกันมาก

จะเห็นได้ว่า Real Cheese คือคอนเทนต์แบบที่ Burger King มีการ Plan เอาไว้อยู่แล้วว่าจะทำ แบบที่กล่าวไปข้างบน แต่ในเมื่อกระแสตอบรับปังเกินคาด Burger King ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจอยู่เฉย ๆ แต่คอยตามดูคอมเมนต์และรับฟังความคิดเห็นจากผู้บริโภคอยู่เสมอ และมีคนอยากเห็นแคมเปญเนื้อ 100 ชั้น จึงใช้โอกาสนี้เล่นกับกระแส Real Time ปล่อยแคมเปญ Real Meat ต่อ ผลลัพธ์คือปังยิ่งกว่า Real Cheese เพราะเป็นสิ่งที่คนอยากเห็นนั่นเอง

หาก Burger King ไม่ได้ใส่ใจในการค้นหา Insight เก็บข้อมูลมาทำคอนเทนต์ หรือไม่ฟังเสียงความต้องการของผู้บริโภคแล้วนำมาพัฒนาต่อ แน่นอนว่าคงไม่ดังทะลุพลุแตกเหมือนอย่างทุกวันนี้

และคอนเทนต์ที่ไวรัลแบบนี้ แน่นอนว่าถึงจะดูเป็นแคมเปญตลกขำ ๆ แต่มียอดขายที่เกิดขึ้นจริงนะคะ อีกทั้งบางคนก็สั่งเมนูอย่างอื่นก่อนแล้วค่อยสั่งเมนูที่เป็นกระแสมาเล่นหรือถ่ายรูป และทำให้ได้ลูกค้าใหม่จากการเกิดกระแส เพราะคนมักอยากมีส่วนร่วมและไม่อยากตกเทรนด์

สุดท้าย Viral Content Strategy ของ Burger King คุณตุลย์ได้ฝากทิ้งท้ายไว้ว่าจง ‘Raise the bar’ ขยับแบรนด์ให้มากกว่าที่เคยเป็น ขยายฐานลูกค้า เจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ทำให้เกิดคอมมูนิตี้ และสร้างตัวตนของแบรนด์ให้ชัดเจนจนกลายเป็น Top of mind ในใจของลูกค้าให้ได้

Goodsunday Coffee Bar สร้าง Personal Branding ที่ชัดเจน และหยิบไอเดียจากสิ่งรอบตัว

Goodsunday Coffee Bar เป็นตัวอย่างที่ดีของแบรนด์ร้านกาแฟที่ทำคอนเทนต์จากการใช้ไอเดียที่อยู่รอบ ๆ ตัวค่ะ

สำหรับใครที่ยังไม่เคยเห็นคลิปการทานลาเต้ที่ถูกต้อง ขอนำมาให้ดูจนขำปอดโยกกันตรงนี้เลยค่ะ

อย่างคลิปการทานลาเต้ที่ถูกต้อง ที่แมสมากในแพลตฟอร์ม TikTok นี้ ไอเดียเกิดมาจากเพียงแค่คุณอาร์มนั่งคุยกันกับเพื่อนอยู่ที่ร้าน แล้วลืมให้หลอดเพื่อนที่สั่งเมนูกาแฟลาเต้เท่านั้นเอง จึงจับเรื่องราวไปทำเป็นคอนเทนต์สร้างสรรค์การทานลาเต้ที่ถูกต้องแบบไม่มีหลอด

https://www.tiktok.com/@goodsundaycoffeebar/video/7275176530068770054?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7281293707721410055

หรือคอนเทนต์ที่ทำเป็นแนวแถลงข่าว ล้อเลียนสังคม หยิบยกเหตุการณ์ที่คนเห็นกันได้บ่อย ๆ จากช่องข่าว เอามาเป็นไอเดียในการทำคอนเทนต์ เพราะสิ่งที่คนเคยเห็นกันมาบ่อย ๆ คนก็จะสามารถเข้าถึงได้ง่าย รู้สึกเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของตัวเอง และรู้สึกสนุกที่จะมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์เพราะเข้าใจได้ง่ายอยู่แล้วนั่นเอง

จะเห็นได้ว่าแม้จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ รอบตัว หรือเป็นจุดเริ่มต้นไอเดียที่หลาย ๆ คนอาจมองข้ามหรือหลงลืมไป ไม่ได้นึกถึงว่าจะสามารถนำมาทำคอนเทนต์ได้ด้วยหรอ แต่ Goodsunday ให้ความสำคัญกับการนำสิ่งที่อยู่รอบตัวและเรื่องราวที่คนรู้สึก Related ด้วยได้ง่าย นำมาจุดประกาย กลายเป็น Viral Content Strategy ที่ดังทะลุพลุแตกไปทั่วทั้งโซเชียลได้

คุณอาร์มยังเสริมว่าพอคลิปไวรัลแล้ว ยอดขายก็เติบโตดีขึ้น แต่ที่สำคัญคือลูกค้าไม่ได้เข้ามาเป็นแค่ลูกค้า แต่มาเป็นเพื่อนกับเรา กลายเป็น Community ใหม่ 

บางคนไม่ได้มาซื้อของแต่มาถ่ายรูป มารู้จักกัน มีทั้งมาจากต่างประเทศด้วย แม้จะมาวันอาทิตย์แล้วร้านปิด ก็ถึงขั้นจองโรงแรมนอนรอเพื่อวันจันทร์จะมาใหม่ เพราะคนอยากมาถ่ายคลิปทำคอนเทนต์ตามกระแสบ้าง

คุณอาร์มได้ทิ้งท้ายไว้ว่า ในมุมธุรกิจ SME ตัวเล็ก ๆ อย่าง Goodsunday ถ้าสินค้าเราไม่ได้แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด Red Ocean มาก จากปกติมักแข่งกันเรื่องราคา แต่บางทีก็ต้องยอมรับว่าไม่สามารถสู้กับเจ้าใหญ่ได้ 

ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการสร้าง ‘Personal Branding’ หาความต่างของแบรนด์ตัวเองให้เจอ ขุดให้เจอว่าเรามีดีอะไร ถนัดอะไร และเมื่อค้นหาเจอแล้ว ให้ลงมือทำเลย อย่ามีข้ออ้าง ถ้าไม่เริ่มทำมันคือ 0 แต่ถ้าเริ่มอย่างน้อย 1% นั่นก็คือโอกาสแล้ว

เนื้อแท้ เน้นความบันเทิงตามกระแส ทำให้แบรนด์มีความเป็นมนุษย์ สร้างคาแรคเตอร์ให้คนจดจำ

คุณคิงแชร์ว่า Viral Content Strategy ของเนื้อแท้ คือการให้ความสำคัญกับการทำให้แบรนด์มีความเปนมนุษย์มากขึ้น และใช้โอกาสจากการดึงกระแสต่าง ๆ แบบ Real Time มาใช้ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์

จุดเริ่มต้นการทำการตลาดของเนื้อแท้ในช่วงแรก เริ่มจากการทำ Hard Sell มาก่อน เช่น คอนเทนต์สรรพคุณกะเพรา เป็นต้น ผลคือคนก็กดไลค์บ้างแต่ก็ดูเฉย ๆ  ทำไปสักพักเกิดสถานการณ์ Covid-19 จึงเริ่มทำคอนเทนต์ออกแนวตามกระแส ไอเดียตลก ๆ แล้วเห็นว่าคนเริ่มชอบอะไรที่ตามเทรนด์ตามกระแสแบบ Real Time คือคนไทยชอบความบันเทิง ไม่ได้เน้นขายสาระมากนัก

และการทำคอนเทนต์จากการคาดการณ์ หรือเตรียมเหตุการณ์ต่าง ๆ เอาไว้ล่วงหน้า เช่น ถ่ายภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ เก็บไว้ แล้วเมื่อเจอ Timing ที่ใช่ หรือเจอเหตุการณ์ที่กำลังเป็นกระแส ก็นำมาแมชเชื่อมโยงกับภาพที่เคยถ่ายไว้แบบ Real Time หรือคือการเตรียมไว้ใช้ให้ถูกจังหวะนั่นเอง

พูดถึงในเรื่องของ Timing ในการที่แบรนด์จะลงไปเล่นกับคอนเทนต์ คุณคิงได้แชร์ว่าวงจรของเทรนด์ Timing ช่วงที่กระแสมาแรก ๆ อย่าพี่งรีบลงไปเล่นในทันที เพราะคนยังไม่ค่อยรู้จักหรือเข้าใจมันได้ดีพอ แต่สักพักจะมีระยะเวลาของการที่คนตกใจ แล้วถึงค่อยเริ่มแมส ตอนนั้นพอแบรนด์ลงไปเล่นคอนเทนต์ คนก็จะเข้าใจและรีแอคร่วมกับเราได้เป็นอย่างดี

อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญของเบื้องหลังการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่สนุกสนานในแบบฉบับของเนื้อแท้ คือ ‘DNA ของเนื้อแท้’ คือ การที่หัวหน้าให้ทำงานแบบมีอิสระ ทำงานอย่างมีความสุข ขอแค่อยู่ภายใต้กรอบตัวตนของแบรนด์ แล้วการที่หัวหน้าให้อิสระในการทำงานเช่นนี้ ถึงทำให้การทำงานนั้นสนุกและไม่น่าเบื่อ

คุณคิงเสริมว่าในมุมของร้านเนื้อแท้ เมื่อคอนเทนต์ไวรัล คนเริ่มรู้จักมากขึ้น ทำให้มี Community ในเพจ Facebook มากขึ้น คอนเทนต์ก็เป็นยอด Organic มาเรื่อย ๆ ไม่ต้องมีการ Boost Post ใด ๆ เลย

และแชร์ว่าจากในมุมของคนที่ทำ Digital Marketing อย่างคุณคิง แนะนำให้สร้างแบรนด์ให้คนจดจำ คือต้องหาคาแรคเตอร์ของแบรนด์ตัวเองให้เจอ และนำมาสร้างคอนเทนต์ให้แข็งแรง จะทำให้คนจำเราได้และช่วยในเรื่องของการส่งเสริมการขายได้เยอะมาก ๆ 

สรุปบทเรียนความสำเร็จ Viral Content Strategy ในแบบฉบับ 3 แบรนด์ดัง

เป็นยังไงกันบ้างคะกับบทความนี้ที่พาทุกคนมาถอดรหัสความสำเร็จการ ทำคอนเทนต์ให้ไวรัล จาก 3 แบรนด์ดัง อย่าง Burger King, Goodsunday Coffee Bar และ เนื้อแท้ ในการทำคอนเทนต์อย่างไรให้ไวรัล และดังทะลุพลุแตก ส่วนตัวผู้เขียนเองที่ได้เข้าไปร่วมฟังในงาน Digital SME Conference Thailand 2023 บอกเลยว่าได้รับสาระความรู้ ความสนุกบันเทิง และแรงบันดาลใจกลับมามากมายจริง ๆ ชอบทริคของทั้ง 3 แบรนด์เลยค่ะ สามารถนำไปเป็นไอเดียในการเริ่มต้นและต่อยอดทำคอนเทนต์ได้จริง

ต้องขอขอบคุณ คุณตุลย์ ชนินทร์ นาคะรัตนากร Burger King, คุณอาร์ม กานต์ชนิต สุรินทร์สภานนท์ Goodsunday Coffee Bar และคุณคิง อลังการ โสลิกี จากร้านเนื้อแท้ อีกครั้งที่ได้มาแชร์เทคนิคดี ๆ ในการทำคอนเทนต์ยังไงให้ปังได้ขนาดนี้

และหวังว่าทุกคนจะได้รับสาระความรู้ดี ๆ ที่นำมาฝากกันในวันนี้ สำหรับใครที่ทำธุรกิจอยู่ สามารถนำไอเดียดี ๆ จาก 3 แบรนด์ดังนี้ไปปรับใช้กันได้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นการทำคอนเทนต์จากการเก็บ Insight ฟังเสียงของลูกค้า หัดเล่นกับกระแส Real Time การหยิบไอเดียจากสิ่งรอบตัว หรือสร้าง Personal Branding และคาแรคเตอร์ของตัวเองให้ชัดเจน ลองนำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับธุรกิจของตัวเองกันได้เลยค่ะ

และทุกคนสามารถอ่านแคมเปญ Burger King ต่อได้ที่นี่ และติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram TwitterYoutube และ Blockdit ได้เลยค่า

Fern Panassaya

เฟิร์น Junior Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *