แคมเปญการตลาด คนโสด Gen Z หนีรักมุ่งสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น
จากบทความ Solo Economy เศรษฐกิจคนโสด การตลาดคนโสด คนไม่มีลูก และกลุ่ม Pet Lover 2024 เราจะเห็นได้เลยว่าตลาดคนโสดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกปี คนยุคใหม่เลือกที่จะอยู่คนเดียวมากกว่ามีคู่และเป็นกลุ่มที่มี Potential สูงในอนาคต ดังนั้น ผู้เขียนจึงนำ แคมเปญการตลาด คนโสด เจาะกลุ่มGen Z โดยเฉพาะ ที่มุมมองน่าสนใจมาแชร์กันในบทความนี้เพื่อเป็นไอเดียและแนวทางในการทำการตลาดให้กับผู้อ่านทุกท่านค่ะ
ที่มาที่ไปของแคมเปญ ⏤ 14 กุมภาวันแห่งความรัก แต่ช่วยไปรักกันไกล ๆ จะได้ไหม!?
Prompt: Cute character 3D image of a young man sits with a bored expression on his face among couples
แคมเปญนี้มีชื่อว่า Escape Valentine’s Day ชื่อก็บ่งบอกตรงตัวเลยค่ะว่าอยากจะหลบหนีจากวันวาเลนไทน์ และอย่างที่เราก็รู้กันดีว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีคือวันวาเลนไทน์ เป็นวันแห่งความรัก บรรยากาศทั่วโลกอบอวนไปด้วยคลื่นอารมณ์เสน่หาของคู่รักบ่าวสาวทุกเพศทุกวัย
จึงไม่แปลกที่คนโสดจะทนไม่ไหว ได้แต่กำหมัดพร้อมกู่ร้องในใจว่าอยากจะมีบ้าง แต่ทุกวันนี้ได้แต่นอนกอดหมอนข้างอย่างเดียวดาย ช่วงเวลาปกติก็ทนแทบไม่ไหวยิ่งกับวันแห่งความรัก ไม่ต้องสืบก็รู้ได้เลยว่าแทบเจียนตายกับความเหงา ไม่อยากจะเห็นภาพบาดตาของคู่รัก
Escape Valentine’s Day หนีรักสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น
Cadbury 5 Star (แบรนด์ขนมหวานช็อกโกแลต) เล็งเห็นถึงความเจ็บปวดและโอกาสทางการตลาดของคนกลุ่มนี้ จึงออกเป็นแคมเปญ Escape Valentine’s Day มาช่วยเยียวยา เอาใจคนโสดโดยเฉพาะ
แคมเปญนี้เป็นการปรับใช้ AI และ AR เข้าด้วยกัน โดยจะนำข้อมูลยอดขายขนมของแบรนด์มาทำการวิเคราะห์และแปลผลด้วย AI ว่าบริเวณไหนมียอดขายเท่าไหร่บ้าง และต่อยอดการเข้าถึงให้ง่ายขึ้นด้วยการสร้าง Microsite ของแคมเปญนี้ให้คนโสดได้เข้าไปดูว่าตรงไหน พื้นที่ไหนที่มีคู่รักอยู่บ้าง
ยิ่งยอดขายเยอะบริเวณนั้นจะเป็นสีแดงเข้มมากเท่านั้น (อารมณ์เหมือนเส้นทางใน Google Map ที่บ่งบอกว่าช่วงไหนรถติดมากติดน้อย ติดเยอะจะเป็นสีแดงเข้ม เป็นต้น) และเพิ่มความสนุกด้วยการผนวก AR เข้ามา โดยผู้ใช้สามารถยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายได้ว่าบริเวณนั้นมีคู่รักอยู่มากน้อยแค่ไหน ควรเลี่ยงหรือไม่ควรเลี่ยง และผู้คนยังสามารถรายงานสถานที่ที่สงบเหมาะสำหรับการหลบหนีคู่รักบนเว็บแอปได้อีกด้วย
ตามข้อมูลของเอเจนซี่ แคมเปญ Escape Valentine’s Day สร้างการกล่าวถึงเชิงบวกบนโซเชียลมีเดีย 95% และมีผู้เยี่ยมชม Microsite รวม 2.2 ล้านคนใน 14 วัน แคมเปญนี้มีการแสดงผล (reach) 639 ล้านครั้งและการดู 139 ล้านครั้ง บน Google มีการแสดงผล (reach) 277 ล้านครั้ง และการดู 102 ล้านครั้ง
สรุป แคมเปญการตลาด คนโสด Gen Z หนีรักมุ่งสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแคมเปญสนุก ๆ ที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่าง AI และ AR เข้ามาปรับใช้ได้อย่างลงตัว แถมยังเป็นการเก็บ Data จากลูกค้าได้อย่างดี เพราะกลุ่มเป้าหมายเต็มใจที่จะให้ข้อมูลกับแบรนด์ผ่านการลงทะเบียนในเว็บไซต์
ถึงแม้ว่าความเป็นจริงพฤติกรรมคนโสดอาจจะไม่ได้ขยาดกับคู่รัก มองเห็นคู่รักแล้วจะสิ้นลมหายใจไปในทันทีทันใดแต่การกระทำของแบรนด์ในครั้งนี้ก็สามารถสร้างพื้นที่ในจิตใจของผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้ไม่มากก็น้อย เป็นการแสดงถึงความเห็นอกเห็นใจว่าแบรนด์เข้าใจคุณ
ในอนาคตผู้เขียนมองว่าไอเดียนี้สามารถนำไปต่อยอดได้หลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Brand Awareness, Sales, PR, CRM เป็นต้น เพราะเราได้ทั้งพื้นที่สื่อ คนเห็นคนจำ ได้ทั้งยอดขายและข้อมูลของลูกค้าที่ลงทะเบียนที่จะไปต่อยอดทางการตลาดได้อีกมากมาย เช่น ส่งโปรโมชั่นคนโสดไปให้กับผู้ที่ลงทะเบียน แถมที่เราจะต้องไปนั่งงมว่าใครบ้างที่โสด สู้ใช้ประโยชน์จากดาต้าส่งไปให้เจ้าตัวแบบถูกคนเลยก็เป็นแต้มต่อให้กับธุรกิจได้แล้วนั่นเอง
หวังว่าตัวอย่างเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และสร้างไอเดียใหม่ ๆ ต่อผู้อ่านทุกคนนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ
สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ
