โปรโมชั่นส่งฟรี จาก Lazada เพิ่มยอดขาย ร้านค้ากด Like ลูกค้ากด Love
เมื่อพูดถึง โปรโมชั่นส่งฟรี ทุกท่านคงจะสนใจกันแน่นอน โดยเฉพาะสาวกการซื้อของออนไลน์ เพราะการซื้อของออนไลน์ทุกวันนี้ นอกจากจะต้องคำนวณราคาสินค้า ข้อเสนอจากร้านค้าแล้ว โปรโมชั่นส่งฟรี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คนตัดสินใจซื้อสินค้าเลยค่ะ
ไม่ต้องมองไปไหนไกล ผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งคนที่ช้อปออนไลน์ เวลาจะสั่งของที ต้องเข้าไปเก็บคูปองส่งฟรี แล้วไปไล่หาร้านค้าที่สามารถใช้ได้ค่ะ แล้วทุกท่านเป็นเหมือนกันมั้ยคะ
อย่างที่เราทราบกันว่าความสะดวกในการซื้อของออนไลน์ รวมทั้งการเติบโตของ E-Commerce ที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีการแข่งขันที่มากขึ้น แพลตฟอร์มก็ต้องสร้างความได้เปรียบ ด้วยการอำนวยความสะดวกให้กับการซื้อสินค้าออนไลน์ของลูกค้า สิ่งนี้เองทำให้พฤติกรรมของการซื้อของออนไลน์มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นทุกปีค่ะ
โดยข้อมูลจากบทความ Insight ข้อมูลพฤติกรรมซื้อของออนไลน์ จาก The Future Shopper 2023 ได้ระบุว่า พฤติกรรมของการซื้อของออนไลน์ของคนไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 59% ในปี 2023 และอีก 10 ปี ข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 65% ค่ะ
ตัวเลขนี้แสดงให้เราเห็นโอกาสทางธุรกิจที่มีอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ Marketplace ต่าง ๆ อย่าง Lazada ก็เป็นหนึ่งใน Marketplace ที่คนไทยรู้จักกันดี โดยข้อมูลจาก Transforming Southeast Asia – From Discovery to Delivery ที่ทาง Lazada จัดทำขึ้นโดยสำรวจจากผู้ใช้ E-Commerce ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 38,138 คน
พบว่าจำนวนผู้ใช้ E-Commerce ในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะเพิ่มเป็น 43.5 ล้านคนภายในปี พ.ศ. 2568 ค่ะ และ จำนวนผู้ขายดำเนินธุรกิจอยู่ในไทย เติบโตขึ้น 41% บน Lazada ในช่วง 7 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2565 ค่ะ
เห็นแบบนี้แล้ว ธุรกิจไหนที่ยังไม่ได้ทำการตลาดออนไลน์ หรือ ทำการตลาดบน Lazada ต้องรีบแล้วนะคะ อย่าปล่อยให้โอกาสดี ๆ หลุดมือไปค่ะ และ สำหรับผู้ขายทั้งมือใหม่ มือเก่า หากกังวลว่าจะไม่สามารถสู้สงครามออนไลน์นี้ได้ ผู้เขียนมี โปรโมชั่นส่งฟรี จาก Lazada มาแนะนำ ช่วยเพิ่มยอดขาย มัดใจลูกค้า รับรองว่าร้านค้ากด Like ลูกค้ากด Love แน่นอนค่ะ
โปรโมชั่นส่งฟรี คือ อะไร
โปรโมชั่นส่งฟรี เป็นหนึ่งในโปรแกรมของ Lazada ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้านค้า มีข้อดีคือ
- ช่วยเพิ่มการมองเห็น เพราะ เมื่อเราทำโปรโมชั่นส่งฟรี จะได้รับสัญลักษณ์ส่งฟรี ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ามองเห็นมากกว่าร้านที่ไม่ได้ทำ
- เพิ่มอัตราการสั่งซื้อ ลูกค้าอยากซื้อสินค้ามากขึ้น เพราะได้รับส่วนลดค่าจัดส่ง ทำให้รู้สึกคุ้มค่า
- เพิ่มขนาดตะกร้า เราสามารถตั้งเงื่อนไขให้ซื้อ 2 ชิ้นขึ้นไป เพื่อรับการจัดส่งฟรีได้ ทำให้ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้า 2 ชิ้นขึ้นไป หรือ ซื้อในราคาที่สูงขึ้น เช่น ซื้อครบ 300 บาท เพื่อรับส่วนลดค่าส่ง แล้วสินค้ามี 2 ราคา คือ 200 บาท และ 300 บาทก็มีแนวโน้มที่ลูกค้าจะซื้อ 300 เพื่อรับโปรโมชั่นส่งฟรีค่ะ
ซึ่งหลักการทำงานของโปรโมชั่นส่งฟรีก็ง่าย ๆ คือ ลูกค้าไม่ต้องจ่ายค่าส่งเมื่อซื้อถึงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ค่ะ อาจเป็นจำนวนชิ้น เช่น ซื้อครบ 2 ชิ้นส่งฟรี หรือเป็นราคาขั้นต่ำ เช่น ซื้อครบ 60 บาทส่งฟรี เป็นต้นค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
- โปรโมชั่นส่งฟรี ของร้านค้าเอง โดยเรียกว่า โปรโมชั่นฟรีค่าจัดส่ง
- โปรโมชั่นส่งฟรี จากลาซาด้า เรียกว่า โปรแกรมส่งฟรีพิเศษกับลาซาด้า
โดยทั้งสองแบบจะมีความเหมือนที่แตกต่าง และ ข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันไปค่ะ ผู้เขียนขออธิบายทีละตัว แล้วจะนำมาเปรียบเทียบให้เห็นถึงข้อดี ข้อเสีย ความแตกต่างของแต่ละแบบค่ะ
โปรโมชั่นส่งฟรี ของร้านค้าเอง
หรือที่เรียกกันว่า โปรโมชั่นฟรีค่าจัดส่ง สำหรับโปรโมชั่นนี้ร้านค้าจะต้องออกค่าจัดส่งให้ลูกค้าเองค่ะ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ค่ะว่าจะออกให้ลูกค้าทั้งหมด หรือ แค่บางส่วน รวมไปถึงระยะเวลาที่เราจะทำโปรโมชั่นนี้ เงื่อนไขและงบประมาณต่าง ๆ ค่ะ
พอเราเข้าร่วมโปรโมชั่นนี้แล้วจะแสดงผลอยู่ 3 หน้าค่ะ คือ หน้าโฮมเพจ หน้าการค้นหา และหน้ารายละเอียดสินค้าค่ะ
การตั้งค่าโปรโมชั่นส่งฟรีจากร้านค้า
ส่วนวิธีเข้าร่วมก็ง่ายมากค่ะ ถ้าเราเป็น Seller อยู่แล้วให้ Log in เข้าไปที่ Lazada Seller Center โดยจะขออธิบายในการสร้างผ่านคอมพิวเตอร์ก่อนนะคะ พอเข้ามาแล้วสังเกตทางด้านซ้ายมือค่ะ
- มองหาคำว่า ศูนย์การทำการตลาด จากนั้นเลือก โปรโมชั่น
- มองหาคำว่า ฟรีค่าจัดส่ง แล้วกด สร้างโปรโมชั่น ได้เลยค่ะ
- สำหรับคนที่ต้องการสร้างโปรโมชั่นใหม่ คลิก สร้างตอนนี้
- สำหรับคนที่จะค้นหาโปรโมชั่นเดิม หรือ เคยทำมาแล้ว สามารถหาได้จากตัวกรองโดยใช้ ชื่อโปรโมชั่นที่เราเคยตั้ง หรือ ใช้โปรโมชั่น ID ค่ะ
อย่างที่บอกไปแล้ว เราสามารถกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ได้ตามที่ต้องการ โดยมีวิธีตั้งค่าดังนี้ค่ะ
- ชื่อโปรโมชั่น กรอกชื่อโปรโมชั่นที่เราต้องการ อาจเน้นให้เข้าใจง่ายอาจใช้เป็นระยะเวลา หรือ งบประมาณที่เราตั้งก็ได้ค่ะ เพื่อความสะดวกในการจำ
เช่น ส่งฟรี 01/03-31/03 3000 หมายถึง เป็นโปรส่งฟรีที่ใช้ในช่วง วันที่ 1 มีนาคม จนถึง 31 มีนาคม มีงบประมาณ 3000 บาทค่ะ แนะนำให้ตั้งชื่อแบบที่เราจำได้นะคะ เวลาจะย้อนมาดูจะได้หาง่ายค่ะ - ระยะเวลา จะมี 2 แบบคือ ระยะยาว แบบนี้จะไม่มีระยะเวลาสิ้นสุดจะปล่อยไปเรื่อย ๆ และ กำหนดเฉพาะช่วงเวลา แบบนี้เราสามารถกำหนดเวลาได้เอง ซึ่งเราสามารถเลือกใช้ตามวัตถุประสงค์ของเรา
แบบระยะยาว เราสามารถทำสำหรับเป็นโปรโมชั่นประจำร้าน หรือ ทำไว้สำหรับเปิดใช้ในช่วงที่เราต้องการ ดันการมองเห็นเป็นพิเศษ โดยอาจเลือกใช้กับสินค้าทุกตัวของร้าน แต่เราปิดการใช้งานไว้ แล้วเปิดใช้งานในช่วงที่เราต้องการค่ะ - งบประมาณ เราสามารถตั้งงบประมาณได้เอง เหมาะสำหรับร้านค้าที่มีการคำนวณต้นทุนสินค้า ต้นทุนโปรโมชั่นไว้แล้ว ตรงนี้ก็จะทำให้เราสามารถคุมต้นทุนได้ง่ายขึ้นค่ะ หรือ หากร้านค้าไม่ซีเรียสสามารถ เลือกเป็นไม่จำกัดงบประมาณก็ได้ค่ะ
- ประเภทโปรโมชั่น การตั้งค่าด้วยตัวเอง ในส่วนตรงนี้หากไม่มีขึ้นก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะเราเลือกการตั้งค่าด้วยตนเองอยู่แล้ว ส่วนที่มีขึ้นให้เลือกอาจเพราะเข้าร่วมกับโปรแกรมพิเศษเลยมีขึ้นค่ะ
- ประเภทส่วนลด แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ รับผิดชอบค่าจัดส่งที่ลูกค้าจ่ายทั้งหมด และ รับผิดชอบบางส่วน โดยเราสามารถตั้งค่าเองได้ว่าจะออกค่าจัดส่งให้ลูกค้าเท่าไหร่ ทาง Lazada แนะนำให้ระบุมากกว่า 30 บาทขึ้นไป และระบบไม่สามารถใส่ต่ำกว่า 22 บาทได้ค่ะ
- เงื่อนไขดีล เราสามารถตั้งเงื่อนไขได้ว่าต้องการให้ลูกค้าซื้อเท่าไหร่ถึงจะสามารถใช้ส่วนลดได้ โดยสามารถเลือกได้ 3 แบบ คือ
1. ซื้อครบจำนวนชิ้น เช่น ซื้อ 2 ชิ้นขึ้นไป
2. ซื้อครบราคา เช่น ซื้อครบ 300 บาท
3. ไม่มีเงื่อนไข สามารถใช้ส่วนลดค่าจัดส่งได้เลยค่ะ - โปรโมชั่นสามารถใช้กับสินค้าใดบ้าง เลือกได้ 2 แบบ คือ ทั้งร้านค้าหรือทุกรายการในร้าน และเฉพาะสินค้าที่กำหนด คือเลือกเฉพาะที่เราต้องการทำโปรโมชั่นค่ะ
- รูปแบบการจัดส่ง แนะนำให้เลือกมาตรฐานค่ะ
- ภูมิภาค เลือกว่าโปรโมชั่นนี้สามารถใช้ได้ทุกภูมิภาค หรือ เฉพาะภูมิภาค แนะนำให้เลือกทุกภูมิภาคจะครอบคลุมกว่าค่ะ
- ยืนยัน ตรวจทานและกดยืนยันค่ะ
ส่วนวิธีการสร้างโปรโมชั่นส่งฟรีแบบละเอียด ผู้เขียนแนะนำให้สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Lazada University ได้เลยค่ะ ซึ่งจะมีการสร้างทั้งบนมือถือ และ คอมพิวเตอร์เลยค่ะ สะดวกสำหรับผู้ขายมากเลยค่ะ
การตั้งค่าโปรโมชั่นส่งฟรีจากร้านค้า เพื่อรับสัญลักษณ์ส่งฟรี รถเขียว
นอกจากนั้น Lazada เองก็มีการให้ สัญลักษณ์จัดส่งฟรี(รถสีเขียว) เพื่อเป็นการบอกกับลูกค้าว่าร้านนี้กำลังมีโปรโมชั่น โดยร้านค้าที่มีสัญลักษณ์นี้จะมี อัตราการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% และยอดคลิกเพิ่มกว่า 10% ค่ะ
โดยร้านค้าสามารถรับ สัญลักษณ์ได้โดยทำตามเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งตอนตั้งค่าสร้างโปรโมชั่นดังนี้ค่ะ
แบบที่ 1 สนับสนุนค่าจัดส่ง 100 % คือ ร้านออกค่าจัดส่งเองทั้งหมด
- เงื่อนไขในการส่งฟรี : ไม่มีเงื่อนไข
- ร้านค้าสนับสนุนค่าจัดส่งทั้งหมด
แบบที่ 2 สนับสนุนค่าจัดส่งบางส่วน แต่ต้องมากว่า 30 บาท และมีเงื่อนไขอื่นดังนี้ค่ะ
- เงื่อนไขในการส่งฟรี : ไม่มีเงื่อนไข
- ร้านค้าสนับสนุนค่าจัดส่งบางส่วน กำหนด 30 บาทขึ้นไป
- คะแนนร้านค้ามากกว่า 70%
- จำนวนคำสั่งซื้อใน 30 วันที่ผ่านมา มากกว่า 30 คำสั่งซื้อ
- อัตราการยกเลิกสินค้า น้อยกว่า 5%
พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าร้านค้าอยากได้สัญลักษณ์จะต้องออกค่าจัดส่งเองทั้งหมด หรือ จะออกแค่บางส่วนก็ได้ ถ้าเราเป็นร้านค้าที่เข้าเงื่อนไขที่กำหนดค่ะ
โดยร้านค้าสามารถศึกษาการรับสัญลักษณ์ เพิ่มเติมได้ที่ Lazada University ได้เลยค่ะ
แต่ข้อสำคัญที่ควรรู้เพิ่มเติมคือ สินค้าหมวดหมู่บริการและดิจิทัล จะไม่สามารสร้าง โปรโมชั่นส่งฟรีนี้ได้ค่ะ จบไปแล้วกับแบบแรก คือ ร้านค้าสร้างโปรโมชั่นเอง
ต่อไปเราจะพาไปทำความรู้จักแบบที่ 2 คือ โปรแกรมพิเศษที่ Lazada จัดขึ้นและร้านค้ากดเข้าร่วม หรือก็คือ โปรโมชั่นส่งฟรี จาก Lazada ( โปรแกรมส่งฟรีพิเศษกับลาซาด้า)
โปรโมชั่นส่งฟรี จาก Lazada
หลังจากเราได้รู้จักโปรโมชั่นส่งฟรีที่ร้านค้าสร้างขึ้นเองแล้ว ในส่วนนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จัก โปรโมชั่นส่งฟรี ที่ทาง Lazada เป็นคนจัดขึ้นแล้วร้านค้าเป็นคนกดเข้าร่วม หรือที่เรียกว่า โปรแกรมส่งฟรีพิเศษกับลาซาด้า ค่ะ
โปรแกรมส่งฟรีพิเศษกับลาซาด้า คือ โปรโมชั่นส่งฟรี ที่ทาง Lazada จะเป็นออกค่าจัดส่งให้กับลูกค้าเอง ด้วยการให้เป็นคูปองส่วนลดกับลูกค้า เมื่อลูกค้าซื้อถึงที่กำหนดไว้
พอเข้าร่วมแล้ว จะแสดงผลอยู่ 3 หน้า คือหน้าสินค้า หน้าค้นหาสินค้า และ หน้ารวมคูปอง ค่ะ
โดยเมื่อเข้าร่วมแล้ว ร้านค้าจะต้องถูกหักเปอร์เซ็นต์ไว้ตามที่ Lazada ระบุ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามหมวดสินค้าดังนี้ค่ะ
ค่าธรรมเนียมจะถูกปรับจาก 5% > เป็น 6% ยกเว้นสินค้าในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ มีผลตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไปค่ะ ซึ่งค่าบริการที่ถูกคิดสูงสุดจะอยู่ 299 บาทต่อชิ้นค่ะ
และมีเงื่อนไข คือ ต้องเข้าร่วมโปรแกรมขั้นต่ำ 30 วัน โดยนับจากวันที่กดเข้าร่วมโปรแกรม
- เมื่อกดเข้าร่วม คูปอง และ สัญลักษณ์ จะขึ้นภายใน 3 วัน
- เมื่อกดออกจากโปรแกรม ระบบจะใช้เวลาอย่างน้อย 3 วันในการดำเนินการ
โดยคูปองจะสามารถใช้กับทุกสินค้าในร้านค้า เมื่อมียอดหรือจำนวนชิ้นถึงตามที่ Lazada กำหนดไว้ และคูปองยังสามารถใช้ร่วมกับคูปองอื่น ๆ ได้ เช่น คูปองจากร้านค้า คูปองจาก Lazada และ คูปองจากแคมเปญ เป็นต้นค่ะ
และโปรแกรมนี้สามารถเข้าร่วมได้ทั้งร้านที่ไม่ได้มีการทำโปรโมชั่นส่งฟรี หรือหากร้านทำโปรโมชั่นส่งฟรีเองก็สามารถเข้าร้วมโปรแกรมได้ โดยระบบจะคิดการให้ส่วนลดกับลูกค้าดังนี้
- เลือกโปรโมชั่นส่งฟรีที่ให้ส่วนลดมากกว่า
- ถ้าส่วนลดจาก โปรโมชั่นของร้านค้ากับโปรโมชั่นจาก Lazada เท่ากัน จะเลือกใช้โปรโมชั่นของร้านค้า
- โปรโมชั่นส่งฟรีจาก Lazada และ โปรโมชั่นส่งฟรีของร้านค้า ไม่สามารถซ้อนทับกันได้
ซึ่งผู้เขียนเองก็มีตัวอย่างสถานการณ์ให้ผู้ขายดูประกอบว่าเมื่อลูกค้ากดซื้อสินค้าในกรณีต่าง ๆ ระบบจะมีการคิดค่าบริการแบบไหน และมีการเลือกใช้โปรโมชั่นไหนให้กับลูกค้าก่อนค่ะ
แบบแรกจะมี 2 สถานการณ์ คือ ร้านค้า (A) / โปรโมชั่นส่งฟรีของร้านค้า (ไม่มี) / โปรโมชั่นส่งฟรีของ Lazada (เข้าร่วม) เงื่อนไขคูปอง ส่งฟรี 40 บาท ขั้นต่ำ 99 บาท
สถานการณ์ที่ 1. ลูกค้าซื้อของถึงขั้นต่ำของคูปอง / เก็บคูปอง
- สินค้า 99 บาท ค่าส่ง 20 บาท
- เงื่อนไขคูปอง ส่งฟรี 40 บาท ขั้นต่ำ 99 บาท
- ได้ลดค่าจัดส่ง 20 บาท ตามเงื่อนไขคูปอง
- ค่าจัดส่งหลังหักส่วนลด 0 บาท
- ลูกค้าชำระราคาสินค้า+ค่าจัดส่ง รวม 99 บาท
- ค่าบริการที่ร้านต้องจ่าย(คิดจากราคาสินค้า) 6%x99 = 5.94
สถานการณ์ที่ 2. ลูกค้าซื้อของถึงขั้นต่ำของคูปอง / ไม่เก็บคูปอง
- สินค้า 99 บาท ค่าส่ง 20 บาท
- เงื่อนไขคูปอง ส่งฟรี 40 บาท ขั้นต่ำ 99 บาท
- ได้ลดค่าจัดส่ง 0 บาท เพราะลูกค้าไม่กดใช้เลยไม่ได้รับส่วนลด
- ค่าจัดส่งหลังหักส่วนลด 20 บาท
- ลูกค้าชำระราคาสินค้า+ค่าจัดส่ง รวม 119 บาท
- ค่าบริการที่ร้านต้องจ่าย(คิดจากราคาสินค้า) 6%x99 = 5.94
จะเห็นได้ว่าในสถานการณ์นี้ไม่ว่าลูกค้าจะใช้คูปองหรือไม่ใช้ ร้านก็จะถูกคิดค่าบริการอยู่ดี เพราะร้านค้าและ Lazada ได้เสนอโปรโมชั่นให้ลูกค้าแล้ว ระบบก็ถือว่าลูกค้าได้เก็บคูปองมาแล้ว ส่วนการใช้หรือไม่ใช้เป็นสิทธิ์ของลูกค้าค่ะ
ซึ่งไม่ใช่ทุกสถานการณ์ที่ร้านค้าจะต้องถูกคิดค่าบริการ ผู้เขียนแนะนำว่าให้ทุกท่านศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Lazada University เลยค่ะ เพราะทางลาซาด้าเองก็มีตัวอย่างสถานการณ์ถึง 11 แบบที่อาจขึ้นได้ค่ะ
การเข้าร่วมโปรแกรมส่งฟรีจาก Lazada
หลังจากดูตัวอย่างไปแล้ว เราจะมาสอนวิธีเข้าร่วม โปรแกรมส่งฟรีพิเศษจาก Lazada กันค่ะ
- Log in เข้าที่ Seller Center บนคอมพิวเตอร์ สังเกตด้านซ้ายมือ คลิก Lazada Program ต่อด้วย โปรแกรมส่งฟรีพิเศษ และ กด เข้าร่วมเดี๋ยวนี้ ค่ะ
- ระบบจะ Pop up รายละเอียดและข้อตกลงขึ้นมา อ่านทำความเข้าใจอีกรอบ และกด เข้าร่วม ค่ะ
และถ้าเกิดว่าเราเข้าไปแล้ว ผ่านไประยะเวลานึง เราอยากออกจากโปรแกรม สามารถทำได้ ดังนี้ค่ะ
- Log in เข้าที่ Seller Center บนคอมพิวเตอร์ สังเกตด้านซ้ายมือ คลิก Lazada Program เลื่อนไปที่แถบ โปรแกรมของฉัน กดปุ่ม เริ่ม แล้วกด Sign Out ค่ะ
- ระบบก็จะแจ้งเตือน Pop up ขึ้นมา อ่านทำความเข้าใจ และกด ยืนยัน ค่ะ
ซึ่งตรงนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับการเข้าร่วมและการออกจากโปรแกรมได้ที่ Lazada University ได้เลยค่ะ
ส่วนนี้ก็จบไปแล้วนะคะ สำหรับ โปรโมชั่นส่งฟรีจาก Lazada หลังจากเราได้ทำความรู้จักทั้งสองแบบจะพบมามีข้อแตกต่าง ข้อดีและเสีย ต่างกันอยู่ ซึ่งผู้เขียนสรุปมาให้ ดังนี้ค่ะ
โปรแกรมส่งฟรีของร้านค้า
ข้อดี
- ร้านค้าสามารถกำหนดเงื่อนไขได้เอง
- ร้านค้าเลือกใช้กับสินค้าแต่ละประเภทได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งร้าน
สิ่งที่ควรรู้
- ร้านค้าจำเป็นต้องสร้างโปรโมชั่นตามเงื่อนไขที่ลาซาด้ากำหนด ในการได้รับสัญลักษณ์ส่งฟรีรถเขียว
- ร้านค้าต้องออกค่าจัดส่งเอง ทำให้อาจเพิ่มต้นทุนต่อหน่วยเพิ่มได้
โปรแกรมส่งฟรีจาก Lazada
ข้อดี
- มีสัญลักษณ์ส่งฟรี รถเขียวขึ้น ทำให้ลูกค้าทราบว่าร้านมีโปรโมชั่น
- ร้านค้าไม่ต้องรับผิดชอบค่าส่งเอง แต่จ่ายเป็นค่าบริการให้ Lazada แทน
สิ่งที่ควรรู้
- ร้านค้าจะถูกคิดค่าบริการทุกออเดอร์ที่มีสถานะจัดส่งสำเร็จ ถึงแม้ลูกค้าไม่ใช้คูปอง
- ค่าบริการที่ถูกคิดจะไม่เท่ากันในแต่ละออเดอร์ และ สินค้า ร้านค้าต้องวางแผนต้นทุนดี ๆ
และนี่ก็คือทั้งหมดของ โปรโมชั่นส่งฟรี ของ Lazada ค่ะ เป็นไงบ้างคะ อยากลองสมัครเข้าร่วมโปรแกรม หรือ สร้างโปรโมชั่นเองกันเลยใช่ไหมคะ สำหรับนักการตลาด ที่ชอบวางแผนโปรโมชั่นต้องถูกใจแน่นอนเพราะ มีตัวเลือกได้ลองเล่นได้หลากหลาย หรือ แม้แต่ร้านค้าที่ต้องการทำการตลาดบน Lazada ก็สามารถหยิบโปรโมชั่นนี้มาใช้ได้เลยนะคะ อย่างที่บอกไป ลูกค้ากด Love แน่นอนค่ะ
สำหรับท่านที่ชอบอยากติดตามข่าวสารทางการตลาด รวมทั้งความรู้การตลาด ความรู้จาก Lazada ผู้เขียนฝากติดตามไว้ด้วยนะคะและนอกจากนั้นสามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนได้เลยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะヽ(•‿•)ノ
อยากอ่านบทความเพิ่มเติมแนะนำ ด้านล่างเลยค่ะ