Contactless Payment เปลี่ยนการซื้อเบียร์ให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
แคมเปญในวันนี้เป็นแคมเปญที่มีการนำเรื่องของการทำ Contactless Payment มาให้ลูกค้าได้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างเพื่อทั้งประโยชน์ของตัวลูกค้าเองและโอกาสทางการขายของแบรนด์ ที่นอกเหนือจากกการสร้างยอด Engagement, การได้ข้อมูลจากลูกค้า แล้ว ยังเป็นการกระตุ้นยอดขายได้อย่างดีอีกด้วย
และนี่คือแคมเปญการตลาดของแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์อย่าง Corona ที่ร่วมมือกับเอเจนซี่อย่าง VMLY&R ในประเทศ Mexico ครับ
Jersey Pay ( Contactless Payment )
เมือง Mexico มีสนามฟุตบอลแห่งชาติที่ชื่อ Azteca ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 8 ของโลก ทั้งยังเป็นสนามที่เคยจัดโอลิมปิคเกมไปในปี 1968 และในอนาคตก็กำลังจะเป็นที่จัด FIFA World Cup™ ในปี 2026
นอกจากนี้สนาม Azteca ยังถูกใช้ในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลในลีคต่าง ๆ อีกมากมาย ทั้งแมทช์ใหญ่ในประเทศ หรือจะเป็นแมทช์แบบ International ก็มี เรียกได้ว่า นักเตะระดับ Superstar หลายคนได้มาเหยียบสนามนี้กันเยอะมาก ทำให้ Azteaca เป็น 1 ในสนามที่เส้นทางสายอาชีพนักกีฬาฟุตบอลหลายคนอยากไปเตะสักครั้งในชีวิตอีกด้วย
เมื่อสนามค่อนข้างเป็นที่นิยมและมีความหมายต่อวงการฟุตบอลใน Mexico ขนาดนี้ ทำให้เวลามีการแข่งขันฟุตบอลใด ๆ ก็มักจะมีแฟนบอลของทีมสโมสรชื่อดังต่าง ๆ ในประเทศรีบมาจับจองที่ตั้งเพื่อดูการแข่งกันแบบติดขอบสนามจนเต็มแทบทุกครั้ง
มาถึงตรงนี้ก็คงจะเป็นได้ว่า Mexico เป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีความนิยมในกีฬาฟุตบอลอย่างมากเลยครับ
ในเวลานั้นเองแบรนด์พบ Insight บางอย่างเกี่ยวกับผู้ชมระหว่างที่มาดูฟุตบอล คือ สนามฟุตบอล Azteca ค่อนข้างขึ้นชื่อเรื่องการถูกล้วงกระเป๋าเยอะมาก ซึ่งสิ่งนี้ทางสนามเองก็พยายามที่จะรักษาความปลอดภัยให้กับคนที่มาดูฟุตบอลให้ได้มากที่สุดอยู่ แต่ก็ไม่หมดไปเสียที
การเกิดขึ้นบ่อยครั้งของเหตุการณ์นี้บ่อยถึงขนาดที่ว่า ทำให้คนที่มาดูฟุตบอลเลยมักจะไม่ค่อยพกโทรศัพท์มือถือ กับ กระเป๋าสตางค์มาดูฟุตบอลกันเลยทีเดียวครับ
ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขายเบียร์ในสนามฟุตบอลให้ลดลงโดยตรง เนื่องจากการซื้อค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยากมากเมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติที่ลูกค้ามีเงินทั้งเชิง Physical และ E-Payment ที่ทำผ่านโทรศัพทธ์มือถือได้ เพราะบางครั้งผู้ชมเอง ก็ยังไม่ได้พกเงินมาในจำนานมากพอที่จะซื้อเบียร์ หรือ มากพอที่จะซื้อเพิ่มเมื่อพวกเขาต้องการจะดื่มอีก
จุดนี้เองที่ทำให้แคมเปญนี้เกิดขึ้นครับ โดยมีการตั้งเป้าหมายที่อยากจะให้คนที่มาชมฟุตบอลได้ดื่มเบียร์อย่างที่ใจต้องการและแบรนด์เองก็สามารถขายเบียร์ได้ด้วย กลายมาเป็นแคมเปญที่มีชื่อว่า Jersey pay ที่มาพร้อมกับ Execution ที่น่าสนใจและแก้ปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด
เบสเดาว่าไอเดียตั้งต้นน่าจะเกิดมาจาก เราจะทำอย่างไรให้คนซื้อเบียร์ของเราได้ โดยที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ กับ กระเป๋าสตางค์ ? เพราะการแก้ปัญหาที่จะให้การขโมยลดลงนั้นคงจะเป็นไปได้ยากและใช้เวลานานแน่นอน
เทคโนโลยีอย่าง NFC ที่สามารถทำ E-Payment ได้จึงเข้ามาเป็นส่วนประกอบตรงนี้ อย่างการการติ๊ดบัตรรถไฟฟ้า
แต่หากเป็นอย่างนั้น ก็ยังมีโอกาสที่จะโดนล้วงกระเป๋าไปอยู่ดี นำไปสู่สิ่งที่โจรไม่สามารถขโมยไปได้ และคนที่เข้ามารับชมกีฬาส่วนใหญ่มีร่วมกันครับ และสิ่งนั้นก็คือ เสื้อเชียร์ประจำสโมสรของทีมที่กลุ่มผู้ชมใส่มา นั่นเองครับ
เนื่องจากเสื้อเชียร์ของทุกทีมจะมีตราประจำทีม (Badge) ติดไว้ที่ส่วนตรงหน้าอกอยู่ แบรนด์เลือกจุดนี้ในสำหรับการติดอุปกรณ์ NFC อย่าง Tag E-Payment ที่สามารถใช้สำหรับการจ่ายเงินที่จะเป็นทางที่ง่ายที่สุดที่ไม่มีทางโดนล้วงไปแน่นอน
แบรนด์จึงได้มีการประกาศออกไปก่อนที่แฟนบอลจะมาเข้าร่วมเชียร์ในแมทช์ถัดไปหลังตัดสินใจเริ่มแคมเปญเลยครับ ว่า ทุกคนสามารถนำเสื้อเชียร์ของทีมตัวเองมาติด Tag สำหรับการซื้อเบียร์ภายในสนามได้ที่ร้าน Modelorama (ร้านตัวแทนจำหน่ายเบียร์ Corona ที่เป็นบริษัทในเครือเดียวกัน) ทุกสาขา แน่นอนว่าสาขาในสนามบอลด้วยเช่นกัน
เพียงแค่ติดตั้ง ลงทะเบียน เติมเงินทิ้งไว้ หรือจะซื้อสินค้าทิ้งเอาไว้ก่อนที่จะมาดูฟุตบอลเลยก็ได้ บนหน้า Website ที่ตทางแบรนด์จัดเตรียมเอาไว้ หลังจากนั้นก็เพียงแค่มาดูฟุตบอลพร้อมเสื้อที่ติด Tag ทุกคนก็จะได้ดื่มเบียร์ที่พร้อมกับเชียร์ฟุตบอลที่ตัวเองชอบได้อย่างสบายใจ
แต่เท่านั้นยังไม่พอครับ แคมเปญนี้ยังสร้างจุดดึงดูดให้กระตุ้นการเข้าร่วมแคมเปญอีกหนึ่งอย่างคือ หากลูกค้าซื้อเบียร์ Corona ผ่าน Tag E-Patment ของ Jersey Pay ลูกค้าจะซื้อได้ในราคาเพียง 3.50 USD เท่านั้นจาก 6 USD ในราคาปกติ ใครที่เป็นสาวกการดื่มเบียร์ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่านี้เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจมากเลยใช่มั้ยล่ะครับ
ผลลัพธ์ของแคมเปญนี้ หลังจากที่ได้มีการประกาศแคมเปญออกไปก่อนเริ่มแมทช์ฟุตบอล ก็มีคนเอาเสื้อเข้าไปติด Tag และลงทะเบียนเข้าร่วมแคมเปญถึง 30,000 กว่าคนเลยครับ ซึ่งการทำให้การซื้อเบียร์ง่ายมากยิ่งขึ้นนี้เองยังทำให้ยอดขายเบียร์ Corona ในสนามเติมโตขึ้นถึง 35%
บทสรุป
แคมเปญนี้เป็นแคมเปญ Engagement กับกลุ่มลูกค้าที่สร้างยอดขายให้กับแบรนด์ที่น่าสนใจอีกหนึ่งแคมเปญครับ
นอกจากการหาวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกจุดและเอื้อประโยชน์ให้กับทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ตัวแคมเปญยังสร้างความสะดวกในการซื้อสินค้า และมีจุดดึงดูดที่ทำให้คนอยากจะซื้อเบียร์ในราคาที่ถูกกว่าปกติในบรรยากาศต้องการความครึกครื้น หรือ การเฉลิมฉลองด้วย
เท่านั้นยังไม่พอแบรนด์ยังได้รับ Data จากการลงทะเบียนของลูกค้าเพื่อสามารถนำไปใช้ในการทำธุรกิจหรือการตลาดต่อไปได้ด้วย
ถ้าแคมเปญนี้มีในไทยก็น่าสนใจอยู่เหมือนกันนะครับ เพราะเจ้าตัว Tag นี้เบสคิดว่ายังสามารถประยุกต์ไปเป็นอะไรได้อีกเยอะเลย
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ 🙂
สามารถอ่านบทความอื่น ๆ ของการตลาดวันละตอนได้ที่ คลิก